75 ปีเหตุการณ์ญี่ปุ่นถล่ม Pearl Harbour :

75 ปีเหตุการณ์ญี่ปุ่นถล่ม Pearl Harbour :

ทรัมป์, ปูติน จะเร่งเสริมพลังนิวเคลียร์!

ผมตื่นขึ้นมาเช้าเมื่อวาน เห็นข่าวทั้งวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย และ โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ พูดห่างกันไม่กี่ชั่วโมงแต่เรื่องเดียวกันแล้วก็ใจหาย

เพราะสองผู้ยิ่งใหญ่บอกว่าประเทศของตน จะต้องเสริมสร้างขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกทางด้านอาวุธร้ายแรง

นี่เราจะถอยกลับไปสู่การแข่งขันสร้างแสนยานุภาพทางทหาร เพื่อเผชิญหน้ากันอีกรอบแล้วหรือ?

ปีนี้ครบรอบ 75 ปีของเหตุการณ์ญี่ปุ่นถล่ม Pearl Harbour ผมคิดว่าผู้นำทั้งโลกจะได้บทเรียนแล้ว ว่าไม่ควรที่ใครจะหาเรื่องสร้างบรรยากาศตึงเครียดที่จะนำไปสู่สงครามอีกรอบ

ที่ไหนได้...ปูตินกับทรัมป์ที่นัยว่าเป็นผู้นำสองมหาอำนาจ ที่มีความสนิทสนมกันมากกว่าประวัติครั้งใด ๆ ในประวัติศาสตร์ของสองประเทศนี้กลับทำท่าว่า ต่างคนต่างจะยังสร้างสมพละกำลังทางทหารอย่างไม่หยุดยั้งอีกครั้ง

การทำสงครามสังหารหมู่ในประวัติศาสตร์ของโลก ได้รับการจารึกอยู่ถึงทุกวันนี้... ไม่ว่าจะเป็นกรณีสังหารหมู่หนานจิง, การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมากับนางาซากิและการถล่มเพิร์ล ฮาร์เบอร์

วันที่ 26 ธันวาคมนี้ นายกฯญี่ปุ่นชินโซะ อาเบะ จะไปร่วมพิธีรำลึกถึงกรณีญี่ปุ่นถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ ร่วมกับประธานาธิบดีโอบามาเนื่องในโอกาสครบ 75 ปี

หลังจากที่โอบามาไปร่วมพิธีไว้อาลัยที่ฮิโรชิมากับอาเบะเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศว่าการจะระงับยับยั้งสงครามอาวุธร้ายแรงรอบใหม่ของโลกนั้นจำเป็นต้องมี การปฏิวัติทางศีลธรรม” (moral revolution)

ซึ่งหมายถึงสำนึกร่วมกันของนานาชาติ ที่จะต้องตระหนักถึงอันตรายแห่งการแสวงหาอำนาจ และผลประโยชน์โดยไม่สนใจถึงความเสียหายต่อวิถีชีวิตของมนุษย์

กรณีสังหารหมู่ที่หนานจิง ช่วง 6 สัปดาห์ที่ทหารญี่ปุ่นบุกเมืองหลวงเก่าแห่งนี้เริ่มตั้งแต่ 13 ธันวาคม 1937 ทหารจีนและพลเรือนตายระหว่าง 40,000 ถึง 300,000 คน

ต่อมาอีก 4 ปี ณ วันที่ 7 ธันวาคม 1941 ญี่ปุ่นเปิดปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ของสหรัฐฯ ด้วยเครื่องบิน 353 ลำปล่อยจากเรือบรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ ทหารอเมริกันตาย 2,403 คน บาดเจ็บ 1,178 คน และเครื่องบินสหรัฐฯถูกทำลาย 188 ลำ

เหตุการณ์ครั้งนี้บังคับให้สหรัฐฯ ต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองอย่างเต็มตัว และนำไปสู่การหย่อนระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ เมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม 1945 ถือเป็นฉากการยุติสงครามโลกครั้งที่สอง

ยอดคนตายจากการถล่มสองเมืองนี้ประมาณกันว่าอยู่ที่ 129,000 คน เป็นการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามสังหารหมู่ ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติครั้งเดียว... และหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย หากผู้นำโลกจริงใจและจริงจังกับการสร้าง “สันติภาพ” และระงับยับยั้งการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูงดั่งที่ยังดำเนินการอยู่ทุกวันนี้

เป้าหมายการถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ของญี่ปุ่น คือการไม่ให้กองเรือสหรัฐฯ ในแปซิฟิกเข้าสกัดแผนการของญี่ปุ่น ที่จะเข้ายึดฟิลิปปินส์, เกาะกวมและเกาะเว้กที่อยู่ใต้อาณัติของอเมริกา และมาเลเซีย, สิงคโปร์กับฮ่องกงของอังกฤษ

แต่ผลกลับตรงกันข้าม เพราะเมื่อญี่ปุ่นเปิดปฏิบัติการ “แหย่หนวดเสือ” อย่างเปิดเผยก็เท่ากับเป็นการเชื้อเชิญสหรัฐฯ ให้เข้าร่วมสงครามอย่างเต็มตัวทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้วอชิงตันได้พยายามรักษาระยะห่างจากสงคราม ให้ความช่วยเหลือฝ่ายพันธมิตรก็อย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น

มีคำถามว่าเนื่องในโอกาสครบ 75 ปีของเหตุการณ์เพิร์ลฮาร์เบอร์ นายกฯอาเบะเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรก ที่มาร่วมพิธีไว้อาลัยอย่างเป็นทางการถึงจุดที่เกิดเหตุนั้น, เขาจะเอ่ยปาก “ขอโทษ” สหรัฐฯและชาวโลกอย่างเป็นทางการต่ออาชญากรรมสงคราม ที่ญี่ปุ่นได้กระทำไว้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองหรือไม่? และหากจะแสดงความเสียใจ จะใช้ภาษาแตกต่างไปจากที่ผู้นำญี่ปุ่นเคยแสดงเอาไว้อย่างไร จึงจะเป็นที่พอใจของประเทศที่ตกเป็นเหยื่อของปฏิบัติการโหดในช่วงนั้นบ้าง?

ที่สำคัญกว่านั้นคือปูตินกับทรัมป์ กำลังส่งสัญญาณอะไรให้ชาวโลก?

หรือเราต้องเตรียมอพยพไปอยู่ดาวดวงอื่น อย่างที่นักวิทยาศาสตร์คนดัง Stephen Hawking ได้เตือนเรามาหลายครั้งหลายหนกระนั้นหรือ?