"ทวาย"'ละเมิดสิทธิ ข้ามพรมแดน

"ทวาย"'ละเมิดสิทธิ ข้ามพรมแดน

โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2551 ตั้งอยู่ทางตอนใต้เมียนมาร์ หากสร้างเสร็จจริง

จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใหญ่กว่ามาบตาพุด ระยอง ของไทยเราถึง 10 เท่า

ปี 2553 เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ได้บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนบริษัท แม็กซ์ เมียนมาร์ จำกัด สัดส่วน 75-25 แต่ประสบปัญหาระดมทุน โครงการจึงหยุดชะงัก เมื่อปี 2555

สิทธิสัมปทาน จึงโอนไปเป็นของ นิติบุคคลเฉพาะกิจ ซึ่งร่วมทุนระหว่างเมียนมาร์กับรัฐบาลไทย

เช่นเดียวกับประเทศกำลังพัฒนา เมียนมาร์ขาดกฎหมายควบคุมการลงทุนอุตสาหกรรม ในเพื่อนบ้านที่ดีไทยต้องให้หลักประกันว่า การลงทุน ต้องเคารพหลักสิทธิมนุษยชนของชุมชนในพื้นที่โครงการ และโครงการเชื่อมโยงเข้ามาฝั่งไทยในเขตกาญจนบุรี

ye lin myint ในนามสมาคมพัฒนาทวาย พร้อมด้วยมูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ และเสมสิขาลัย จึงร้องขอให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ด้านสิทธิชุมชน กรณีโครงการท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจทวาย ที่ไทยร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงในการพัฒนา อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน

นอกจากคำร้อง ยังมีบันทึก "เสียงจากชุมชน ข้อกังวลเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย" รวบรวมเป็นงานวิจัยจากการสำรวจความเห็นชาวบ้าน จากหมู่บ้าน 20 แห่ง 4,300 ครัวเรือน หมู่บ้าน 9 แห่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และหมู่บ้านในที่สูง (กะเหรี่ยง) ในพื้นที่โครงการ กว่า 3,900 ครัวเรือน

ชาวบ้านส่วนใหญ่พึ่งพาอาชีพเกษตรกรรม ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพ ที่ดินมีความหลากหลายเป็นทั้งแหล่งอาหารและแหล่งรายได้ เช่นเดียวกับการประมง

ชาวบ้านเห็นตรงกันว่า โครงการทวาย จะส่งผลต่อพวกเขา คือ

1. สูญเสียอาชีพ

2. ที่ดินเสียหายจากก่อสร้าง

3. ชาวบ้านถูกห้ามไม่ให้ปลูกพืช

4. การเวนคืนที่ดินเอื้อผลประโยชน์คนรวย ผู้มีอิทธิพล

5. แรงงานลูกจ้างรายวันขาดอาชีพ

ภาพรวมการสูญเสีย ที่ชาวบ้านเห็นตรงกันคือ พื้นที่ป่าชายเลน หอยทะเลหูหมู การขาดไม้ฟืน(เชื้อเพลิง) ขาดน้ำ เกิดมลพิษทางน้ำ

แม้โครงการจะยุติไป แต่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้ว เพราะเข้าออกหมู่บ้านได้ยากขึ้น มีไม้กั้นทางเข้าออก ปัญหาฝุ่นละอองเกิดโรคทางเดินหายใจ เกิดอุบัติเหตุทางถนน เกิดภาวะย้ายถิ่นสูง และเกิดความขัดแย้งระหว่างศาสนา

ตลอดการดำเนินโครงการ ชาวบ้านไม่มีโอกาสได้รับคำปรึกษา ไม่เคยได้ข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลและบริษัท มีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ที่รู้ และชาวบ้านได้ข้อมูลก็เฉพาะด้านบวกด้านเดียว

ตั้งแต่ปี 2553 บริษัทไล่ที่ชาวบ้านขณะที่ค่าเวนคืนยังได้ไม่ครบ การตัดถนนทำลายพื้นที่ภาคการเกษตรเสียหาย

ชาวทวายบอกว่า พวกเขาเห็นบทเรียนที่เจ็บปวดของชาวบ้านแม่เมาะ ชาวบ้านมาบตาพุด แล้วไม่ต้องการให้เกิดในบ้านเขา

นี่คือโครงการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดน และไทยเราก็มีส่วนร่วมด้วย