'ขาบู๊' บูรพาพันธุ์แท้

สื่อมวลชนเอ่ยถึง “บูรพาพยัคฆ์” ย่อมหมายถึงนายทหารที่เติบโตมาจาก “กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์” (พล.ร.2 รอ.)
แต่น้อยคนนักจะทราบในกลุ่มขุนศึกบูรพา ยังแยกออกเป็น 2 สาย
สายแรก เป็นสายดั้งเดิมคือ กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี
สายที่สอง เป็นสายใหม่มาแรงคือ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี หรือทหารเสือราชินี จ.ชลบุรี
ยกตัวอย่าง “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วย ผบ.ทบ. กับ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร ผบ.ทบ. ทั้งสองเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 14 และ จปร.รุ่นที่ 25
แต่ พล.อ.ธีรชัย เป็นลูกหม้อค่ายจักรพงษ์ ส่วน พล.อ.อุดมเดช เติบโตมาจากค่ายทหารเสือราชินี
000000000000000000
ย้อนดูเส้นทางนักรบบูรพาของ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช นั้นจัดอยู่ในสาย “ขาบู๊” และผู้ทรงอิทธิพลแห่งปราจีนบุรี-สระแก้ว ต่างรู้ฝีมือเป็นอย่างดี
สมัยที่ พล.อ.ธีรชัย เรียนจบนายร้อย จปร.ใหม่ๆ ติดยศร้อยตรี ได้เข้าประจำการที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน 2 รอ.) โดยมี พ.ท.ประภาส พูนขำ เป็น ผบ.พัน และ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.)
ไฟสงครามชายแดนลุกโชน ทหารเวียดนามผสมทหารเขมรเฮงสำริน บุกเข้าถล่มฐานทหารเขมรเสรี และเขมรแดงอย่างหนัก โดยบางครั้งก็รุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย
ปี 2522 กองกำลังเขมรเฮงสำริน ได้เข้ายึดบ้านโนนหมากมุ่น อ.ตาพระยา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 2 ภายใต้การนำของ พ.อ.ประจักษ์ เข้าตีผลักดันข้าศึกออกนอกแนวชายแดน
สมรภูมิรบโนนหมากมุ่น ชื่อของ “ร้อยโทธีรชัย” ได้รับการโจษขานในฐานะผู้สร้างวีรกรรมห้าวหาญ เมื่อนำกำลังลุยข้ามแดนไป “ชิงศพลูกน้อง” กลับมา และบุกเชือดทหารเขมรเฮงสำรินดับไปหลายศพ
วันที่ 1-4 เมษายน 2524 พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ได้นำกำลังทหาร 3 กองพันจากค่ายจักรพงษ์ เข้าร่วมก่อการยึดอำนาจร่วมกับ พ.อ.มนูญ รูปขจร (ยศและตำแหน่งขณะนั้น)
ขณะเดียวกัน ฝ่ายต้านปฏิวัติ นำโดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ส่งทหารเสือราชินี นำกำลังจากชลบุรี เข้าปราบกลุ่มยังเติร์ก จปร.7
ความพ่ายแพ้ของยังเติร์ก ถือว่าเป็นการปิดฉาก “นักรบบูรพา” ยุคผู้การประจักษ์ และเปิดฉากใหม่ใต้ร่มเงา “ทหารเสือราชินี”
โดยผู้บัญชาการทหารบกสมัยนั้น ได้ส่ง “พ.ต.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 พัน 2 รอ.) มาเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 พัน 2 รอ.) แทน พ.ท.ประภาส พูนขำ ที่ถูกเด้งเพราะนำกำลังเข้าไปยึดอำนาจ
“พ.ต.ประวิตร” มาพร้อมกับ “ร้อยตรีร้อยโท” 5-6 คน เพราะบรรดา ผบ.พัน และ ผบ.ร้อย แห่งค่ายจักรพงษ์ ที่เข้าร่วมก่อการกบฏถูกย้ายออกนอกพื้นที่ยกแผง
ยกเว้น “ร้อยโทธีรชัย” ที่ไม่ได้ไปร่วมยึดอำนาจ จึงกลายมาเป็น “มือขวา” ของ พ.ต.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ร.2 พัน 2 รอ. (ยศและตำแหน่งขณะนั้น)
คนแถวปราจีนบุรี จะคุ้นชินกับภาพนายทหารหนุ่ม “หน้านิ่ง” คอยขับรถจิ๊ปพา “นายประวิตร” ไปตามสถานที่ต่างๆ
นี่คือสายสัมพันธ์อันแนบแน่น ระหว่าง “พี่ป้อม” กับ “น้องหมู” ที่แสนจะยาวนาน
จากนั้น “บิ๊กป้อม” ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) และผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.)
ตอนที่ “พล.อ.ประวิตร” เป็น ผบ.ร.12 รอ. ค่ายไพรีระย่อเดช จ.สระแก้ว ก็ดึงนักรบคู่บุญชื่อ “ผู้พันหมู” ไปช่วยปราบมาเฟียชายแดน
เหล่า “ขาใหญ่” แถวอรัญฯ และตาพระยา ต่างประจักษ์ในผลงาน “ทีมงานจ่าขาโหด” ของผู้พันหมูเป็นอย่างดี
ในที่สุด พล.อ.ธีรชัย ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) และ “ผู้การหมู” กับ “ทีมงานจ่าขาโหด” ยังเดินหน้าปราบปรามผู้ทรงอิทธิพล จนเมืองปราจีนฯ ร่มเย็นเป็นสุข
แม้ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย จะเกิดที่ค่ายจักรพงษ์ และไม่ได้ขึ้นเป็น “ผบ.พล.ร.2 รอ.” แต่ความเป็นพี่เป็นน้องกับ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิได้เสื่อมคลายลงไปแต่อย่างใด
วันข้างหน้า พล.อ.ธีรชัย จะเป็น ผบ.ทบ. หรือปลัดกลาโหม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “พี่ป้อม” คือลมใต้ปีก “น้องรัก” นักรบบูรพาพันธุ์แท้มาโดยตลอด







