อาชญากรไซเบอร์กับอนาคตที่มืดมน

อาชญากรไซเบอร์กับอนาคตที่มืดมน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เอฟบีไอ (FBI) แถลงข่าวจับกุม นายไรอัน ลิน (Ryan Lin) วัย 24 ปี ชาวแมสซาชูเซตส์

ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น ไซเบอร์ สตอลเกอร์ (Cyber stalker) หรือ ผู้ที่มีพฤติกรรมหมกมุ่นชอบติดตามชีวิตคนบนอินเทอร์เน็ต

นายไรอัน ลิน ได้ใช้ข้อมูลส่วนตัวรวมถึงรูปภาพต่างๆ ที่ขโมยมาผ่านอินเทอร์เน็ตของเพื่อนบ้านสาวที่ชื่อ เจนนิเฟอร์ สมิธ (Jennifer Smith) เผยแพร่รายละเอียดส่วนบุคคลในแบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า ด็อกซ์ซิ่ง (doxing) การโพสต์ภาพที่สนิทสนมคู่กับเจนนิเฟอร์ รวมถึงการส่งอีเมลข้อมูลส่วนตัวของเธอไปยังผู้ติดต่อของเธอรวมถึงครอบครัวญาติและเพื่อนร่วมงาน 

นอกจากนั้น ได้โพสต์โปรไฟล์ปลอมของเธอไปยังเว็บไซต์ค้าประเวณีการมีเพศสัมพันธ์ แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของเธอที่ไม่เคยแชร์กับใครและส่งภาพที่อาจเป็นภาพลามกอนาจารของเด็กไปให้ครอบครัวและเพื่อนของเธอ นอกเหนือจากนี้การกระทำของนายไรอันทำให้เพื่อนของเจนนิเฟอร์ส่งตำรวจมาที่บ้านเธอเพราะเข้าใจว่าถูกเธอข่มขู่ โดยเจนนิเฟอร์ถูกคุกคามเป็นเวลานานถึงปีครึ่ง 

อย่างไรก็ตาม เขาได้ใช้หลายวิธีในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถหลุดรอดได้เพราะเอฟบีไอมีผู้ช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน รวมถึงบริษัทวีพีเอ็นยักษ์ใหญ่อย่าง PureVPN ที่ส่งข้อมูลและช่วยนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้

การที่ผู้ให้บริการวีพีเอ็นออกตัวช่วยในครั้งนี้ เรียกได้ว่า เป็นการละเมิดนโยบายส่วนบุคคลที่ตนตั้งไว้ ที่จะไม่เก็บบันทึกข้อมูลของผู้ใช้งาน ทั้งๆ ที่บริษัทผู้ให้บริการหลายรายออกมาประกาศตัวว่า จะไม่ระบุตัวตน ไม่มีนโยบายการเข้าระบบ แต่สุดท้ายแล้วการจับกุมครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า แท้จริงแล้วยังคงเก็บบันทึกข้อมูลลูกค้าไว้

แม้ว่าจุดประสงค์หลักของวีพีเอ็นถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน ให้พนักงานสามารถเข้าระบบเพื่อทำงานได้จากที่ใดก็ได้ แต่ภายหลังมีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางเพื่อการเข้าเว็บต้องห้ามต่างๆ ซึ่งบางประเทศอาจมีการบล็อกไว้ โดยจะมีท่อหรือที่เรียกว่า ทันแนล (Tunnel) วิ่งผ่านการปิดกั้นไปยังเว็บไซต์หรือเซิร์ฟเวอร์ต้องห้าม 

บางประเทศเช่น จีนออกกฎหมายมากำกับอย่างเข้มงวด หากเปิดใช้โดยไม่แจ้งรัฐนับเป็นการผิดกฎหมายและอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือถูกปิดทันที

อาชญากรไซเบอร์ทั้งหลาย ไม่อาจตายใจได้อีกต่อไป เพราะหน่วยงานรัฐ สามารถสืบเสาะค้นตัวผู้กระทำผิดได้ทั่วโลก พันธมิตรของหน่วยงานเหล่านี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง วีพีเอ็นที่คุณใช้แท้จริงแล้วอาจเป็นสายสืบของหน่วยงานรัฐโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยก็ว่าได้