นัยสำคัญการเลือกตั้งในพม่า

     มายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ แม้การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพม่าได้ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งหากจะกล่าวกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ประชาธิปไตยในพม่าก็คงอีกยาวไกลกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ แต่ก็ถือว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อการเมืองในพม่าในระยะต่อจากนี้ไป

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในพม่าในคั้งนี้ ย่อมไม่อาจแยกออกจากการเมืองในประชาคมอาเซียนเอง เนื่องจากที่ผ่านมามีความพยายามรวมกลุ่มในประเทศอาเซียนในรูปแบบต่างๆ แต่มักจะมีผลปฏิบัติไม่มากนัก เนื่องจากประเทศในอาเซียนมีความหลากหลายและแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในพื้นฐานเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและผู้คนในแต่ละประเทศ แต่หากย้อนกลับไปดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทีละน้อยในพม่า ก็จะเห็นว่าไม่อาจแยกขาดจากการเปลี่ยนแปลงในอาเซียนเอง

การเลือกตั้งในครั้งนี้หากโยงกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของพม่าเอง จะเห็นได้ว่าเป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในพม่า ซึ่งเริ่มเปิดรับการพัฒนาเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอย่างเต็มตัว แม้จะเปิดอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะเห็นได้ว่ากระแสทุนเริ่มไหลเข้าไปหาโอกาสทางเศรษฐกิจในพม่าอย่างมากมายในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และโดยธรรมชาติของระบบทุนนิยมแล้วเป็นไปไม่ได้ จะมีการปิดกั้นแทบทุกด้านหากต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงการเมืองในพม่า ด้านหนึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสการพัฒนาของทุนนิยมโลก ซึ่งไม่เพียงพม่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศในอาเซียนทั้งหมด และอาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตเราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น ไม่ว่าเราจะเรียกการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นประชาธิปไตยแบบไหน แต่อย่างน้อยระบบการเมืองได้เปิดโอกาสอย่างที่ไม่มีมาก่อน และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอีกมาก

ยิ่งกว่านั้นการเลือกตั้งในพม่า เกิดขึ้นในช่วงจังหวะเวลาเดียวกันประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเริ่มมีผลในปีหน้า ซึ่งมีการประเมินว่าเออีซีจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้อย่างมาก แม้จขณะยี้ยังไม่สามารถประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นได้ชัดเจนนักว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเออีซีจะเปิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคนในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีเป้าหมายสำคัญไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจมากกว่าการรวมกลุ่มทางการเมือง

ความหมายของการเลือกตั้งในพม่า จึงมีมากกว่าเพียงแค่การเมืองในพม่าเท่านั้น แต่อาจสร้างผลกระทบต่อประชาชนทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะสำนึกเรื่องประชาธิปไตยได้เริ่มกลายเป็นระบอบการปกครองที่ทุกประเทศยึดถือ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละประเทศย่อมมีรายละอียดแตกต่างกันไป แต่อย่างน้อยรูปแบบของประชาธิปไตยได้ยั่งลึกมากขึ้นในภูมิภาคนี้  เราเชื่อว่าการพัฒนาประชาธิปไตยในอาเซียนยังคงเป็นเรื่องที่จับตาและสนใจกันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะจะเป็นประชาธิปไตยที่มีความหลากหลายอย่างมาก

สำหรับประเทศไทยเองที่อยู่ระหว่าง การกำหนดกฏกติกาประชาธิปไตยกันใหม่ เพื่อแก้ปัญหาประชาธิปไตยในอดีตไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในพม่าย่อมมีความหมายสำหรับไทยเช่นเดียวกัน ซึ่งหากการเปลี่ยนแปลงในพม่าส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด สิ่งนี้จะมีผลต่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงในพม่าจึงมีผลทั้งต่อไทย และประเทศอื่นในประชาคมอาเซียนทั้งเศรษฐกิจและการเมือง หากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและเริ่มพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง