ถนน R3A คุนหมิง-กรุงเทพฯ อีกหนึ่งหวังพัฒนาศก.จีน-ลาว-ไทย

ถนน R3A คุนหมิง-กรุงเทพฯ อีกหนึ่งหวังพัฒนาศก.จีน-ลาว-ไทย

ระหว่างทางสองข้างถนนมีการค้าขายของคนในพื้นที่ มีกิจการโรงแรม ร้านอาหารเกิดขึ้น นักธุรกิจทั้งไทย จีนและลาวต่างเห็นโอกาสทำเงินนี้

ถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ (R3A) ความหวังใหม่ของการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจชายแดนไทยจีน ถนนสายนี้เป็นถนนไฮเวย์ใหม่ที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศจีน ประเทศลาว และประเทศไทย ก่อนจะเข้าสู่รายละเอียดผู้เขียนขอเท้าความถึงความเป็นมาของถนนสายนี้ก่อน ถนนสายนี้ทั้งสายใช้เวลาสร้างประมาณสิบปี โดยได้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2546 โครงการนี้เป็นยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางด้านโลจิสติกส์ ภายใต้กรอบความร่วมมือของสมาชิกกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-regional economics) ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาสิ่งก่อสร้างพื้นฐานร่วมกัน เพิ่มความสะดวกในการสัญจรและการค้าระหว่างสมาชิก เงินลงทุนในโครงการทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเอดีบี รัฐบาลจีนและรัฐบาลไทย


ถนนเส้นนี้เริ่มเปิดให้ใช้เดินทางจริงในปี 2551 ความยาวของถนนทั้งหมดจากเมืองคุนหมิงประเทศจีนมายังกรุงเทพมหานครประเทศไทยประมาณ 1,807 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน ณ ปัจจุบันสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สี่ (เป็นสะพานเชื่อมเส้นทางหลักของถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ) ข้ามระหว่างลาวและไทยได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นและเริ่มที่จะเปิดใช้ ทำให้การสัญจรด้วยถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯนี้สะดวกมากขึ้น จากไทยไปลาวใช้เวลาข้ามสะพานไม่กี่นาที ไม่ต้องใช้เรือแพข้ามแม่น้ำโขงที่ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหรือกว่าชั่วโมงอย่างที่เคยเป็นมา


ในแง่ของเศรษฐกิจที่จะได้รับประโยชน์ แน่นอนว่าทั้งสามประเทศนี้จะได้รับประโยชน์แน่นอนไม่มากก็น้อย มองทางด้านประเทศจีน รัฐบาลท้องถิ่นมณฑลยูนนานให้ความสำคัญถนนเส้นนี้มาก รัฐบาลกลางของจีนเองก็ประกาศให้มณฑลยูนนานซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งไม่มีทางออกทะเล พัฒนาระบบรางรถไฟเป็นทางออกไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เป็นประตูออกสู่ภายนอก ดังนั้น เงินที่รัฐบาลจีนมีอย่างมหาศาลต่อไปจะเทมายังจีนภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้เป็นจำนวนมาก รัฐบาลจีนกระตือรือร้นที่จะประชาสัมพันธ์ พัฒนาระบบศุลกากรเข้าออกของสินค้าและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้เดินทางผ่านแดน ประเทศลาวเองก็ได้รับประโยชน์นี้ไปด้วย ถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯที่ตัดผ่านลาวนั้นนับได้ว่าเป็นถนนเกรดดีในประเทศลาว ทำให้คมนาคมในประเทศลาวสะดวกขึ้น ระหว่างทางสองข้างถนนมีการค้าขายของคนในพื้นที่ มีกิจการโรงแรม ร้านอาหารเกิดขึ้น นักธุรกิจทั้งไทย จีนและลาวต่างเห็นโอกาสทำเงินนี้ สร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่คนท้องถิ่น เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศลาวได้


ในส่วนของไทยเองแน่นอนได้รับประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจการค้าชายแดนระหว่างตอนเหนือไทยและจีนตอนใต้ การมีสะพานระหว่างประเทศแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกแห่ง พร้อมกับการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย รัฐบาลไทยมีโครงการที่จะทำพื้นที่พักสินค้าที่เชียงของ เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเซียน ดึงนักลงทุนทั้งไทยและเทศเข้ามาพัฒนาพื้นที่ ทำเขตอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อส่งออกไปยังจีนตอนใต้ และประเทศอื่นๆ ใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันที่ดินทำเลทองบริเวณสะพานแห่งที่สี่ไทยลาวนี้ได้ถูกกลุ่มนายทุนซื้อไปจนหมดแล้ว นายทุนดังกล่าวมีทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลีและจีน เป็นต้น


