'นักร้องคุณภาพ'ควรเป็นอย่างไร?

การเกิดของศิลปินนักร้องในบ้านเรานั้นในอดีตเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก
ศิลปินนักร้องในอดีตที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักร้องคุณภาพนั้นต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถจริงๆ ในด้านนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น สุรพล สมบัติเจริญ สุเทพ วงศ์กำแหง ชรินทร์ นันทนาคร หรือจะเป็นรุ่นต่อมาอย่าง ธานินทร์ อินทรเทพ หรือ เศรษฐา ศิระฉายา และอีกหลายต่อหลายคนในเวลาต่อมา การก้าวเข้าสู่วงการของพวกเขาเหล่านั้นต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย ผ่านเวทีประกวดหลายต่อหลายเวที ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก จึงให้พวกเขาเหล่านั้นก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินที่ได้รับการยอมรับ หลายต่อหลายคนในยุคนั้นได้รับการประกาศให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีถึงความสามารถ และความนิยมที่ยังคงมีอยู่
การประกวดร้องเพลงในบ้านเรานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง จากเวทีงานวัด หรือตามงานเทศกาลทั่วๆ ไป ก้าวเข้าการประกวดผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และการก้าวเข้าสู่รูปแบบการประกวดร้องเพลงทางสถานีโทรทัศน์นี่เอง วิธีการประกวดก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามช่วงเวลา และยุคสมัย จากเดิมที่การตัดสินจะมาจากการให้คะแนนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขานั้นๆ ก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นการเอาคะแนนมาจากเสียงโหวต หรือเสียงเชียร์ของประชาชนผู้รับชมรายการการประกวดนั้นๆ ผ่านทางการส่ง SMS ในระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบ ซึ่งก็เกิดเป็นคำถามว่าเป็นการเอื้อประโยชน์หรือแสวงหาผลประโยชน์ หรือเป็นแบ่งปันผลประโยชน์ที่ลงตัวกันระหว่างผู้จัดการประกวด และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละรายหรือไม่ (ซึ่งในประเด็นนี้ผู้เขียนเคยไว้ในบทความเรื่อง “จินตนาการเชิงรูปธรรมในรายการเรียลลิตี้โชว์” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับวันพุธที่ 26/11/2557 ในคอลัมน์ คนพันธุ์ N)
คำถามที่สำคัญอีกหลายคำถามที่จะตามมาก็คือ “ชัยชนะที่แท้จริงนั้น มาจากเสียงโหวตหรือจากความสามารถของผู้เข้าประกวด ?” “นักร้องที่ชนะมีคุณภาพจริงหรือ ?” และในหลายๆ ครั้งผู้คนส่วนใหญ่ที่นั่งชมการประกวดก็มักจะเกิดความรู้สึกขัดแย้งกับผลการประกวดด้วยเช่นกัน การประกวดร้องเพลงในปัจจุบันนำเอารูปแบบการประกวดมาจากต่างประเทศ อาจจะด้วยการซื้อลิขสิทธิ์แล้วเอามาประยุกต์ปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการให้เข้ากับบริบทของบ้านเรา แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ไม่ว่ารูปแบบจะเปลี่ยนไปอย่างไร การใช้วิธีโหวตยังคงต้องมีอยู่เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ตอบสนองผู้สนับสนุนได้ และยังเป็นช่องทางของรายได้ที่มีต่อรายการประกวดนั้นๆ ด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการดำเนินธุรกิจก็ต้องรายได้ไม่งั้นธุรกิจก็จะอยู่ไม่ได้ แต่สิ่งที่ยากที่สุดก็คงจะเป็นการจัดความพอดีระหว่างความเป็นธุรกิจ กับความเป็นศิลปะ นั่นเอง
