อนาคตของ Business School

อนาคตของ Business School

ปัจจุบันการศึกษาทางด้านธุรกิจที่ผ่านทางบรรดาสถาบันการศึกษาทางด้านธุรกิจต่างๆ (Business School) กลายเป็นสาขาวิชาที่เป็นที่นิยมศึกษา

อย่างไรก็ดี ในระดับโลกแล้ว อนาคตของการศึกษาทางด้านธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ และสถาบันรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต่างพยายามที่จะมองภาพอนาคตของการสถาบันการศึกษาที่สอนทางด้านธุรกิจ (Business School) กันอย่างขมักเขม้น

มีหน่วยงานระดับโลกสองแห่งที่ทำหน้าที่พัฒนาและรับรองคุณภาพทางการศึกษาของ Business School ทั่วโลก นั้นคือ AACSB (จากฝั่งอเมริกา) และ EFMD (จากฝั่งยุโรป) ที่ได้เริ่มตระหนักและกำลังระดมสมองกันในเรื่องของอนาคตและทิศทางของ Business School กัน ล่าสุดกรรมการของทั้งสองสถาบันได้มาประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับอนาคตของการศึกษาทางด้านธุรกิจ และผมได้นั่งอยู่ในที่ประชุมดังกล่าวด้วยจึงขอสรุปเนื้อหาและประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนอต่อท่านผู้อ่านนะครับ

ตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมาการศึกษาทางด้านธุรกิจได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี พื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาการศึกษาทางด้านธุรกิจนั้นเป็นเรื่องของการสร้างความแข็งแกร่งทางด้านวิชาการในศาสตร์ทางด้านการบริหารธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่นักวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจที่เน้นผลิตผลงานวิจัย ผลงานวิชาการต่างๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งภาควิชาการและภาคธุรกิจ

อย่างไรก็ดี Business School ก็เหมือนกับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ในแง่ที่ว่าสถาบันการศึกษาเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมภายนอกต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้สิ่งที่เคยทำมา หรือ เคยเป็นมา และประสบความสำเร็จในอดีต อาจจะไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

จากการประชุมร่วมกันของทั้งสองสถาบันที่ประกอบด้วยคณบดีและนักธุรกิจจากหลายๆ ประเทศ พบว่าคำถามสำคัญที่สถาบันการศึกษาทุกแห่งควรจะถามตัวเองก็คือ สถาบันดังกล่าวดำรงอยู่ไปเพื่ออะไร? (Why do business school exist?) สถาบันดำรงอยู่ไปเพื่อทำวิจัยขั้นสูง เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางด้านวิชาการ หรือ ดำรงอยู่เพื่อพัฒนาความรู้ทางด้านการบริหาร เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและความก้าวหน้าของภาคธุรกิจ หรือ ดำรงอยู่ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณค่าและความรู้ ความสามารถไปสู่ภาคธุรกิจ

คำถามดังกล่าวเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่แนวโน้มที่พบคือ Business School อาจจะไม่สามารถมุ่งเน้นไปแต่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งได้ เช่น ทำวิจัยอย่างเดียวโดยไม่สนใจภาคธุรกิจ หรือ ให้ความรู้แก่ภาคธุรกิจอย่างเดียวโดยไม่มีการสร้างความก้าวหน้าในองค์ความรู้ หรือ สร้างบัณฑิตอย่างเดียวโดยไม่สนใจความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะตกลงกันได้ร่วมกันทั้ง AACSB และ EFMD คือในปัจจุบันและอนาคต คำว่า Impact หรือผลกระทบ จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุด

เพื่อตอบคำถามถึงสาเหตุของการดำรงอยู่ของสถาบันการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจ สถาบันฯ จะต้องคำนึงถึง Impact ของสถาบันฯ ที่มีต่อทั้งแวดวงนักวิชาการ ภาคธุรกิจ และสังคม การทำวิจัยนั้นจะไม่ควรจะเป็นงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์แต่ไม่ได้ช่วยพัฒนาความรู้ทางวิชาการให้ก้าวหน้าขึ้น หรือ วิจัยที่ภาคธุรกิจไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในขณะเดียวกัน Business School ก็ควรจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับภาคธุรกิจ เพื่อที่จะได้สามารถสร้างและถ่ายทอดความรู้ทางด้านการบริหาร ที่ก่อให้เกิด Impact แก่ภาคธุรกิจอย่างแท้จริง รวมทั้งผลิตบัณฑิตที่ตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจ เพื่อที่บัณฑิตที่ผลิตโดย Business School เหล่านี้ จะมี Impact กับภาคธุรกิจอย่างแท้จริง

ความท้าทายที่สำคัญของ Business School ที่อาจจะต่างจากศาสตร์อื่นๆ ก็คือ Business School จะต้องสามารถผสมผสานระหว่างทฤษฎีทางวิชาการ กับ ภาคปฏิบัติ เพื่อก่อให้ผลกระทบในทางบวกต่อสังคม ปัญหาที่พบเจอในหลายๆ สถาบันทั่วโลก คือบางแห่งก็จะเน้นทฤษฎีมากเกินไป โดยไม่สามารถเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจได้ แต่บางแห่งนั้นก็เน้นการสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ โดยการขาดการพัฒนาองค์ความรู้ที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจจากการประชุมต่อ Business School ทั่วโลกด้วยว่า จริงๆ แล้ว Business School ควรจะเข้าไปมีบทบาทต่อการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมในสังคม อีกทั้งควรจะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาศักยภาพของผู้นำในทุกๆ ภาคส่วน ที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจ ทั้งภาครัฐบาล และหน่วยงานที่ไม่ได้แสวงหากำไร ซึ่งจะทำให้ Business School จะต้องปรับตัวและมองความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลกภายนอกใหม่

ก็ต้องคอยติดต่อกันต่อไปนะครับว่า บทบาท Business School จะปรับเปลี่ยนไปได้ตามที่หวังหรือไม่