ปีเตอร์ เซ็งเก้ : กูรูบริหารกับการทำสมาธิเซน

ผมตั้งวงสนทนากับศาสตราจารย์ Peter Senge
กูรูด้านทฤษฎีการสร้าง “องค์กรแห่งการเรียนรู้” และการบริหารจาก Sloan School of Management ของ MIT เมื่อเร็วๆ นี้...ผมจึงต้องกระซิบถามเขาเรื่องการ “ทำสมาธิ” พร้อมๆ กับการสร้างกระบวนการเรียนรู้ของคนและองค์กร
เพราะผมแอบรู้มาว่านอกจากจะโด่งดังจากหนังสือ The Fifth Discipline : The Art and Practice of the Learning Organization ที่นักบริหารทั่วโลกรู้จักและนำไปปฏิบัติแล้ว เขาปฏิบัติด้านทำสมาธิเพื่อให้ “กาย ใจและสมอง” ทำงานไปพร้อมๆ กันอย่างได้สมดุลสุดยอด
นี่คือสิ่งที่ผมต้องการเรียนรู้นอกเหนือไปจากบทบาทด้านการเป็น “เซียนด้านบริหาร” ที่คนทั่วไปรู้จัก
ปีเตอร์บอกผมว่าเขาเริ่มสัมผัสกับเซนเมื่ออายุ 20 ตอนเป็นนักศึกษา ไปนั่งทำสมาธิที่วัดเซนแห่งแรกในอเมริกาที่เมือง Tassajara ที่แคลิฟอร์เนีย
“ผมรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง แม้จะอยู่ที่วัดเพียง 3-4 วัน”
ทุกวันนี้ อาจารย์เซ็งเก้ บอกว่าทำสมาธิวันละประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง
“เหลือเชื่อ” คือคำอุทานของหลายคนที่นั่งฟังบทสนทนาของผมกับเขาวันนั้น
ปีเตอร์นิยามคำว่า"องค์กรแห่งการเรียนรู้” ว่า“เป็นองค์กรที่ผู้คนต่างขยายขีดความสามารถ เพื่อสร้างผลงานที่ต้องการสร้างอนาคต”
หัวใจของแนวคิดของเขาคือ “วินัย (Disciplines)” อันเป็นเทคนิคที่ต้องนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
สูตร “วินัย 5 ประการ” ของเขาคือ
1. ความรอบรู้แห่งตน (Personal Mastery)
2. แบบแผนความคิดอ่าน (Mental Models)
3. วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
4. การเรียนรู้ของทีม (Team Learning) และที่สำคัญกว่าอะไรอื่นคือ
5. การคิดอย่างเป็นระบบ (Systems Thinking)
การ “คิดอย่างเป็นระบบ” นี่แหละที่เป็นหัวใจของทั้งหมด เพราะหากคิดไม่เป็น อย่างอื่น ๆ ก็ไม่อาจจะเกิดได้
คิดอย่างเป็นระบบนั้นเป็นเช่นไร? ปีเตอร์มีลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง เขาถือว่าการสร้าง “องค์กรแห่งการเรียนรู้” จะต้องมาจากแต่ละคนที่ต้อง “คิดเป็น” ซึ่งย่อมแตกต่างไปจาก “คิดมาก” หรือ “คิดสักแต่ว่าคิด”
เขาแยกวิธีคิดย่างเป็นระบบออกเป็น
1. คิดให้ออกมาเป็นกลยุทธ์ มีวิสัยทัศน์ มีความชัดเจนว่าเป้าหมายคืออะไร วางแนวทางที่จะไปให้ถึงหลากหลายวิธีและ มุ่งมั่นจริงจังกับเป้าหมาย
2. คิดให้ทันท่วงที ไม่ตกรถไฟขบวนใหญ่ มองทะลุถึงความจริงของเนื้อหาสาระ อย่าชิงเอาไปปฏิบัติก่อนเพราะหากไม่พร้อม และไม่รอบด้านก็จะเกิดปัญหาที่ไม่ควรจะเกิด
3. พร้อมจะแสวงหาโอกาสตลอดเวลาเพราะในทุกปัญหามีโอกาสทั้งสิ้น ทั้งนี้ต้องไม่ถอดใจก่อนที่จะบรรลุถึงจุดหมายปลายทาง
หนังสือ The Fifth Discipline ได้รับการต้อนรับอย่างกว้างขวาง นิตยสาร Harvard Business Review เคยวิจารณ์ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือด้านการบริหาร ที่ทรงคุณค่าที่สุดในช่วง 75 ปีก่อนหน้านี้
และนิตยสาร Journal of Business Strategy ยกย่องเขาว่าเป็น “นักยุทธศาสตร์แห่งศตวรรษ”
ในยุคที่สังคมมนุษย์กำลังเผชิญกับความท้าทายว่าจะต้อง “เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงให้ทันกับความไม่แน่นอน” คำแนะนำของปีเตอร์ เซ็งเก้ ย่อมก่อให้เกิดคุณค่าสำหรับทั้งองค์กรและตัวบุคคล ที่กำลังสับสนกับกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง ที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วงรุนแรง
ผมถามเขาว่าการทำสมาธิ จะช่วยให้มนุษย์ตั้งรับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และเร่งร้อนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนหรือไม่
ปีเตอร์บอกว่า “แน่นอน ถ้าใจไม่นิ่ง กายก็หวั่นไหว สมองก็ทำงานไม่ได้... ผมจึงทำสมาธิทุกวัน”




