สภาตุลาการ

แนวคิดเรื่อง "สภาตุลาการ" พบว่ามีการถกเถียงกันในคณะทำงาน คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2540 ตามข้อเสนอของ “ประชุม ทองมี” สมาชิก ส.ส.ร. 2540 มี ประธานคณะกรรมาธิการวิชาการ ข้อมูลและศึกษาแนวทางการร่างกฎหมายประกอบร่างรัฐธรรมนูญ "กระมล ทองธรรมชาติ" ทำหน้าที่ประธานการประชุม สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางว่าหากจะให้มี "สภาตุลาการ" ควรกำหนดโครงสร้างเป็นเช่นไร คณะทำงานของคณะกรรมาธิการยกร่างฯ ส่วนใหญ่เห็นว่า "สภาตุลาการ" ควรมีอำนาจหน้าที่เพียงเป็นผู้ประสานงานของศาลต่างๆ ทั้งศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ซึ่งอำนาจหน้าที่ดังกล่าวของ "สภาตุลาการ" จะไม่กระทบต่อการทำงานของคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ในแต่ละศาล
>>> ในประเทศจีนมี "สภาตุลาการ" (Judicial Yuan; 司法院) เป็นหนึ่งในฝ่ายทั้ง 5 ของรัฐบาล และเป็นองค์กรสูงสุดในฝ่ายตุลาการแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 และมาตรา 78[1] บทบัญญัติเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (Additional Articles of the Constitution) มาตรา 5[2] กับทั้งรัฐบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (Local Government Systems Act) มาตรา 30 มาตรา 43 และมาตรา 75[3] ระบุว่า สภามีอำนาจตีความรัฐธรรมนูญ และสร้างเอกภาพให้แก่การตีความกฎหมาย และกฎ ดำเนินคดีแก่ประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี ยุบพรรคการเมือง ซึ่งฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ชำระคดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง และคดีดำเนินมาตรการทางวินัยแก่ข้าราชการ และวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือชอบด้วยกฎหมายของข้อบัญญัติท้องถิ่นและกิจการอื่น ๆ
>>> ในการตีความรัฐธรรมนูญ สร้างเอกภาพให้แก่การตีความกฎหมายและกฎ ดำเนินคดีแก่ประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี หรือยุบพรรคการเมือง นั้น สภามีแผนก 1 คอยรับผิดชอบ เรียก "คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" (Justices of the Constitutional Court ; 大法官會議) มีสมาชิก 15 คน นอกจากอำนาจข้างต้น สภายังกำกับดูแลศาลล่างซึ่งประกอบด้วยศาลสูงสุด (Supreme Court) ศาลสูง (High Court) ศาลจังหวัด (District Court) และศาลปกครอง (Administrative Court) รวมถึงคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการ (Commission on the Disciplinary Sanctions of Public Functionaries) ด้วย
>>> เจตนารมณ์ที่จะให้มี "สภาตุลาการ" ของไทยเมื่อปี 2540 กับ "สภาตุลาการ" ของจีน จะเหมือนหรือต่างอย่างไรไม่กระจ่างชัดนัด แต่ที่สุดไทยก็ไม่มี "สภาตุลาการ" ที่หยิบประเด็นนี้มาก็เพราะเห็นว่า น่าจะนำมาถกกันอีกครั้งในวาระปฏิรูปประเทศไทยในทุกๆ ด้าน รวมถึง "ศาล" ด้วย แต่จะขอแลกเปลี่ยนประเด็น คือ การนำ "สภาตุลาการ" มาใช้แทนระบบการเลือกตั้ง คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ในศาลยุติธรรม เพราะผู้พิพากษาจำนวนหนึ่งกระอักกระอ่วนใจที่เห็นผู้พิพากษาศาลสูงมายืนไหว้ขอคะแนนเสียงจากผู้พิพากษาศาลล่าง มันไม่สง่างามสมกับการเป็นผู้พิพากษาจะครองตนให้อยู่ในสถานะที่ควรเคารพยกย่อง แต่การเลือกตั้งก็ทำลายการรักษาระบบอาวุโสไป ดังนั้น จึงมีแนวความคิดให้เลือกตั้ง "ทางอ้อม" ให้ผู้พิพากษาแต่ละรุ่น เวลานี้มีประมาณ 40 รุ่น เลือกกันเองรุ่นละ 1 คน แล้วให้คน 40 คน ไปเลือกผู้เหมาะสมเป็น ก.ต. ส่วนอำนาจหน้าที่ก็คงเดิมเอาไว้
>>> สิ่งที่ผู้พิพากษาเห็นว่า ไม่เหมาะสมคือการจะเป็นก.ต.ต้องได้รับเลือกเพราะเป็นผู้มีคุณสมบัติครบและเป็นที่ยอมรับด้วยตัวท่านเอง แต่การให้ผู้พิพากษาศาลสูง บางคนเป็นครูบาอาจารย์ มายืนไหว้ขอคะแนนลูกศิษย์ตัวเอง ภาพมันออกมาไม่สง่างาม
>>> ทิ้งปมไว้เท่านี้ผู้รู้ด้านปฏิรูปทั้งหลายเชิญถกกันครับ




