ต้องตกผลึกทางความคิด

ต้องตกผลึกทางความคิด

กรณีแนวคิดต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง การคัดสรรผู้ว่าราชการจังหวัดใหม่

โดยเปิดโอกาสให้กับมืออาชีพเข้ามาบริหาร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจ และมีความซับซ้อนในประเด็นปัญหา จากเดิมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะได้รับการแต่งตั้งตามขั้นตอนของมหาดไทย ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายที่จะได้รับการต่อต้านจากคนกระทรวงมหาดไทย เช่นเดียวกับแนวความคิดก่อนหน้านี้ที่มีการเสนอให้ผู้ว่ามาจากการเลือกตั้งในจังหวัดที่มีความพร้อม และในที่สุดก็ไม่มีจังหวัดใดประสบความสำเร็จ

หากพิจารณาประเด็นข้อเสนอในครั้งนี้นับว่ามีความแตกต่างจากก่อนหน้านี้พอสมควร โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่านโยบายและแผนงานของรัฐบาลไม่เดินหน้ามากนัก และหากติดตามแนวคิดในครั้งนี้ก็จะเห็นว่า มุ่งเน้นไปที่ประเด็นการบริหารนโยบายเศรษฐกิจเป็นสำคัญ เพราะหากทุกอย่างเป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ก็จะเห็นว่าจากนี้ไปประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในทางเศรษฐกิจและทางสังคมในภูมิภาค

ดังนั้น แนวคิดการแต่งตั้งให้ผู้บริหารมืออาชีพเข้ามามีบทบาทดูแลพื้นที่จังหวัดถือว่ามีความจำเป็น หากต้องการให้มีการขับเคลื่อนตามนโยบายหลักของรัฐบาล อาทิ นโยบายการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเปรียบเทียบเขตอุตสาหกรรมในอดีต เพราะผู้เข้ามาดูแลและทำหน้าที่บริหารจัดการจำเป็นต้องรอบรู้ในเรื่องเศรษฐกิจไม่เพียงแค่ระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถเชื่อมโยงกับประชาคมโลกได้ด้วย

ความพยายามผลักดันให้มืออาชีพเข้ามาบริหารพื้นที่ระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ถือเป็นเรื่องท้าทายอีกครั้งสำหรับสังคมไทย ในเรื่องของการกระจายอำนาจการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านี้สามารถผลักดันให้เกิดการกระจายอำนาจทางการเงินการคลังสู่ส่วนท้องถิ่นมาได้แล้ว แต่ยังติดปัญหาในเรื่องของการกระจายอำนาจทางด้านการปกครอง ซึ่งยังอยู่กับกระทรวงมหาดไทยเช่นเดิม นั่นหมายความว่าในครั้งนี้เป็นความพยายามอีกครั้งที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง

คำถามก็คือ ระบบบริหารราชการในปัจจุบันมีปัญหาหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถจัดประเภทปัญหาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขั้นตอนล่าช้าในการแก้ปัญหาระดับพื้นที่ รวมถึงการปรับแนวทางพัฒนาพื้นที่ตามนโยบายรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม การบริหารภายใต้กระทรวงมหาดไทยก็ถือว่าสามารถดูแลประชาชนได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิต หากไม่นับความขัดแย้งที่เกิดจากการเมือง แต่ปัญหาก็คือรูปแบบปัจจุบันยังมีความเหมาะสม กับสถานการณ์การเปลี่ยนทางสังคมหรือไม่

หากติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ ก็ถือได้ว่ามีตัวอย่างความสำเร็จและความล้มเหลวของการกระจายอำนาจ เช่นเดียวกับมีตัวอย่างความสำเร็จและความล้มเหลวของการรวมศูนย์อำนาจ ดังนั้น ประเด็นสำคัญและต้องมีการตกผลึกทางความคิดให้ได้ หากต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารระดับท้องถิ่น คือ ประเทศไทยควรจะมีรูปแบบการบริหารราชการอย่างไร และที่เป็นอยู่มีความเหมาะสมหรือไม่ อีกทั้งทางออกที่ควรจะเป็นควรจะมีรูปแบบหน้าตาเป็นอย่างไร

เราเห็นว่าการตกผลึกทางความคิดในสังคมเป็นสิ่งจำเป็น หาใช่เรื่องที่กำหนดจากนโยบายส่วนกลาง แต่จำเป็นต้องระดมความเห็นของภาคประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการกระจายอำนาจการปกครอง เพราะหากพบว่าท้องถิ่นมีความพร้อมในการปกครองและบริหารด้วยตนเองได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรจะไปยื้อเอาไว้ เพราะนั่นจะเป็นเชื้อความขัดแย้งของสังคม แต่หากว่าท้องถิ่นไม่มีความพร้อม เราก็ควรยอมรับและหากที่เป็นอยู่ไม่สนองนโยบายหรือดูแลไม่ทันยุคทันสมัย ก็อาจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในตัวหน่วยงานเอง