จบไม่ลง บัตรคนจน
ม่จบๆ พูดกันไม่จบ มีข้อสงสัยวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายในโลกโซเซียล เกิดข้อกังขากับบัตรสวัสดิการประชารัฐหรือ“บัตรคนจน”
ฝั่งรัฐบาลพยายามจะผลิตสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อ ภายใต้โครงการประชารัฐสวัสดิการ มีการเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนก่อนหน้านี้ มีผู้คนมาลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด 11.67 ล้านราย
ส่วนที่ถูกโจมตีหนักตอนนี้ดูเหมือนจะเป็น ส่วนของการลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ เป็นวงเงินสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจาก“ร้านธงฟ้าประชารัฐ” หรือร้านค้าที่ลงทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ มีข้อกำหนดว่าผู้ที่ลงทะเบียนรายได้น้อย มีรายได้สูงกว่า 30,000 ต่อปีจะได้รับรายละ 200 บาทต่อเดือน ผู้ที่ลงทะเบียนรายได้น้อย มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 ต่อปี จะได้รับรายละ 300 บาทต่อเดือน
แนวคิดแนวนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยจริงๆถือเป็นเรื่องที่ดีในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เพราะทุกรัฐบาลก็มีการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอยู่แล้ว ต่างกันตรงที่จะใช้ชื่ออะไรมากกว่า
แต่ในยุคนี้มันมีความแตกต่างอะไรบางอย่าง ก็เพราะมี“กลุ่มเจ้าสัว”เข้ามาอยู่ร่วมในคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ มีอยู่ไม่กี่ตระกูล ฉะนั้นพอรัฐบาลทำอะไรออกมา ย่อมเป็นที่จับจ้องเป็นเรื่องธรรมดา บ้างก็บอกว่าเอื้อประโยชน์ บ้างก็บอกว่าเป็นแผนช่วยระบายสินค้า ทั้งหมดจึงอยู่ที่มุมมองของแต่ละฝ่ายมากกว่า
สิ่งสำคัญรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นไปตามที่มีข้อ“กังขา”ในสังคมให้ได้มากกว่า แน่นอนบ้านเราผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคมีเพียงไม่กี่ราย
กรณีที่“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงพาณิชย์เร่งหามาตรการ“ดึงสินค้าชุมชน” เข้ามาอยู่ในร้านธงฟ้า เพื่อใช้บัตรสวัสดิการซื้อได้ ตรงนี้ควรเร่งดำเนินการเพราะชาวบ้านมีจำนวนไม่น้อยที่เขายังขายสินค้าไม่ออก แต่หากชุมชนสามารถผลิตสินค้าป้อนเข้ามาได้ จะเป็นการลดปัญหาสินค้าชุมชนผลิตแล้วขายไม่ได้ เรื่องแบบนี้ต้องเร่งทำให้เกิดขึ้น
ที่สำคัญน่าจะช่วยลดข้อครหาดึงคนจน ช่วยระบายสินค้านายทุนได้ทีเดียว ประการถัดมา ควรสอดส่องการดำเนินให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินค้าราคาถูกจริงๆ ไม่ใช่โครงการสวยหรูแต่ชาวบ้านยังถูกเอาเปรียบ จะด้วยวิธีไหนก็ตาม