ผิดแล้วผิดอีก

คนเรามีอาการแปลกๆ อยู่อย่างหนึ่งคือเรามักจะทำผิดแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายเรื่องที่เราเคยทำผิดพลาดไป
สักพักหนึ่งเราก็มักจะทำผิดซ้ำแบบเดิมอีก ไปซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วเผลอซื้อของที่ไม่จำเป็นมาอยู่เป็นประจำ ซื้อแล้วก็บ่นกับตัวเองว่าซื้อมาทำไม แต่ไปอีกครั้งก็ยังหลงซื้อของที่ไม่จำเป็นกลับมาอีก ยิ่งในยามที่เราเครียดกับเรื่องต่างๆ รอบตัว การทำผิดซ้ำซากจะมีมากกว่าในยามที่เรามีจิตใจแจ่มใส ทำงานในยามเครียด จึงผิดพลาดซ้ำซากมากกว่าทำงานในยามปกติ ทำไมคนเราจึงทำผิดซ้ำซาก ทั้งๆ ที่รู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นความผิดพลาดที่ทำเช่นนั้น
เมื่อเราเครียด เรากลัว เราเบื่ออะไรสักอย่างหนึ่ง เราจะจำกัดหูตาของเราให้แคบลง เพราะหมดพลังความคิดไปกับความเครียดหรือความกลัวหรือความเบื่อนั้น หนทางที่เราจะเลือกในการแก้ปัญหาต่างๆ ในยามนั้นจะลดน้อยถอยลงกว่าที่ควรจะเป็นมากมาย และความเครียด ความกลัว และความเบื่อจะทำให้เราไม่กล้าจะเสี่ยงอะไรเพิ่มขึ้นอีก ด้วยกลัวว่าหนทางใหม่ๆ ที่จะเลือกใช้นั้น อาจนำพาความล้มเหลวมาเพิ่มให้กลายเป็นเรื่องเครียด เรื่องน่าเบื่อเพิ่มเติมอีก ทางเลือกเก่าๆ จึงกลับมาใหม่และบางทางเลือกก็เป็นหนทางที่ผิดพลาด แต่เรามักพอใจที่จะจำกัดทางเลือกของตัวเราเองไว้ เพื่อให้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับของใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เรากลัวสิ่งที่ยังไม่รู้แต่เราพร้อมที่จะเดินตามทางเลือกที่เคยผิด เพราะเคยทราบแล้วว่าเดินผิดซ้ำซากนั้นมีผลกระทบมากแค่ไหน ดังนั้น หากต้องการลดความผิดซ้ำซาก จะตัดสินใจเรื่องใดต้องแน่ใจว่าเราไม่ได้ตัดสินใจในระหว่างที่กำลังเครียดกับเรื่องนั้น หรือกำลังกลัว หรือกำลังเบื่อสุดขีด ตัดสินใจในยามเครียดยามกลัวยามเบื่อเมื่อใดย่อมมีโอกาสเลือกทางผิดซ้ำซากเมื่อนั้น
ความไม่มั่นใจในตนเองเป็นอีกต้นเหตุหนึ่งของความผิดพลาดซ้ำซาก ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเราด้อยฝีมือ ด้อยความสามารถ เราจะจำนนอยู่กับวิธีการดั้งเดิม ดังนั้น อย่าเอาแต่โทษตนเองว่าไร้ฝีมือ หากทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง ระลึกไว้เสมอว่าคนเราผิดพลาดได้เสมอ ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบจนทำอะไรแล้วไม่เคยผิดพลาดสักอย่าง บางคนกลบเกลื่อนความไม่มั่นใจในตนเองด้วยการหลอกตนเองว่าหลงลืมความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปแล้ว ทำให้เลือกทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังนั้น วันใดก็ตามที่เราทำผิดพลาดอะไรไปบ้างก็จดบันทึกส่วนตัวไว้บ้าง เพื่อไว้เรียนรู้ว่าอะไรไม่ควรจะผิดพลาดซ้ำซากอีก แต่อย่าจดบันทึกไว้เพื่อสมน้ำหน้าตัวเองเด็ดขาด
