หลักการปีนต้นไม้กับทฤษฎีSEO

หลักการปีนต้นไม้กับทฤษฎีSEO

มิตรรักแฟนเพลง ส่งอีเมล์มาถามผมเรื่อง Search Engine Optimization ครับ

"คุณโซวบักท้ง จะไม่พูดถึงเรื่อง Search Engine Optimization (SEO) บ้างเลยหรือ? อุตส่าห์เป็นถึงผู้ร่วมก่อตั้ง ThaiSEOBoard.com เขียนคอลัมน์นี้มาก็หลายตอนแล้ว ไม่เห็นจะเผยเทคนิคอะไรบ้างเลย?"

สารภาพแบบตามตรงครับ อยากเขียนอยู่ แต่เนื้อที่ไม่พอ!

รายละเอียดมันเยอะจริงๆ เรื่อง SEO คงไม่สะดวกมาเขียนลงรายละเอียดตรงนี้ แต่วันนี้จะมาพูดสั้นๆ เกี่ยวกับ ปัญหาที่พบเจอบ่อยเกือบจะที่สุด ตั้งแต่ทำ SEOให้กับลูกค้ามา นั่นก็คือ

"การเลือก Keyword"

อารมณ์ประมาณว่า พอลูกค้าเจอหน้าผมปุ๊บ ก็บอกเลยครับ "อยากได้ Keyword นั้น โน้น นี้ อยู่อันดับ 1 ใน Google" ราคาเท่าไหร่ ว่ามา จ่ายได้ไม่อั้น

ผมจะมีหน้าที่คอยติดเบรกเสมอ ว่า Keyword ที่อยากจะทำ SEO เนี่ยทำ Research แล้วหรือยัง?

เจอบ่อยมากๆ ครับ ที่ลูกค้าพยายามทำ SEO อย่างสุดความสามารถเสียเงิน เสียเวลาในการทำมากมาย จนท้ายสุดสามารถผลักอันดับเว็บตัวเอง ใน Keyword ที่ต้องการ ให้อยู่ในอันดับสูงๆ ใน Google ได้ แต่เมื่อทำได้แล้ว สิ่งที่พบเจอกลับกลายเป็นความว่างเปล่า! Traffic คนเข้าเว็บแทบไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย หรือเพิ่มขึ้นแต่ยอดสั่งซื้อ ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย!

อุปมาประมาณว่า เอาบันไดพาดต้นไม้ แล้วก็หลับหูหลับตาปีนๆๆๆๆ พอปีนไปถึงยอดไม้ เหลือบมองดูวิวรอบๆ ก็ร้อง "อั๊ยหยา! อั๊วปีนผิดต้น !!”

เหมือนเป็นเรื่องตลกนะครับ แต่เรื่องนี้ดันเป็นเรื่องที่พบเจอบ่อยมากๆ ในวงการ SEO บ้านเรา

ข้อแนะนำง่ายๆ ของผมครับ ก่อนจะเริ่มทำ SEO ขอให้ทำ Research ก่อนสักเล็กน้อย โดยไปที่ "Google Keyword Planner" (Search Google ได้เลยครับเว็บที่อยู่อันดับหนึ่ง)

จากนั้นลองกรอก Keyword ที่เราอยากจะทำ SEO ลงในช่อง Keywords ดู พี่ Google ของเราใจดีมากๆครับ ที่เปิดเผยจำนวน Search Volume ต่อเดือน ให้เราได้ทราบกัน

พอเรารู้จำนวนการ Search ของ Keyword ที่ต้องการทำ SEO เราก็จะพอรู้คร่าวๆ แล้วหล่ะครับ ว่าถ้าเราทำเว็บติดอันดับหน้าแรกใน Google เว็บเราจะมี Traffic เพิ่มขึ้นประมาณเท่าไหร่ ถ้าใช้สูตรของผม จะใช้สูตรว่า Traffic ที่เราได้รับ จะประมาณ 10-20% ของ Search Volume ที่ Google บอก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ Search แล้วจะคลิกเว็บเรา อาจจะไปคลิกที่เว็บอื่นบ้าง คลิกโฆษณาบ้าง ดังนั้นคิดสัก 10-20% ก็พอ

ลองดูสิว่าถ้าได้ Traffic เท่านี้ อยู่ในระดับที่เราพอใจหรือไม่?

ทีนี้คำถามต่อไป ว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่า Keyword ที่เราจะทำ SEO นั้น สามารถนำพา Order เข้ามาได้จริงๆ

ถ้าไม่พึ่งสัญชาตญาณจนเกินไป แนะนำให้ทุกคนลองลงโฆษณา Google Adwords กับทาง Google ดูก่อนครับ ลองซื้อ Keyword ที่เราอยากจะทำ SEO ดู ไม่ต้องใช้งบเยอะก็ได้ครับ แค่ให้มี Traffic หรือ Click เข้ามาสัก 100 - 200 คนก็พอ แล้วดูสิว่า เรามี Order เข้ามามั้ย?

หากมี Order เข้ามา แสดงว่าเรามาถูกทางแล้วหล่ะ Keyword ที่เราเลือกถือเป็น High Performance Keyword ที่แปลสภาพกลายเป็น Order ให้กับเราได้

แต่ถ้าไม่มี Order เข้ามา ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า Keyword ไม่ดีนะครับ บางทีอาจจะกลายเป็นว่า เว็บเราต่างหากที่ไม่ดี ไม่สามารถเชื้อเชิญให้คนซื้อของหรือติดต่อเราเข้ามาได้ เรื่องนี้ต้องมาว่ากันอีกทีในเรื่อง Web Strategies

ข้อดีอีกข้อของการลงโฆษณา Adwords ก่อนที่จะทำ SEO จริงๆ อีกข้อคือ ทำให้เรารู้งบประมาณที่ควรจะจ่ายในการทำ SEO ด้วยครับ ในกรณีที่จะจ้างบริษัทอื่นช่วยทำ SEO

ใน Keyword เดียวกัน ช่วงเวลาเท่ากัน เราไม่ควรใช้งบประมาณในการทำ SEO มากกว่างบประมาณในการทำ Adwords

หลายครั้งหลายหนมากๆครับ ที่พบว่าการลงโฆษณาแบบ Adwords ใช้งบประมาณน้อยกว่าการทำ SEO ประมาณว่าถ้าทำ Adwords เสียเงินแค่หมื่นเดียวทั้งปี แต่พอไปจ้างทำ SEO ใน keyword เดียวกัน กลับเสียหลายหมื่น ถ้าเป็นแบบนี้บางทีก็ต้องคิดแล้วครับ ว่าจะเสียเงินจ้างทำ SEO ไปทำไม?

กล่าวโดยสรุป ก่อนจะเริ่มลงมือทำ SEO ทำการบ้านก่อนสักนิด เช็ค Search Volume กับ Google Keyword Planner เสียหน่อย ลงโฆษณากับ Adwords สักนิด เพื่อดูว่า Keyword สร้าง order ได้มั้ย ค่าใช้จ่ายควรค่าในการลงทุนทำ SEO หรือเปล่า

จะปีนต้นไม้ทั้งที ขอให้ปีนให้ถูกต้นนะครับ

ถึงจะปีนไม่ไหว ปีนไม่ขึ้น แต่ก็ยังดีกว่า ปีนขึ้น แต่ปีนผิดต้นนะ จะบอกให้