Brexit : คนรุ่นใหม่หาว่าคนรุ่นเก่าปล้นโอกาส

ทำไมคนหนุ่มสาวอังกฤษ จึงผิดหวังกับประชามติ
ให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป?
“เพียงชั่วข้ามคืน คนรุ่นดิฉันก็สูญเสียสิทธิที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นชาวยุโรป... และหมดสิทธิที่จะใช้ชีวิต มีความรัก และทำงานในอีก 27 ประเทศของสหภาพยุโรป...” คือความเห็นของนักเขียนรุ่นใหม่ของอังกฤษคนหนึ่ง หลังผลการลงประชามติออกมาได้ไม่กี่ชั่วโมง
เธอบอกว่าแม้ว่าฝ่ายต้องการให้อังกฤษออกจากอียู จะชนะฝ่ายที่ต้องการให้อยู่ต่อไป 2% แต่ 75% ของผู้มีสิทธิออกเสียงอายุระหว่าง 18-24 ต้องการให้ยังอยู่กับอียูเหมือนเดิม
สะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งแยกระหว่างคนต่างวัยในอังกฤษ ที่นับวันจะสูงและรุนแรงขึ้น
ประชามติครั้งนี้ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า นี่คือหนึ่งในความพยายามของสังคมคนรุ่นเก่า ที่กระทำต่ออนาคตของคนรุ่นใหม่อย่างเห็นได้ชัด
เริ่มด้วยวิกฤตการเงินที่เกิดจากการตัดสินใจที่ย่ำแย่ของคนรุ่น baby-boomers (คนวัยอายุ 50 ขึ้นไป)
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดมาตรการรัดเข็มขัด ที่มีผลกระทบต่อคนหนุ่มสาวในสัดส่วนที่ไม่ยุติธรรมต่อพวกเขา เพราะเป้าหมายหลักคือการปกป้องประโยชน์ของคนวัยเกษียณ
คนรุ่นนี้มองว่าประชามติให้อังกฤษออกจากอียูเป็นการ “กระทำต่อ” คนรุ่นใหม่ของคนวัยกลางคนและคนสูงวัยทั้ง ๆ เสียงส่วนใหญ่ของคนรุ่นใหม่ต้องการให้อังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป
“คนรุ่นเก่าตัดสินอย่างนี้โดยที่ไม่ต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อเผชิญกับผลกรรมที่ตนได้ตัดสินใจไป มีแต่คนรุ่นใหม่เท่านั้นที่จะต้องอยู่ต่อเพื่อรับผลอันเกิดจากการตัดสินใจครั้งนี้...” นักเขียนสาวคนนี้ระบุในบทความเห็นที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Washington Post
ผมคิดว่าความเห็นของ Lauren Razavi ซึ่งเป็นนักเขียนสารคดีในหัวข้อธุรกิจและเทคโนโลยี และใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง Norwich ของอังกฤษนั้น สะท้อนถึงความรู้สึกลึก ๆ ของหนุ่มสาวอังกฤษได้ใกล้เคียงความจริงพอสมควร
เธอบอกว่าหลังจากผลประชามติออกมา กูเกิลรายงานว่าจำนวนคนอังกฤษที่เข้าไปค้นหาข้อมูลเพื่อขอหนังสือเดินทาง (passports) ไอร์แลนด์พุ่งพรวดพราดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ตีความได้ว่าคนรุ่นใหม่กำลังหาทางดิ้นรนหนีไปอยู่ประเทศอื่น ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป เพื่อปกป้องสิทธิและโอกาสการทำงานและใช้ชีวิตอย่าง “ชาวยุโรป” แทนที่จะเป็นเพียง “ผู้ดีอังกฤษ” อย่างเดียว
เธอสรุปด้วยวลีค่อนข้างกร้าวว่า
“จากเนื้อหาการสนทนาที่ดิฉันมีกับคนจำนวนไม่น้อยตั้งแต่เช้านี้ ก็อาจจะสรุปได้ว่าผู้สูงวัยอังกฤษทั้งหลาย ควรจะต้องหาทางมีรายได้จ่ายเบี้ยเกษียณของตัวเอง เมื่อคนรุ่นดิฉันเก็บกระเป๋าเพื่อกระโดดหนีจากเรือ ที่กำลังจมอย่างที่อังกฤษกำลังจะเป็นอยู่ขณะนี้....”
สำหรับคนวัยกลางคนและอาวุโส ความโน้มเอียงที่จะขอออกจากอียู มาจากความรู้สึกอึดอัดที่อังกฤษต้องจ่ายค่าอุดหนุนให้อียูจำนวนมาก แต่เงินก้อนนี้จำนวนหนึ่งต้องไป “อุ้ม” สมาชิกอื่น ๆ ที่อ่อนแอกว่าและสร้างปัญหาให้กับอียูที่กระทบอังกฤษ
ความกลัวเรื่องผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้าอังกฤษ จนกลายเป็นปัญหาสังคมใหญ่ ก็เป็นประเด็นหลอกหลอนคนอังกฤษจำนวนไม่น้อย ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถ “กำกับชะตากรรมของตนเอง” ได้
คนรุ่นใหม่ต้องการโอกาสอันกว้างไกลที่อียูเสนอให้ ขณะที่คนรุ่นเก่ากลับมองว่า “โอกาส” ที่ว่านั้นคือ “ภัยคุกคาม” กับตนเองมากกว่า
จึงเป็นที่มาของความปั่นป่วนสับสน อันเกิดจากการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้
ช่องว่างระหว่างวัยจากกรณี Brexit นี่ดุเดือดเข้มข้นจริง ๆ!







