ข้อมูลทางการตลาด ต้องมี ต้องรู้ ถึงอยู่รอด

ข้อมูลทางการตลาด ต้องมี ต้องรู้ ถึงอยู่รอด

ในยุคที่เราสามารถเข้าถึงข่าวสารได้ง่ายขึ้น องค์ความรู้ต่างๆก็ถูกแชร์ในโลกดิจิตอลเต็มไปหมด ข้อมูลทางการตลาดคือสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้อีกต่อไป

เรื่องของการสำรวจและวิจัยทางการตลาด(Market Research)นั้นไม่เคยเก่าเลย เพราะว่าการวางแผนธุรกิจนั้นต้องอาศัยปัจจัยจำนวนมากที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ สำหรับนักการตลาดแล้ว ข้อมูลทางการตลาดจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริง(Insight)ของผู้บริโภคและนำเสนอคุณค่าของสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุด บ่อยครั้งที่เราเห็นบางแบรนด์คิด วิเคราะห์ วางแผนกันเองไม่กี่คนในห้องประชุมโดยไม่ได้สนใจสิ่งที่ตลาดและกลุ่มเป้าหมายต้องการจริงๆ สุดท้ายก็ออกสินค้าที่ขายไม่ออก ไม่ทำกำไร แถมเลิกขายไปแล้วคนก็อาจจดจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งหนึ่งเคยมีสินค้าตัวนี้อยู่บนโลก 

บทบาทของบริษัทรีเสิร์ชหรือผู้ให้คำปรึกษาด้านข้อมูลทางการตลาดจึงยังมีความสำคัญ จากข้อมูลของสมาคมการตลาดสหรัฐอเมริกาหรือเอเอ็มเอ(American Marketing Association-AMA) พบว่าบริษัทรีเสิร์ชในสหรัฐอเมริกามีรายได้ในปี2016สูงถึง 1.15หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือเกือบ4แสนล้านบาทเลยทีเดียว การวิจัยทางการตลาดครอบคลุมทั้งการสำรวจข้อมูลลูกค้า การสำรวจความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย ข้อมูลการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์แนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมนั้นๆ

เอเอ็มเอชี้ให้เห็นความสำคัญของการวิจัยตลาดซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรของหน่วยธุรกิจได้ โดยมองเป็นสองประเด็นคือ หนึ่ง การสำรวจตลาดโดยปกติแล้วจะสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า(Customer Satisfaction)เสมอ ทำให้ทราบว่าสินค้าและบริการประเภทใดที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด มีสิ่งใดที่จะช่วยปรับปรุงให้ดีขึ้น ลูกค้าจะรู้สึกว่าแบรนด์ใส่ใจดูแลและให้ความสำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยให้แบรนด์สามารถวางแผนในการผลักดันสินค้ายอดนิยมให้มากขึ้นด้วย หากแต่การสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าต้องทำในระดับที่พอเหมาะ ไม่บ่อยจนเกิดความรำคาญให้ลูกค้า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความหงุดหงิดใจและเลิกซื้อสินค้าไปเลยก็ได้

และสอง เอเอ็มเอชี้ว่าเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหลายจะเพิ่มผลกำไรให้องค์กร โดยจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการลงทุนที่ดี 1พันบริษัทที่ติดอันดับของฟอร์จูนล้วนใช้ประโยชน์จากเครื่องมือวิเคราะห์ทางการตลาดทั้งสิ้น และช่วยทำให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงถึง8เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลที่ดีทำให้การวางแผนกลยุทธ์ขององค์กร(Strategic Planning)ชัดเจนมากขึ้น และนักการตลาดก็จะใช้ในการวางคุณค่าของแบรนด์ในใจของผู้บริโภค(Positioning)และสร้างการรับรู้ได้ตรงกับคุณค่าของแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารการตลาดออกไป นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์กับแผนการขยายธุรกิจ การจ้างงานพนักงานใหม่ที่ตรงกับความต้องการ หรือกระทั่งการปรับปรุงระบบไอทีในองค์กรให้ดีขึ้นได้

เราได้ยินมานานว่า’รู้เรารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’ ประโยคนี้ก็ยังเป็นจริงจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลจึงไม่ใช่แค่ข้อมูลอีกต่อไป หากแต่เป็นทรัพย์สิน(Asset)ขององค์กรที่ต้องบริหารจัดการและใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าการไม่มีข้อมูลคือ มีข้อมูลแล้วแต่เพิกเฉยไม่คิดจะปรับปรุงหรือยังยึดติดกับกรอบความคิดเดิมๆแบบยึดตนเองเป็นตัวตั้งหรือคิดแบบในสู่นอก(Inside Out) ไม่ยอมฟังสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดและผู้บริโภคแบบนอกสู่ใน(Outside In) ปล่อยไปนานๆ ลูกค้าหนี รายได้ไม่มา ถึงตอนนั้นคิดแค่ขยับตัวก็เจ็บแล้ว