สร้างตนเองให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ

ใครที่เคยเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายล้วนแต่เป็นคนที่เกิดมาเป็นอัจฉริยะเท่านั้น คงต้องเปลี่ยนความเชื่อกันใหม่
เพราะงานวิจัยหลายงานยืนยันตรงกันว่า ความเชี่ยวชาญสร้างให้เกิดขึ้นได้กับทุกคน ขอเพียงแค่ต้องมีความมุ่งมั่นบากบั่นในสิ่งที่อยากเชี่ยวชาญ จะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ช้าหรือเร็วไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขอให้มุ่งมั่นเดินหน้าสู่เส้นชัยแบบเต่า คือเดินหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะถึงเส้นชัย ไม่ใช่รีบร้อนวิ่งไปสักพัก ก็หยุดพักบ้าง เลิกวิ่งเพราะเบื่อหน่ายบ้าง แบบกระต่ายหรือวิ่งทางนี้สักพัก ก็ย้ายไปวิ่งทางอื่น ยิ่งวิ่งยิ่งไกลเส้นชัยไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าใครๆ ก็สามารถเลือกที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ทุกเรื่อง คนแต่ละคนมีเหมาะกับความเชี่ยวชาญแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน ระวังอย่าเห็นคนอื่นเก่งกาจเชี่ยวชาญด้านไหน แล้วไปตะเกียกตะกายอยากเก่งอยากเชี่ยวชาญแบบเขาบ้าง โดยไม่ได้ดูตัวเราให้ดีๆ เสียก่อน
อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญให้เริ่มต้นหาให้เจอก่อนว่า มีความสุขกับการงานอะไรบ้าง การจะมีความเชี่ยวชาญได้นั้นใจร้อนไม่ได้ จะเป็นแบบกระต่ายไม่ได้ ต้องมุ่งมั่นเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเป็นเวลาแค่ปีสองปี หรืออาจเป็นสิบยี่สิบปี ไม่อาจบอกล่วงหน้าได้ จะทนอยู่กับอะไรได้นานๆ ตัวเราต้องมีใจกับเรื่องนั้นเสียก่อน ระวังด้วยว่าไม่ใช่แค่ชอบ หรือสนใจตามแฟชั่น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นเดินหน้าไปไม่เท่าไรก็จะเบื่อ ทำให้เป็นแค่คนเคยทำ ไม่มีทางกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อมั่นใจแล้วว่าเราสุขใจจริงๆ กับการคลุกอยู่กับการงานอะไรแล้ว ก้าวต่อไปคือหาแนวทางที่จะทำให้เราทำการงานที่เราชอบ เราสนใจได้สำเร็จ ซึ่งอย่าใช้วิธีลองผิดลองถูกในระยะเริ่มต้น เพราะเริ่มต้นด้วยการเสียเวลาจะส่งผลให้หมดความมุ่งมั่นไปได้ง่ายๆ ทางที่ดีให้เสาะหาตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จในด้านที่เราสนใจไว้ดูแนวทางเป็นตัวอย่างพยายามเสาะหาคำปรึกษาจากคนเหล่านั้น อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยไม่เสียเวลามากเกินไป เสียแรงมากเกินไป ต้องเริ่มแบบตักศิลา คือเสาะหาคนที่เราเชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องนั้นมาเป็นตัวอย่างของแนวทางการทำงาน และจะยิ่งดีมากขึ้นอีกถ้าสามารถปรึกษาขอคำแนะนำได้ด้วย
