"เท่าเทียม" ไม่ใช่ "ยุติธรรม" เสมอไป

"เท่าเทียม" ไม่ใช่ "ยุติธรรม" เสมอไป

ภาพนี้ได้รับการเผยแพร่ใน social media มาสักระยะหนึ่งแล้ว มีความหมายน่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเรากำลังพูดถึง

"ความเหลื่อมล้ำ" เหมือน "ฟ้ากับเหว" ระหว่างคนรวยกับคนจนของประเทศไทย ที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับสังคมไทย

คำว่า "เท่าเทียม" กับ "ความยุติธรรม" นั้น มีความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ดังนั้น คำว่า "ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันภายใต้รัฐธรรมนูญ" จึงไม่ได้แปลว่า นี่คือ ความยุติธรรมหรือความเป็นธรรม

เพราะว่าเมื่อ "โอกาส" ไม่เท่าเทียมกันตั้งแต่ต้น เพราะโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ และ สังคม แล้ว การอ้างว่านี่คือสังคม "ยุติธรรม" ก็ย่อมจะไม่ตรงกับความเป็นจริง

ภาพนี้เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนว่า หากคนสูงใหญ่ไม่เท่ากัน การอ้างว่าได้ให้โอกาส "เท่าเทียม" กัน ย่อมไม่ได้หมายความว่า นี่คือ สังคมที่เป็นธรรม

เพราะว่าคนด้อยโอกาสนั้น แม้จะได้รับสิทธิเท่ากับคนที่มีโอกาสมากกว่าหลายเท่า ยังไงๆ ก็ไม่สามารถจะยืนอยู่ในระดับเดียวกันกับอีกคนหนึ่งได้

สังคมไทย มักจะอ้างเสมอว่าเราเป็น "ประชาธิปไตย" ทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากัน ดังนั้น ผลการเลือกตั้งจึงเป็นเรื่องถูกต้องเป็นธรรมเสมอ

โดยไม่ตระหนักว่า ข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนทั่วไปได้รับนั้น ไม่เท่าเทียมกัน อีกทั้งโอกาสที่จะเข้าถึงข้อเท็จจริงและความจริง ก็มีมากน้อยต่างกันอย่างยิ่ง และเมื่อฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่างกันอย่างรุนแรง การตัดสินใจทางการเมืองก็ไม่อาจจะเรียกได้ว่า "เสมอภาค" และ "ยุติธรรม" ที่มีการกล่าวอ้างกันเสมอๆ

เมื่อ "โอกาส" ไม่เท่าเทียมกัน และ ยิ่งเมื่อ "ศรีธนญชัยศาสตร์" กลายเป็นกระแสหลักของการเมือง ก็ยิ่งจะเห็นว่าวาทกรรมเรื่อง "ความเท่าเทียม" ลงท้ายก็กลายเป็น "ความอยุติธรรม" และหนีไม่พ้นความ "ไม่เป็นธรรม" ในที่สุด

ระบอบประชาธิปไตยใดที่ไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง "ความเท่าเทียม" (โดยผิวเผิน) กับ "ความยุติธรรม" (ที่ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ) ย่อมไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น "ประชาธิปไตย" ที่แท้จริงได้

เส้นแบ่งระหว่าง "ประชานิยม" ที่ฟังดูเหมือนว่าจะทำในสิ่งที่ "ประชาชนนิยม" กับ "การซื้อความภักดีด้วยเงินและของฟรี" โดยอาศัยตำแหน่งทางการเมืองของนักการเมืองนั้น บางครั้งหากใช้ "ศรีธนญชัยศาสตร์" ก็จะบางมากจนบ่อยครั้งมิอาจจะวิเคราะห์และแยกแยะออกได้

แต่เมื่อสังคมได้รับโอกาสที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้รับรู้ถึงรายละเอียดที่ซ่อนเร้นจากสาธารณชนอยู่ นั่นแหละจึงจะเกิดความ "กระจ่าง" และความชั่วร้ายของการปิดบังซ่อนเร้นหรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร จึงจะปรากฏต่อสาธารณชนอย่างจริงจัง

ภาพวาดนี้สะท้อนถึงความจริงอีกด้านหนึ่ง ว่า คนที่มองจากอีกด้านหนึ่งของกำแพงก็เห็นแต่คนที่สูงกว่า (มีเงิน มีเส้นสาย และมีโอกาสมากกว่า) แต่จะไม่เห็นคนที่ด้อยโอกาส จึงจะยอมรับคนที่ "ปรากฏให้เห็นเด่นชัด" มากกว่าคนที่ไม่มีสิทธิจะโผล่เหนือกำแพงนั้นเลย

ต่อเมื่อคนที่เตี้ยกว่า (โอกาสน้อยกว่าแต่ไม่ได้แปลว่ามีความสามารถน้อยกว่า) ได้รับโอกาสที่จะยืนได้สูงเท่าๆ กันกับคนแรก นั่นจึงจะสะท้อนถึงความ "ยุติธรรม" ที่สังคมพึงจะให้กับคนทั้งหลาย

วันนี้ เรามีกรณี "ดูเหมือนเท่าเทียม" แต่ความจริงคือความ "เหลื่อมล้ำ" ที่ฝังลึกในสังคมไทย จึงไม่เกิด "ความเป็นธรรม" ที่แท้จริงได้ และตราบเท่าที่ยังไม่แก้ปัญหาพื้นฐานนี้ ความยุติธรรมและความเป็นธรรมก็เกิดขึ้นไม่ได้ในประเทศนี้

และความขัดแย้งของสังคม ก็จะยืดเยื้อยาวนาน...ต่อไป