ตัวตนแท้จริงของ ‘แจ็ค หม่า’ กับ ‘อาลีบาบา ’โดยคนวงใน

แจ๊ค หม่า เจ้าของ Alibaba.com ของจีนที่สยายปีก อย่างเกรียวกราวไปทั่วโลกเป็นคนอย่างไร?
เบื้องหลังความสำเร็จอยู่ที่ไหน? ทำอะไรผิดพลาดที่คนข้างนอกไม่รู้บ้างไหม?
เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมสัมภาษณ์คนที่เคยทำงานใกล้ชิดกับเขาคนหนึ่งชื่อ Porter Erisman เคยเป็นตำแหน่ง vice president ดูแลด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เขียนหนังสือขายดีออกมาชื่อ “Alibaba’s World” ที่กำลังจะออกสู่สายตาเป็นภาษาไทยในเร็ว ๆ วันนี้
คุยกับคุณพอร์ทเตอร์ได้ความรู้และเกร็ดเกี่ยวกับเจ้านายเก่าคนนี้มากมายหลายด้าน โดยเฉพาะสไตล์การทำงานของแจ็ค หม่า ที่โตมาจากการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษยากจนที่เมืองหางโจว รวบรวมเพื่อน 17 คนที่ห้องพักซอมซ่อเพื่อชักชวนให้ร่วมกันตั้งบริษัท e-commerce ให้ธุรกิจเล็ก ๆ มีที่ขายของไปทั่วโลก
ทั้ง ๆ ที่เพื่อนส่วนใหญ่ของเขายังไม่รู้ว่าอินเทอร์เน็ทคืออะไรด้วยซ้ำ
แจ็ค หม่ากลายเป็นตำนานแห่งความสำเร็จระดับโลกของจีนเพราะมีความมุ่งมั่น ไม่ยอมถอย และมีวิสัยทัศน์กว้างไกลว่าเขาจะสร้าง “ศูนย์กลางแห่งการซื้อขายออนไลน์” เพื่อให้บริษัทจีนขนาดกลางและเล็กได้เอาสินค้ามาวางขายให้ตลาดทั่วโลก
พอร์ทเตอร์เล่าว่าแจ็ค หม่าสำเร็จเพราะมองเห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็น และมีความ “บ้าบิ่น” พอที่จะท้ารบกับธุรกิจยักษ์อย่าง eBay, Amazon.com, Google หรือ Facebook เพราะมั่นใจว่าเขาเสนอบริการที่คนอื่นไม่มีหรือทำไม่ได้
แจ็ค หม่าเป็นนักพูดที่สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วไปทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยมี “มือร่างคำปราศรัย” เป็นทีมอย่างที่นักธุรกิจระดับยักษ์คนอื่น ๆ ต้องมี
“ผมเคยต้องรับผิดชอบการจัดการให้แจ็ค หม่าขึ้นพูดในที่ต่าง ๆ ...คนรอบข้างเคยมากระซิบบอกผมว่า อย่าให้แกขึ้นพูดบ่อยเพราะแกมักจะกระโดดจากประเด็นหนึ่งไปอีกประเด็นหนึ่ง บางครั้งก็ไม่ค่อยจะปะติดปะต่อกัน แต่ผมบอกว่าเสน่ห์ของแจ็ค หม่าคือการเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละ...” พอร์ทเตอร์บอกผม
“บทเรียน 40 ข้อจากอาลีบาบา” ในบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ถือเป็นตำรานักบริหารได้อย่างดีทีเดียว
ไม่ว่าจะสอนให้ “ฝันให้ใหญ่เอาไว้” หรือ “อย่าประเมินตัวเองต่ำไป” อีกทั้ง “อย่าประเมินคู่แข่งสูงเกินไป” จนไม่กล้าท้าทายยักษ์ทั้ง ๆ ที่อะไรที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่นั้นลึก ๆ แล้วอาจจะมีจุดอ่อนมากมายก็ได้
แน่นอน เคล็ดไม่ลับสำหรับความสำเร็จของธุรกิจทั้งหลายทั้งปวงอยู่ที่การยึดเอาลูกค้าเป็นหัวใจของแผนธุรกิจ แต่เอาเข้าจริง ๆ ใครจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ CEO ของบริษัทนั้น ๆ จะนำเอาหลักการนี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพียงใด
แจ็ค หม่าเคยบอกว่า “ถ้า eBay คือปลาฉลามในมหาสมุทร Alibaba ก็คือจระเข้ในแม่น้ำแยงซี”
ซึ่งแปลว่าความสำเร็จของอาลีบาบานั้นคือการสร้างจุดแข็งของตนเอง ต้องสู้ในสนามที่ตนเชี่ยวชาญช่ำชอง ต้องสามารถกำหนดเกมเองได้ อย่าติดกับดักที่คนอื่นสร้างขึ้นมา
พอร์ทเตอร์จึงทำสารคดียาว 75 นาทีในหัวข้อ “Crocodile in the Yangtze” เพื่อเล่าถึงประวัติและเบื้องหลังของ Alibaba กับ Jack Ma ให้คนทั้งโลกได้รับรู้ โดยเป็นเรื่องราวที่มาจากข้อมูลและประสบการณ์จริงของ “คนวงใน” อย่างเขาที่ทำงานกับแจ็ค หม่ายาวนานถึง 8 ปีระหว่าง 2001-2008
หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลเป็น 8 ภาษาแล้ว
เครือเนชั่นได้ลิขสิทธิ์แปลเป็นไทยชื่อ “อาลีบาบา...มังกรปฏิวัติโลก”
ใครที่ต้องการรู้เคล็ดลับของ Jack Ma และ Alibaba ไม่อ่านไม่ได้เลยจริง ๆ