ประโยชน์แท้จริงที่เกิดขึ้นจากการเปิดใช้ถนนเส้นนี้คือ การค้าสินค้าเกษตรผัก ผลไม้ ดอกไม้สด ระหว่างไทยและจีนตอนใต้ (ยูนนาน) เติบโตขึ้นมาก พวกผู้ค้าดอกไม้สดที่ส่งมาไทยสามารถใช้ถนนเส้นนี้แทนการใช้เครื่องบินในการขนส่งซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก ผักและผลไม้ระหว่างประเทศใช้เวลาขนส่งเพียงหนึ่งวัน จากสถิติของด่านศุลกากรเชียงของผู้เขียนพบว่า ผู้ประกอบการไทยใช้เส้นทางนี้ส่งออกสินค้าไปยังจีนตอนใต้ (ยูนนาน) จำนวนมากขึ้นเนื่องจาก การขนส่งทางแม่น้ำโขงต้องใช้เวลานานกว่า 3-4 วัน (ประเทศไทยอยู่ทางตอนใต้ของจีน เรือส่งสินค้าต้องสวนกระแสน้ำขึ้นไป) บางครั้งต้องเจอกับภาวะน้ำแห้งหรือน้ำหลาก ทำให้เดินเรือไม่ได้ กี่ปีมานี้หลังจากปี 2554 ที่เกิด เหตุการณ์ปล้นฆ่าเรือส่งสินค้าจีนที่แม่น้ำโขงในฝั่งชายแดนไทย ข่าวนี้เป็นที่ฮือฮาและสร้างความกลัวให้กับเรือสินค้าจีนทั้งหลาย ทำให้ผู้ประกอบการจีนหันมาใช้เส้นทางคุนหมิง-กรุงเทพฯนี้มากขึ้น ทั้งนี้ ผู้เขียนมองว่าถนนเส้นคุนหมิง-กรุงเทพฯนี้จะเป็น “ทางเลือกใหม่” ให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกสินค้า เป็น “ตัวเสริม” ของการขนส่งทางน้ำและทางอากาศ ทำให้ผู้ประกอบการเลือกใช้เส้นทางได้ตามความเหมาะสมของตน นั่นหมายถึงมีทางเลือกในการขนส่งมากขึ้น


อีกธุรกิจหนึ่งที่กำลังมาแรงในขณะนี้คือ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตามเส้นทางถนนนี้ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากเดินทางเข้าไทยโดยถนนเส้นนี้ บริษัททัวร์จีนชูแคมเปญ “หนึ่งวันเที่ยวสามประเทศ” ในราคาที่ถูก ทำให้นักท่องเที่ยวจีนสนใจมาเที่ยวในรูปแบบนี้จำนวนมาก พวกคนจีนรุ่นใหม่ก็จะมีจับกลุ่มเพื่อ ขับรถมาเที่ยวเองหรือปั่นจักรยานมาตามทางแบบ “เหนื่อยก็พัก” ทางฝั่งนักท่องเที่ยวไทยใช้ถนนเส้นนี้เข้าประเทศจีนก็มีไม่น้อยและแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต


ถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯกับความหวังใหม่ที่เกิดขึ้น นับวันจะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลจีนมีความกระตือรือร้นและ “ลงมือทำ” อย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยเองให้ความสำคัญกับถนนเส้นนี้อยู่แล้ว แต่ควรที่จะลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เสมอต้นเสมอปลายเพื่อให้การร่วมมือดังกล่าวสำเร็จลุล่วง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง ผู้เขียนสังเกตอะไรได้บางอย่างจากรัฐบาลและเอกชนจีน รัฐบาลจะเป็นตัวนำและตัวหนุนอย่างเข้มแข็ง เอกชนเป็นคนลงมือดำเนินการ ทั้งรัฐและเอกชนทำงานไปพร้อมๆ กันจนลุล่วง รัฐบาลไทยเองควรจะเอาจุดเด่นตรงนี้มาเป็นตัวอย่างในการพัฒนาร่วมกันไปกับเอกชนไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพและบรรลุเป้าหมายตามที่ได้วางไว้


ถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคตยังสดใส ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ประสบรัฐบาลและเอกชนทั้งสามฝ่ายต้องประชุมและร่วมมือกันแก้ไขอย่างทันท่วงที ทั้งรัฐและเอกชนทั้งสามประเทศควรต้องร่วมมือกันพัฒนาและเติบโตไปด้วยกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่ายที่จะได้รับ