นอกเหนือจากความเครียด ความกลัว ความเบื่อ และความไม่มั่นใจในตนเองแล้ว การทำงานที่ซ้ำซาก กี่ปีกี่ปีก็ทำงานแบบเดิมๆ เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้เราผิดซ้ำซาก ถ้าเราซื้อของจากร้านเดิมเป็นประจำ เรามีโอกาสที่จะตัดสินใจซื้อของที่ไม่จำเป็นมากกว่าการที่เราซื้อของจากหลากหลายร้าน ถ้าช่วงเวลาที่เราใช้เครือข่ายสังคมเป็นช่วงเวลาเดิมๆ เรามีโอกาสที่จะเขียนข้อความซ้ำๆ มากกว่าการใช้งานเครือข่ายสังคมในหลากหลายเวลา การงานที่ซ้ำซากนำไปสู่ความผิดพลาดซ้ำซากได้เช่นกัน เมื่อใดก็ตามแต่ที่เราเริ่มรู้สึกว่าทำผิดซ้ำซากอีกแล้ว ให้พยายามเปลี่ยนรูปแบบวิธีการทำงานให้แตกต่างไปจากเดิมดูบ้าง เคยเดินทางเส้นไหนให้เปลี่ยนเป็นเส้นทางใหม่ดูบ้าง และลองหาคำตอบให้กับตัวเองว่ารูปแบบการทำงานแบบใหม่ให้อะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง ค้นหาหนทางทำงานใหม่ให้เป็นนิสัย กล้าเสี่ยงกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้มากขึ้นอีกนิด
การยอมรับการเปลี่ยนแปลงทำให้เรามีเวลาได้คิดได้พิจารณาว่าวิธีการใหม่นั้นมีจุดด้อยอะไรบ้าง จุดดีมีอะไรบ้าง ถ้าเคยโพสต์ข้อความใหม่เป็นประจำทุกวันจันทร์ คนเราจะยอมเปลี่ยนแปลงได้เมื่อทราบว่าข้อความที่โพสต์ในวันพฤหัส วันศุกร์ และวันอาทิตย์มีสถิติว่ามีคนเข้ามาอ่านข้อความใหม่ที่โพสต์มากเป็นอันดับหนึ่ง สองและสามตามลำดับ เมื่อใดก็ตามที่พบว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ให้ลองสำรวจการทำงานประจำวันของเราดูว่ามีส่วนใดบ้างที่เราควรจะปรับเปลี่ยนได้แล้ว โดยถามตัวเองดูว่าวิธีการดั้งเดิมที่ทำอยู่นั้นไม่ดีตรงไหนบ้าง และถามต่อไปด้วยว่ามีอะไรที่ทำให้เราต้องทำตามวิธีเดิม มีอะไรบ้างที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงวิธีทำงานไม่ได้ การทำผิดซ้ำซากจะลดลงไปให้เห็นทันตา
ให้รางวัลกับตัวเองสักหน่อย หากสามารถปรับเปลี่ยนวิธีทำงานใหม่ๆ ได้สำเร็จ เพราะบางครั้งอุปสรรคในการเปลี่ยนแปลงนั้นมาจากรอบๆ ตัว จากการที่คนรอบตัวก็กลัวการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับที่เรากลัว ถ้าเรากลัวอยู่คนเดียว เปลี่ยนยากก็จริง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนได้ ถ้าคนอื่นกลัวการเปลี่ยนแปลง คนอื่นจะกลายเป็นอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันออกไป กว่าที่เราจะเอาชนะจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต้องออกเรี่ยวแรงทั้งกายใจมากเอาการ ถ้ารอบตัวต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องหากองหนุนช่วยสนับสนุนแรงใจเอาไว้บ้าง ดังนั้น เพื่อให้เรามีเรี่ยวแรงเดินหน้าหาวิธีการใหม่ๆ ทั้งๆ ที่รอบตัวต้านทานการเปลี่ยนแปลงกันไปหมด เปลี่ยนแปลงได้เมื่อไร ก็ให้รางวัลกับตัวเองเสียบ้าง
ในขณะที่เรารู้สึกว่าการทำผิดซ้ำซากเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเชื่อหรือไม่ว่ายังมีคนบางคนชอบทำผิดซ้ำซาก เพราะคนกลุ่มนี้หลอกตนเองอย่างสนิทใจว่าหนทางเดียวที่มีคือหนทางดั้งเดิมที่เดินกี่ครั้ง ก็ผิดพลาดทุกครั้ง