การประกวดร้องเพลงเพื่อเฟ้นหานักร้องคุณภาพนั้น จัดได้ว่าเป็นงานศิลปะที่ท้าทายต่อผู้จัดเป็นอย่างมาก เพราะดนตรีหรือการร้องเพลงเป็นความสุนทรีย์ ความคาดหวังของผู้ชมการประกวดย่อมคาดหวังว่าจะได้ชมการประกวดนักร้องที่เสียงดีมีคุณภาพ ผ่านการตัดสินจากกรรมการผู้ทรงวุฒิในสาขาอาชีพนั้นๆ อย่างจริงๆ หลายต่อหลายครั้งที่ผู้ชมเกิดความสงสัยว่า นักร้องคุณภาพคืออะไร ? นักร้องคุณภาพคือนักร้องที่เสียงดี เสียงเพราะ ร้องเพลงแล้วทำให้คนฟังเกิดความประทับใจในน้ำเสียงหรือเปล่า หรือว่านักร้องคุณภาพนั้นหมายถึงนักร้องที่ร้องเพลงเสียงดังๆ หน้าบิดๆ เบี้ยวๆ เพื่อแสดงให้ผู้ชมเห็นว่ากำลังเข้าถึงอารมณ์ของเพลงอย่างจริงจังใช่หรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็น่าจะได้ ในระยะเวลาหลายๆ ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ารายการประกวดร้องเพลงที่เกิดขึ้นนั้นจะมีอยู่ 2 กรณี สำหรับผู้ที่ชนะการประกวด นั่นคือ 1. หน้าตาดี 2. เสียงดัง ซึ่งในกรณีหลังนัยว่าต้องการที่จะนำเสนอให้สังคมเห็นว่าถ้าจะเป็นนักร้องที่มีคุณภาพนั้น นักร้องคุณภาพอาจจะไม่จำเป็นต้องหน้าหล่อเหลา หรือว่าหน้าตาสวยเสมอไป
การจัดการประกวดร้องเพลงที่ดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนเข้ามาร่วมตัดสินนั้น หากมองในแง่ของการสื่อสารแล้วอาจจะนับได้ว่าเป็นการเชื่อมโยงผู้คนในสังคมเข้าด้วยกันเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม ทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกว่าใกล้ชิดกับนักร้องหรือผู้เข้าประกวดที่ตนเองชื่นชอบเป็นผู้ที่ผลักดันหรือมีส่วนช่วยให้ผู้เข้าประกวดนั้นๆ ได้รับชัยชนะ หรือแม้กระทั่งญาติพี่น้องหรือครอบครัวของผู้ที่เข้าประกวดอีกเช่นกันก็จะมีความรู้สึกว่าถ้าหากว่าอยากให้ลูกหลาน ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนๆ ของพวกเขาเหล่านั้นได้รับชัยชนะจำเป็นต้องทุ่มทุนในการส่ง SMS ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ การส่ง SMS จึงกลายเป็นการส่งเพราะความใกล้ชิด หรือความชื่นชอบเป็นการส่วนตัว โดยที่ผู้ส่ง SMS ส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญในด้านการร้องเพลงเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเราจึงพบว่าการแสดงออกในการประกวดร้องเพลงในหลายๆ รายการนั้น ผู้เข้าประกวดจะมาในรูปแบบเดียวกันคือ ตะโกนให้ดังที่สุด ร้องเพลงให้เสียงสูงที่สุด ใส่สีหน้าและอารมณ์ให้มากที่สุด และยิ่งเมื่อประกอบกับการที่คอมเมนเตเตอร์แต่ละท่านแสดงความชื่นชมหรือกล่าวชื่นชม ก็ยิ่งทำให้ผู้ชมเกิดความชื่นชอบมากขึ้นเท่านั้น ศิลปะการร้องเพลงเป็นเรื่องละเมียดละไม และละเอียดอ่อน ดังนั้น การจะสร้างนักร้องคุณภาพขึ้นมาประดับวงการสักคน จึงควรที่จะสร้างด้วยวิธีการที่คุณภาพจริง การประกวดก็ควรจะมีขั้นตอนที่ชัดเจน ผ่านการคัดเลือกหรือตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขานั้นๆ อย่างแท้จริง นั่นแหละจะทำให้เราได้ยินได้ฟังเสียงจากนักร้องคุณภาพจริงๆ ไม่ใช่นักร้องที่ร้องเพลงแล้วเสียงดัง หน้าตาบูดเบี้ยวเพียงอย่างเดียว และหากผู้จัดการประกวดยังคงยึดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ คำถามเดิมๆ ที่จะเกิดขึ้นก็ยังคงหนีไม่พ้น คำถามที่ว่า “นักร้องคุณภาพควรมีลักษณะเป็นอย่างไร และอะไรคือความหมายของคำว่านักร้องคุณภาพ ?”







