เลือดไก่...ไม่ปลอดภัยในการบริโภคจริงหรือ?

เลือดไก่...ไม่ปลอดภัยในการบริโภคจริงหรือ?

จากกระแสข่าวที่เริ่มจากเอกสารที่คล้ายหนังสือราชการฉบับหนึ่งที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย

แล้วมีการนำไปกระจายต่อกันอย่างแพร่หลาย โดยมีการเพิ่มเติมความเห็นลงไปในทำนองชักชวนให้งดบริโภคข้าวมันไก่ เนื่องจากมีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์เทียม (Vibrio Parahaemolyticus) ในข้าวมันไก่โดยเจาะจงลงไปว่ามีการปนเปื้อนในเลือดไก่ที่เป็นส่วนประกอบของข้าวมันไก่จนนำไปสู่การออกมาให้ข้อมูลของหน่วยงานราชการอย่างเช่นกรมควบคุมโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุข ในเชิงการเตือนให้ผู้บริโภค ระมัดระวังในการบริโภคข้าวมันไก่หรืองดเว้นการใช้เลือดไก่เป็นส่วนประกอบ และมีการออกมาให้ข่าวของเจ้าหน้าที่บางคนเพิ่มเติมอีกว่าถือเป็นการค้นพบการปนเปื้อนของเชื้อชนิดนี้ในเลือดไก่เป็นครั้งแรกในโลก

หลังจากได้รับทราบข้อมูลเหล่านี้ในเย็นวันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558 สัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็ได้มีการหารือกันเบื้องต้น และสรุปว่าข่าวสารที่เผยแพร่อยู่นี้ยังมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงหลายส่วน วันรุ่งขึ้นจึงได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯซึ่งได้มีมติเอกฉันท์ว่าทางสมาคมฯ จำเป็นต้องดำเนินการจัดให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อสารมวลชนถึงความเข้าใจที่ถูกต้องโดยร่วมกับกรมปศุสัตว์นำโดยท่านรักษาการอธิบดีกรมปศุสัตว์

จากความเห็นของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาที่สมาคมฯได้เชิญมาให้ข้อมูลและแถลงต่อสื่อมวลชนกล่าวโดยสรุปได้ดังนี้

1. กรมควบคุมโรคระบาดได้มีการพบปัญหาอาหารเป็นพิษที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสานโดยได้มีการสืบค้นสาเหตุของการเกิดโรคและพบว่ามีการตรวจพบเชื้ออหิวาต์เทียมจากอุจจาระผู้ป่วย

2. จากข้อมูลการเกิดโรคนี้ปกติพบได้โดยทั่วไปจากการบริโภคอาหารทะเลแต่ในการเกิดโรคนี้นับจากกลางปีที่แล้วมีข้อมูลบ่งชี้ว่าผู้ป่วยได้รับเชื้ออหิวาต์เทียมจากการบริโภคข้าวมันไก่เพราะมีการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อในเลือดไก่ต้มที่เป็นส่วนประกอบของข้าวมันไก่ ในขณะที่ตรวจไม่พบการปนเปื้อนในเนื้อไก่หรือเครื่องในไก่ แต่ทั้งนี้ ทางกรมควบคุมโรคระบาดไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าตรวจพบกี่ตัวอย่างจากจำนวนตัวอย่างที่สุ่มตรวจแต่กลับออกมาให้ข้อมูลที่คลุมเครือว่าถือเป็นการตรวจพบเชื้อชนิดนี้เป็นครั้งแรกในเลือดไก่โดยไม่ชี้ชัดว่าเป็นการปนเปื้อนเลือดไก่ต้มที่พบในตลาดและในยานพาหนะที่ใช้ขนส่งเลือดไก่ต้มไปยังตลาด

3. จากความรู้ด้านโรคสัตว์ปีก ทางสัตวแพทย์ขอยืนยันว่าไม่มีโอกาสที่เชื้อชนิดนี้จะเข้าไปอยู่ในไก่ที่มีชีวิตเพราะเชื้อชนิดนี้ไม่ได้พบในสภาพแวดล้อมในฟาร์มไก่แต่จะพบในน้ำทะเลและน้ำกร่อย ขณะที่เชื้อชนิดนี้ไม่สามารถแพร่ทางอากาศได้ ไม่เคยมีการรายงานว่ามีไก่ที่ป่วยด้วยเชื้อชนิดนี้และเชื้อนี้มีความจำเพาะเจาะจงที่จะเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนจนก่อปัญหาได้ในสัตว์น้ำเป็นหลัก