ไม่ว่าจะมีตัวอย่างที่ดี จะมีคนให้คำแนะนำที่ดีแค่ไหนก็ตาม ตัวเราเชี่ยวชาญไม่ได้ถ้าไม่ยอมลงมือทำ ความเชี่ยวชาญไม่ได้เกิดขึ้นจากการรับฟังคำบอกกล่าว แต่เกิดขึ้นจากการได้ลงมือทำจริงๆ เท่านั้น ซึ่งในช่วงที่ลงมือทำย่อมมีทั้งทำได้ผลตามที่คิดไว้ หรือล้มเหลวไม่เป็นไปตามที่คิด ช่วงนี้ต้องตระหนักไว้เสมอว่า ขอแค่ทำสิบครั้ง ทำสำเร็จได้สักสี่ห้าครั้งก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว และถึงแม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันที่ใครๆ ก็ยกย่องให้ตัวเราเป็นคนเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นแล้วก็ตาม วันนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าทำสิบครั้ง จะทำสำเร็จทั้งสิบครั้ง ทำได้แค่แปดในสิบก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้ว สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ก็รู้พลั้งได้เหมือนกัน
ส่วนที่ทำไม่สำเร็จ นี่แหละที่จะกลายเป็นตัวช่วยเติมความเชี่ยวชาญ เพราะทุกครั้งที่ทำไม่สำเร็จ จะช่วยให้เราเรียนรู้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีทำ เปลี่ยนแนวทางทำงานอย่างไรให้ดีขึ้นจนประสบความสำเร็จได้ ความเชี่ยวชาญเติมเต็มจากการทบทวนวิธีทำงานทุกครั้งที่ทำงานเสร็จ ไม่ว่างานนั้นจะสำเร็จ หรือล้มเหลวก็ตาม สิ่งที่ควรระวังคือล้มเหลวแล้วอย่าใช้หนทางเดิมซ้ำซาก อย่าล้มเหลวครั้งใหม่ด้วยวิธีทำแบบเดิมๆ ถ้าจะล้มเหลวใหม่อีกครั้ง ขอให้ล้มเหลวด้วยหนทางใหม่ เราเชี่ยวชาญไม่ได้ ถ้าทำเป็นแค่วิธีเดียว พอมีอะไรเปลี่ยนไปสักนิดสักหน่อย วิธีทำที่เราเชี่ยวชาญนั้นอาจกลายเป็นยาหมดอายุที่ใช้ประโยชน์อะไรอีกไม่ได้ เราเชี่ยวชาญคือเราสามารถรับมืองานนั้นได้ ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม จะทำเช่นนั้นได้ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลวให้เป็น ต้องไม่ยึดติดกับวิธีที่เคยนำไปสู่ความสำเร็จแบบเดิมๆ ที่เคยใช้อยู่ ต้องมีทางเลือกในการทำงานนั้นได้หลายทาง
เส้นทางของการสร้างความเชี่ยวชาญไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่เต็มไปด้วยอุปสรรคนานาประการ ความชอบความถูกใจอย่างเดียวอาจไม่พอที่จะยึดเหนี่ยวให้เรามุ่งมั่นกับเรื่องนั้นต่อไปในระยะยาวนานได้ รักชอบแค่ไหนแต่อุปสรรคเต็มไปหมดก็ถอดใจได้เหมือนกัน ดังนั้นต้องมองอนาคตอย่างมีความหวังเสมอ เดินทางแล้วเจอฝนเจอพายุ ต้องหวังไว้ว่าไม่มีฝนใด พายุใดที่ไม่หยุดหย่อน ถ้ามีความหวังไว้ช่วยหนุนในยามยากลำบาก เราย่อมบากบั่นมุ่งมั่นสู่ความเชี่ยวชาญที่เราอย่าเก่งอยากมีนั้นได้ ไม่ว่านานมากน้อยเพียงใด เราต้องตอบให้ได้ว่าความพยายามที่จะไปสู่ความเชี่ยวชาญนั้น จะตอบแทนด้วยประโยชน์ใดบ้างในวันหน้า
ลองนึกดูว่าหากเราเชี่ยวชาญเรื่องที่เรารักเราชอบแล้ว เราจะช่วยอะไรใครได้บ้าง เราเก่งกาจในเรื่องนี้แล้วคนรอบตัวเรา ไปจนกระทั่งใครก็ตามในโลกใบนี้จะได้อะไรดีๆ จากความเชี่ยวชาญที่เราบากบั่นสร้างสรรค์ขึ้นมาได้บ้าง อย่ามองสิ่งที่ดีๆ ที่จะเกิดขึ้นจากความเชี่ยวชาญของเราว่า ต้องเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เอาไปแก้ปัญหาของโลกได้ ขอแค่ทำอะไรให้ใครใกล้ตัวมีความสุขมากขึ้นอีกนิด ความเชี่ยวชาญของเราก็เป็นประโยชน์แล้ว
ไม่มีคนที่ไม่สามารถเชี่ยวชาญอะไรสักอย่างได้ ไม่มีใครที่เก่งไม่ได้สักเรื่อง มีแต่คนที่ไม่เก่ง คนที่ไม่เชี่ยวชาญ เพราะคนนั้นไม่ยอมมุ่งมั่น บากบั่นผ่าฟันอุปสรรคเพื่อสร้างความเชี่ยวชาญในเรื่องที่รักที่ชอบของตนเองเท่านั้น




