อันเนื่องมาจากเรื่องบราซิลจัดโอลิมปิก

ซึ่งเป็นของนักกีฬาทั่วไปแข่งขันระหว่างวันที่ 5-21 ส.ค. ส่วนหลังเป็นของนักกีฬาพิการซึ่งเริ่มแข่งขันเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า มหกรรมกีฬานี้มีที่มาจากการแข่งขันกีฬาในสมัยกรีกโบราณและในปัจจุบัน กีฬาโอลิมปิกมีภาคฤดูหนาวด้วยซึ่งจัดทุก 4 ปีเช่นเดียวกับภาคฤดูร้อนโดยจัดห่างกัน 2 ปี โอลิมปิกฤดูหนาวครั้งต่อไปจะจัดในปี 2561 ณ เมืองเปียงชางของเกาหลีใต้ ส่วนโอลิมปิกฤดูร้อนจะจัดในปี 2563 ณ กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น

เนื่องจากโอลิมปิกฤดูหนาวต้องใช้หิมะ ประเทศที่จะจัดได้ต้องอยู่ในเขตหนาว ส่วนภาคฤดูร้อนประเทศไหนจะจัดก็ได้หากฝ่ายผู้จัดและคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเห็นพ้องต้องกัน 

อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติประเทศที่คณะกรรมการฯ อนุมัติให้จัดมีขนาดเขื่อง ๆ ขึ้นไปพร้อมกับมีความก้าวหน้าทั้งในด้านการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานและการบริหารจัดการ หรือในอีกนัยหนึ่งเป็นประเทศที่เรียกกันว่าพัฒนาสำเร็จแล้ว หรือไม่ก็ได้รับการยอมรับว่าใกล้จะสำเร็จ ประเทศจำนวนมากต้องการเป็นเจ้าภาพเพราะนอกจากการเตรียมและการจัดการแข่งขันจะเป็นการกระตุ้นการกีฬาและเศรษฐกิจแล้ว การเป็นเจ้าภาพยังถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศอีกด้วย

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกยุคใหม่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2439 ณ เมืองเอเธนส์ของกรีซเนื่องจากถือกันว่ากรีซและเอเธนส์เป็นเสมือนผู้รับมรดกตกทอดจากกรีกโบราณรวมทั้งอุดมการณ์ของการแข่งขันสำคัญยิ่งนี้ อย่างไรก็ดี เวลาผ่านไปอีกกว่า 100 ปีก่อนที่กรีซจะได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งเมื่อปี 2547 การเว้นช่วงนานเช่นนั้นเกิดจากปัจจัยในด้านการพัฒนาของกรีซซึ่งก้าวหน้าไปอย่างเชื่องช้าเมื่อเทียบกับการพัฒนาของประเทศในยุโรปตะวันตก ไม่นานหลังทหารยึดอำนาจและปกครองประเทศเป็นครั้งสุดท้ายในช่วงปี 2510-2517 กรีซเริ่มใช้รูปแบบประชาธิปไตยที่ประเทศในสหภาพยุโรปยอมรับพร้อมกับพยายามพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ 

เมื่อถึงปี 2524 กรีซจึงได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป การได้รับการอนุมัติให้จัดกีฬาโอลิมปิกอีกครั้งในปี 2547 จึงเป็นเสมือนการยืนยันว่ากรีซเป็นประก้าวหน้า หรือพัฒนาแล้ว อย่างไรก็ดี ดังเป็นที่รู้กัน อีกไม่นานต่อมากรีซเดินเข้าสู่ภาวะล้มละลายหลังเศรษฐกิจโลกเริ่มถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2551 ปัจจัยที่ทำให้กรีซล้มละลายได้แก่นโยบายประชานิยมและการโกหกพกลมของรัฐบาลผ่านการตกแต่งบัญชี นั่นเป็นดัชนีที่ชี้บ่งว่ากรีซยังพัฒนาไม่สำเร็จ

หากใช้ระดับของการพัฒนา หรือแนวโน้มที่บ่งชี้ว่าประเทศจะพัฒนาสำเร็จในอนาคตอันใกล้เป็นมาตรในการทำนายโอกาสของการเป็นเจ้าภาพ ยากที่จะคาดว่าเมื่อไรกรีซจะได้เป็นอีกครั้งทั้งนี้เพราะการพัฒนาอาจเป็นไปในรูปของการก้าวไปข้างหน้าสลับกับการถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างกรณีของเม็กซิโกซึ่งเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2511 หลังเวลาผ่านไปกว่า 48 ปี ยังไม่มีสัญญาณว่าเม็กซิโกจะได้รับการอนุมัติให้จัดอีก ต่างกับเกาหลีใต้และจีนซึ่งอยู่ในกลุ่มของประเทศกำลังพัฒนาที่คาดว่าจะพัฒนาสำเร็จเมื่อเป็นเจ้าภาพครั้งแรก กล่าวคือ เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพภาคฤดูร้อนเมื่อปี 2531 และจะเป็นเจ้าภาพภาคฤดูหนาวในปี 2561 

ส่วนจีนเป็นเจ้าภาพภาคฤดูร้อนเมื่อปี 2551 และจะเป็นเจ้าภาพภาคฤดูหนาวในปี 2565 นั่นอาจตีความหมายได้ว่าสังคมโลกยอมรับแล้วว่าสองประเทศนี้พัฒนาสำเร็จไปตามขั้นตอนที่ W. W. Rostowเคยเสนอไว้ในหนังสืออันโด่งดังชื่อ The Stages of Economic Growth: A Non-Communist Manifesto ซึ่งพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2503 ส่วนเม็กซิโกบินต่อไปไม่สำเร็จตามขั้นตอนนั้นซึ่งถ้าจะให้ฟันธงคงต้องฟันว่าเพราะไม่สามารถลดความฉ้อฉลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนเกาหลีใต้และจีนทำได้

บราซิลใช้กระบวนการประชาธิปไตยถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งสำเร็จในช่วงมหกรรมโอลิมปิกเพราะถูกจับได้ว่าฉ้อฉล หากนั่นเป็นสัญญาณว่าบราซิลจะลดความฉ้อฉลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกไม่นานบราซิลจะพัฒนาสำเร็จและได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกอีกครั้ง 

อีกนานเท่าไรไทยจึงจะได้เป็นเจ้าภาพหนอ?