4. จากข้อมูลด้านการจัดการโรงงานและกระบวนการผลิตเลือดไก่ต้มในประเทศไทย การชำแหละไก่และการเก็บเลือดไก่เพื่อนำมาเตรียมเป็นอาหารเป็นไปตามมาตรฐานสากลในทุกโรงเชือด มีการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดทั้งในการผลิตชิ้นส่วนไก่และการผลิตเลือดไก่ต้มโดยหลักของการจัดการโรงงานมาตรฐาน ไม่สามารถจะเข้มงวดได้เฉพาะในส่วนเนื้อไก่และเครื่องในเท่านั้น เพราะชิ้นส่วนไก่ทั้งหมดมาจากโรงเชือดเดียวกันถ้าหากเกิดการปนเปื้อนในจุดใดจุดหนึ่งจะทำให้โรงงานนั้นมีปัญหาด้านมาตรฐานไปทั้งโรงงานทันที

5. กรมปศุสัตว์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อมาตรฐานโรงเชือดไก่ในไทย เพราะเป็นสถานที่ผลิตสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ มีการตรวจสอบเฝ้าระวังเรื่องมาตรฐานการผลิตอย่างเคร่งครัด และคู่ค้าที่นำเข้าเนื้อไก่จากประเทศไทยก็มีการเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานโรงเชือดอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ จากการเข้ามาสืบค้นการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์เทียมของกรมควบคุมโรคระบาดเองก็ไม่มีการตรวจพบการปนเปื้อนเชื้อชนิดนี้ทั้งในเลือดไก่ดิบและเลือดไก่ต้มที่ผ่านกระบวนการแล้วแต่อย่างใด

จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น ทางสัตวแพทย์สมาคมฯจึงอยากที่จะให้ความมั่นใจต่อผู้บริโภคว่า เลือดไก่ และ เลือดไก่ต้ม ที่ผลิตในประเทศไทยมีความปลอดภัยในการบริโภคมาก แต่ทั้งนี้ การปนเปื้อนของเชื้อนี้ในเลือดไก่ต้มก็อาจเกิดขึ้นได้ เหมือนกับอาหารชนิดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ดูแลของผู้ทำหน้าที่ขนของ เก็บรักษา ปรุง และเก็บอาหาร ถ้าทุกภาคส่วนมีความตระหนักถึงเรื่องสุขอนามัยอาหาร ปัญหาอาหารเป็นพิษในประเทศไทยก็จะสามารถลดลงไปได้อย่างแน่นอน สังคมไม่ควรจะเพ่งเล็งแต่เฉพาะวัตถุดิบอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง และผู้ที่จะออกมาให้ข้อมูลเหล่านี้ควรที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่รอบรู้ปัญหาและสาเหตุอย่างครบถ้วนในทุกมิติ ไม่ควรนำข้อมูลเพียงบางส่วนออกมาเผยแพร่เพียงเพื่อที่จะทำให้เกิดกระแสขึ้นในสังคมเท่านั้น

ท้ายที่สุดทางสัตวแพทยสมาคมฯ ขอยืนยันอีกครั้งว่า เลือดไก่ต้มที่ผลิตในประเทศไทยทีความปลอดภัยสูง โอกาสที่จะเกิดการปนเปื้อนของเชื้ออหิวาต์เทียมสามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกับอาหารอื่นๆ แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการบริโภคอาหารทะเลที่สุกๆ ดิบๆ หลายเท่า และถ้าผู้บริโภคต้องการจะบริโภคเลือดไก่ต้มอย่างสบายใจ ก็เพียงแต่นำไปต้มซ้ำและบริโภคขณะร้อนๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะป้องกันโรคนี้ .... ไม่ต้องตื่นตระหนกจนเกินสมควรต่อกระแสข่าวที่โหมกระพือกันอยู่ในขณะนี้