สารพัดปกนิตยสาร ว่าด้วยเขาคนนั้น
ผมเอานิตยสารดังๆ ของอเมริกา
ที่เอารูปล้อเลียน โดนัล ทรัมป์ ขึ้นปกมาให้ได้ดูกันสัก 5 ปก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถ ในการสร้างกระแสเกรียวกราวของเขา ในแวดวงคอข่าวการเมืองสหรัฐอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ล่าสุดดูเหมือนผู้คนจะเริ่มเห็นว่าโอกาสของเขา ที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ เริ่มจะเลือนลางลงเพราะวาทะและโวหารเพี้ยนๆ ที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขรมไปทั่ว
แม้แกนนำของพรรครีพับบลิกันของเขาเอง ก็เริ่มปวดหัวหนัก จะรวมตัวกันเพื่อจะหาทาง “บริหารจัดการ” ทรัมป์ไม่ให้สร้างความเสียหายให้กับพรรคมากไปกว่านี้ได้อย่างไร
เป็นสภาพที่กระอักกระอ่วนอย่างยิ่งสำหรับคนในพรรคเอง เพราะจุดยืนทรัมป์หลายๆ เรื่องไม่ใช่แนวทางอนุรักษ์นิยมของพรรค และยิ่งทรัมป์สร้างศัตรูในหมู่คนนับถือศาสนามุสลิม ผู้หญิง สื่อหลายสำนักและผู้อพยพส่วนใหญ่ ก็ยิ่งจะมีผลกระทบทางลบต่อพรรค และผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว. และผู้ว่าการรัฐทั้งหลายในวันที่ 8 พ.ย.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งตำแหน่งเก้าอี้ทำเนียบขาวด้วย
ปกของไทม์ล่าสุดเป็นรูปทรัมป์ภายใต้พาดหัว Meltdown อันหมายถึงการ “หลอมละลาย” อันเกิดจากวาทะดุเดือดเลือดพล่านในหลายๆ เรื่อง เป็นการตอกย้ำว่ายิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ลีลาท่าทีและน้ำเสียงของเขา ก็ยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเองมากขึ้นทุกที
หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ Daily News ที่นิวยอร์กมีรูปและพาดหัว ที่ไม่เกรงใจทรัมป์เลยแม้แต่น้อย : Dawn of the Brain Dead
ไม่ต้องอ่านรายละเอียดของบทความนี้ ก็ต้องรู้ว่าเขาหมายความว่าอเมริกากำลังก้าวเข้าสู่จุดเริ่มต้นของ “ยุคสมองตาย”... และเมื่อเห็นรูปล้อเลียนแล้ว ก็ไม่ต้องถามไถ่ให้มากว่าเขาหมายถึงใคร
นิตยสาร Mad ซึ่งโด่งดังด้านการ์ตูนเสียดสีประชดประชันนักการเมือง ได้จังหวะเอารูปทรัมป์ขึ้นปกพร้อมพาดหัวว่า “ฉบับพิเศษว่าด้วยความไร้สมอง...” ใครเห็นภาพล้อและข้อความนี้ ก็ต้องรู้ว่าเนื้อหาข้างในพูดถึงทรัมป์กับแนวทาง “ไร้สมอง” ของเขา
อีกปกหนึ่งเป็นของ Philadelphia Daily News ที่เรียกทรัมป์ว่าเป็น “ฮิตเลอร์ยุคใหม่” เพราะนโยบายห้ามคนมุสลิมเข้าประเทศอเมริกา เปรียบเหมือนอดีตผู้นำเยอรมันคนนี้ ที่เคยวางจุดยืนต่อต้านคนยิวอย่างดุเดือดรุนแรง
The New Yorker เป็นนิตยสารรายสัปดาห์ชื่อดังของอเมริกา ปกนี้ไปเรียกวิญญาณของอดีตประธานาธิบดีดังๆ หลายคนมาดูทีวีพร้อมหน้ากัน พอฟังทรัมป์ได้ไม่เท่าไหร่ทุกคนก็ตีสีหน้าตกอกตกใจ เหมือนจะอุทานว่าการเมืองสหรัฐตกต่ำไปได้เพียงนี้เชียวหรือ?
กฎหมายสหรัฐโดยเฉพาะ The Second Amendment หรือบทแก้ไขเพิ่มเติมที่สองของรัฐธรรมนูญสหรัฐ ให้เสรีภาพคนอเมริกันในอันที่จะแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับบุคลสาธารณะ ที่อาสามาสมัครรับเลือกตั้งมาทำงานในตำแหน่งสาธารณะทั้งหลาย
ในเมื่อคนอเมริกันที่เชื่อในพรรครีพับบลิกัน ชอบเขาถึงขั้นเลือกเขาเป็นตัวแทนพรรคแข่งตำแหน่งประธานาธิบดี ก็ต้องถือว่าเขามีความชอบธรรมที่จะห้ำหั่นกับ ฮิลลารี คลินตัน
คนอเมริกันต้องตัดสินเองแล้วว่า จะยอมให้คนอย่างทรัมป์มีสิทธิใช้นิ้วกดปุ่มนิวเคลียร์ ที่อาจทำลายล้างทั้งโลกได้ในพริบตาหรือไม่?