Mercury Transit

9 พฤษภาคม 2016 คือวันที่นักดาราศาสตร์เฝ้ารอดูปรากฏการณ์สำคัญ นั่นคือดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์

(Mercury Transit) ดาวพุธโคจรระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์บนระนาบเดียวกัน ทำให้เห็นเป็นจุดกลมเล็กๆ เคลื่อนผ่านดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์นี้เห็นได้ในยุโรป เอเชีย ทวีปอเมริกา รวมถึงไทยในช่วงหัวค่ำ 18:10- 8:35 น. ก่อนตะวันลับขอบฟ้า

ดาวเคราะห์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เกิดได้กับดาววงในคือพุธและศุกร์เท่านั้น มันเป็นปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจมาก การคำนวณและสังเกตการณ์ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ครั้งแรกเกิดขึ้น7 พฤศจิกายน 1631 โดย Pierre Gassendi นักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศส (ได้รับอิทธิพลจากการทำนายล่วงหน้าของ Johannes Kepler) ส่วนดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ถูกคำนวณและสังเกตการณ์ครั้งแรกโดย Jeremiah Horrocks นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษเมื่อ 4 ธันวาคม 1639

พุธมีวงโคจรเล็กกว่าศุกร์2 เท่าและโคจรเร็วกว่าพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์จึงมีโอกาสเกิดมากกว่า ใน 100 ปี มีได้ 13-14 ครั้ง แต่ศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ (Venus Transit) มีแค่ 2 ครั้ง ปรากฏการณ์พุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ จะเกิดในเดือนพฤษภาคมและพฤศจิกายนเท่านั้น โดยมีสัดส่วนเป็น 1 ต่อ 2

เดือนพฤษภาคม พุธอยู่ไกลดวงอาทิตย์ที่สุด (Aphelion) เดือนพฤศจิกายน พุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด (Perihelion) เพราะใกล้ดวงอาทิตย์ พุธจึงเคลื่อนที่เร็วกว่า โอกาสเกิดพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ก็มากกว่าด้วย

พฤษภาคมและพฤศจิกายนยังเป็นช่วงเวลาที่เกิดจุดตัด (Node) ระหว่างระนาบโคจรของพุธกับสุริยวิถี (Ecliptic) โดยพฤษภาคมเป็นจุดตัดขาลง (Descending Node) และพฤศจิกายนเป็นจุดตัดขาขึ้น (Ascending Node) เนื่องจากแกนโลกเอียงและเกิดเป็น Precession of Equinox จุดตัดของพุธนี้จึงค่อยๆ เคลื่อนไป ก่อนปี 1585 มันเกิดในเดือนเมษายนและตุลาคม

เรื่องจุดตัดนี้คล้ายกับราหูเกตุ ราหูเกตุ (Lunar Node) คือจุดตัดของระนาบดวงจันทร์กับสุริยวิถี ราหูคือจุดตัดขาขึ้น (North Node) เกตุคือจุดตัดขาลง (South Node) ในดาราศาสตร์ ดาวเคราะห์ทุกดวงมีจุดตัดเมื่อเทียบกับสุริยวิถี แต่ในโหราศาสตร์ เราใช้แค่จุดตัดของจันทร์ คือราหูเกตุเท่านั้น

ในประเทศไทยมีบันทึกเรื่องพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ท่านทรงคำนวณและประกาศให้ประชาชนทราบ ดังในหนังสือประชุมประกาศฯที่ว่า

ประกาศดาวพระเคราะห์พุธเข้าในดวงพระอาทิตย์มีพระบรมราชโองการให้ประกาศให้การทราบแก่ผู้จะได้อ่านประกาศนี้ทั้งปวง วันอังคาร เดือนสิบสอง ขึ้นสิบค่ำ ดาวพระเคราะห์พุธจะเข้าในดวงพระอาทิตย์ว่าตามจะเห็นที่กรุงเทพมหานคร

แรกเริ่มกระทบเข้าทางทิศอีสานค่อนข้างบูรพาเห็นดำเป็นเม็ด จดขอบพระอาทิตย์แหว่งเข้าไปนิดหนึ่ง เมื่อเวลาเที่ยงแล้วกับ 14 นาที แล้วจุดดำนั้นจะเลื่อนเดินไปในดวงพระอาทิตย์โอนไปข้างทิศปัจจิมเฉียดขวางไปถึงที่ลึก เพียงเท่าส่วนที่หกของดวงพระอาทิตย์ ค่อนอยู่ข้างเหนือส่วนหนึ่งไม่ถึงกลาง

...พระเคราะห์จะเข้าไปเป็นแท้นานๆ ถึง 22 ปีขึ้นไปจึงมีครั้งหนึ่ง แล้วเว้นไป 2 ปีมีอีกครั้งหนึ่งเป็นธรรมดา แต่ลางทีเป็นเสียในกลางคืนที่กรุงเทพมหานครนี้ไม่เห็น ครั้งนี้จะเห็นจึงทายมาเพื่อจะให้รู้ การบนฟ้ามนุษย์สังเกตทายล่วงหน้าไว้ได้ อะไรเห็นประหลาดบนฟ้าไม่ควรที่จะเก็บเอาเป็นเหตุมาตื่นกันต่างๆ ต้นเหตุที่เป็นมีผู้รู้เขารู้ได้แล้ว.. ประกาศมา ณ วันจันทร์เดือนสิบเอ็ด แรมสองค่ำ ปีระกาตรีศก”

วันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 12 ที่พระองค์ทรงทำนายไว้ คือวันที่ 12 พฤศจิกายน 1861 (พ.ศ. 2404) ซึ่งมีตำแหน่งในจักรราศีที่ 28:01 องศาตุลย์

พุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ครั้งนี้ 9 พฤษภาคม 2016 เห็นได้ในไทย ครั้งต่อไป 11 พฤศจิกายน 2019 มองไม่เห็นในไทย ต้องรอไปจนถึง 13 พฤศจิกายน 2032 จึงจะเห็นได้ในไทยอีกครั้ง พุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ครั้งสุดท้ายและเห็นได้ในไทยคือ 9 พฤศจิกายน 2006 (พ.ศ. 2549)

ในทางโหราศาสตร์ พุธเป็นดาวสำคัญ พุธมีนามมากมายในหลายอารยธรรม เช่น Nabu เทพแห่งปัญญาของเมโสโปเตเมีย Thoth เทพแห่งความรู้ของอียิปต์ Hermes เทพแห่งความรู้และการเดินทางของกรีก Mercury เทพแห่งการสื่อสาร เดินทาง ค้าขายของโรมัน รวมถึง Budh เทพแห่งความรู้ของอินเดียและเซลติค

พุธมีความหมายหลายประการที่สำคัญคือ การติดต่อสื่อสาร การเดินทาง การเรียนรู้ เชาว์ปัญญาความคิดอ่าน การค้าขาย เอกสารสัญญา การเจรจาต่อรอง เพราะเป็นดาวเคราะห์ที่เคลื่อนที่เร็วสุด และมีวิถีโคจรผิดปกติอยู่เสมอ ความแปรปรวนจึงเป็นลักษณะสำคัญของพุธ นี่คือเหตุผลที่โหรไทยห้ามแต่งงานวันพุธ เพราะมันจะไม่ยั่งยืน

พุธเป็นดาวเคราะห์วงในที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด เมื่อมองจากโลก เราจึงเห็นพุธถอยหลัง (Retrogradation) เสมอ พุธถอยหลังปีละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 21-25 วัน ในปี 2016 พุธถอย 4 ครั้ง (1) วันที่ 5-26 มกราคม (2) วันที่ 29 เมษายน-22 พฤษภาคม (3) วันที่ 30 สิงหาคม-22 กันยายน (4) วันที่ 19 ธันวาคม-8 มกราคม 2017

ครั้งที่ 2 สำคัญมาก เพราะเกิดปรากฏการณ์พุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ด้วย มันเกิดขึ้นในจังหวะพุธถอยหลังเท่านั้น วันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 22:13 น. พุธถอยเข้ากุมอาทิตย์สนิทที่ 25:20 องศาเมษ ซึ่งใกล้เคียงกับตำแหน่งพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์เมื่อ 9 พฤษภาคม 1970 เวลา 15:21 น. ที่ 24:51 องศาเมษ

ตำแหน่งที่พุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ (พักรดับ) ได้ทับลัคนาดวงเมืองสนิท มันจึงสำคัญต่อเหตุการณ์บ้านเมือง พุธคือเอกสารสัญญา การสื่อสาร ออกสิทธิ์ออกเสียง การทำประชามติรัฐธรรมนูญใหม่อาจก่อให้เกิดความสับสน คลุมเครือ เคลือบแคลง หรือเข้าใจผิดได้ง่าย

โหรส่วนใหญ่มักไม่ใส่ใจพุธที่เป็นดาวเล็ก แต่ถึงเล็ก พุธก็สำคัญและเป็นตัวชี้ขาดในหลายกรณี ในงานสัมมนา “นักเศรษฐศาสตร์ปะทะโหราจารย์” เมื่อ 17 มกราคม 2014 นักข่าวถามว่า จะมีเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ไหม? ผู้เขียนตอบอย่างมั่นใจว่า “ไม่มี” ผลคือมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ในวันที่ 21 มีนาคม ศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

ทำไมทายผิดแล้วกลับเป็นถูก? ลัคนาดวงเลือกตั้งอยู่ราศีกุมภ์ ที่ 9 องศา 6 ลิปดา มีพุธเนปจูนกุมลัคน์สนิท พุธคือดาวเจ้าเรือนมรณะ จุดนี้ชี้ถึงความตาย อีกจุดสำคัญคืออังคารกันย์ในภพมรณะ อังคาร 8 แก่ลัคน์นี้โหรไทยถือว่าให้โทษมาก อังคารคือดาวเจ้าเรือน 3 และ 10 หมายถึงงานที่เกี่ยวกับการออกสิทธิ์ออกเสียง การเลือกตั้งน่าจะแท้งก่อนเกิด

แต่เสาร์ (ดาวเจ้าเรือนลัคน์) อุจจ์และอังคาร (ดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์) วรโคตมนวางค์ ก็ผลักดันให้มันเกิดขึ้นจนได้ วันที่ 7-28 กุมภาพันธ์ พุธถอยหลัง วันที่ 2 มีนาคม อังคารเสาร์ถอยหลัง พุธเดินหน้ามากุมเนปจูนสนิท พร้อมทั้งทับลัคน์พุธและเนปจูนเดิมสนิทในวันที่ 21 มีนาคมวันนั้นดาวมรณะแผลงฤทธิ์อีกครั้ง ศาลรธน.ตัดสินโมฆะ

เมื่อพุธถอยหลัง ทำการใดไม่มีคำว่า 100%