สู่สุดยอดผู้นำระดับ 5 (ดาว)

ผู้นำที่เป็นมากกว่าเจ้านาย คือคุณสามารถทำให้คนอื่นๆ ทำตาม ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเขาจำเป็นต้องทำ
การบังคับบัญชาตามระบบหรือรูปแบบในอดีต ที่พบเห็นได้ในหลายองค์กร หรือแม้แต่การบริหารงานในระดับประเทศที่ยังคงใช้กันอยู่นั้น บทบาทและอำนาจมีมาพร้อมกับตำแหน่งหน้าที่ก็จริง ไม่ถือว่าเป็นสิ่งเลวร้าย หรือใช้ไม่ได้เลย เพียงแต่ควรมีให้เป็นพื้นฐาน และใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่น มีเวลาน้อย เงื่อนไขข้อจำกัดมาก ต้องการผลรวดเร็วชัดเจน เป็นต้น แต่ไม่ควรใช้บ่อยจนเป็นนิสัย เพราะถ้าใช้มากอาจเสพติดกลายเป็นคนที่นิยมในอำนาจ และมองข้ามคุณค่าของคนรอบข้างไปได้ง่ายๆ แค่เพียงเปลี่ยนพฤติกรรมและใช้อำนาจตามลายลักษณ์อักษรเท่าที่จำเป็น ปรับทัศนคติจาก “การสั่ง” มาเป็น “การนำ” แทน เมื่อทำบ่อยเข้าจนเป็นนิสัย เชื่อว่าไม่นานเราก็จะได้เป็นผู้นำที่ดีและมีคนยกย่อง
เชื่อว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่มีโอกาสได้อ่านหนังสือ The 5 Levels of Leadership โดย John C. Maxwell ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำ นอกจากหนังสือฉบับภาษาอังกฤษแล้ว โชคดีที่มีฉบับแปลภาษาไทยในชื่อ “ภาวะผู้นำ 5 ระดับ จากจุดเริ่มต้นสู่ความเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบ” โดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ คำแนะนำหนังสือฉบับภาษาไทยดังกล่าว ได้สรุปย่อให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า ผู้นำที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการได้ตำแหน่งแล้วจบ ความจริงการได้รับเลือกให้ได้รับตำแหน่ง ที่อยู่เหนือคนอื่นเป็นเพียงระดับต่ำสุดของความเป็นผู้นำ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ระดับเท่านั้น
ผู้นำที่เป็น “มากกว่า” เจ้านาย คือคุณสามารถทำให้คนอื่นๆ ทำตาม ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเขาจำเป็นต้องทำ หากแต่ผู้นำต้องมีฝีมือและความสามารถในการผูกใจคนและสร้างแรงบันดาลใจ ผู้นำต้องสามารถช่วยให้คนอื่นพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นผู้นำในอนาคตได้ ถ้าหากใครก็ตามเป็นผู้นำที่มีทั้งฝีมือและการเสียสละ เมื่อนั้นคุณจึงจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของการเป็นผู้นำในระดับที่ 5 ได้
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เริ่มต้นบทนำด้วยการแนะนำว่า “เราสามารถวางแผนการเป็นผู้นำให้กับตัวเองได้” ตามมาด้วยบทถัดมาคือ การประเมินภาวะผู้นำ ด้วยวิธีการที่เราสามารถวัดระดับภาวะผู้นำในปัจจุบันของตนเอง และนำไปเทียบเคียงกับ สิ่งที่หนังสือนี้ได้อธิบายในบทถัดไปว่าผู้นำมี 5 ระดับ โดยเริ่มต้นจากระดับที่ 1 และสูงสุดที่ระดับที่ 5 ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดของภาวะผู้นำ ดังนี้
ระดับที่ 1 Position (It’s a great place to visit, but you wouldn’t want to live there) ผู้นำตามตำแหน่งหน้าที่ ถือเป็นระดับล่างสุด ระดับนี้ยังไม่ใช่ผู้นำที่แท้จริง ยังต้องรอการพิสูจน์จากผลงาน และการยอมรับ ที่สำคัญคือต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า “ตำแหน่งนี้ท่านได้แต่ใดมา ใครนำพามันมาให้ท่านนั่ง ได้ด้วยความทุ่มเทอย่างจริงจัง หรือพลังนอกระบบหนุนส่งมา”
ระดับที่ 2 Permission (You can’t lead people until you like people) ผู้นำโดยการยอมรับ เริ่มต้นง่ายๆด้วยความรักและความเคารพ ให้เกียรติผู้อื่น แล้วคนรอบข้างก็จะรักและให้เกียรติเรา
ระดับที่ 3 Production (Making things happen separates real leaders from wannabes) ผู้นำจากการสร้างผลงาน จนเป็นที่ประจักษ์ทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยยืนยันความสามารถของเรา
ระดับที่ 4 People Development (Helping individual leaders grow extend your influence and impact) ผู้นำที่เป็นนักพัฒนาคน ไม่ใช่เพียงเพื่อมาทดแทน แต่ต้องทำให้ก้าวหน้าและยิ่งใหญ่กว่าเราในอนาคต
ระดับที่ 5 Pinnacle (The highest leadership accomplishment is developing other leaders to level 4) สุดยอดผู้นำ ความสำเร็จสูงสุดของผู้นำ คือการทำให้เกิดผู้นำระดับ 4 เพิ่มขึ้น
สำหรับผู้บริหารที่เป็นผู้นำจะต้องสามารถสื่อสารให้ทุกคนเห็นภาพใหญ่ และเชื่อมโยงภาพย่อยได้อย่างเป็นระบบ เห็นกลไก ความเชื่อมโยง และผลกระทบระหว่างองค์ประกอบต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์สุดท้าย ให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ให้ได้ในที่สุด
สุดท้ายนี้ขอทิ้งบทกลอน ที่อาจช่วยเตือนสติ สร้างความตระหนัก และปลุกจิตสำนึก ให้ได้ตื่นรู้กับสภาพแวดล้อมที่เราต้องเผชิญกันอยู่ในทุกวันนี้
ผลงานอาจ เลอเลิศ เยี่ยมเทียมฟ้า
นามปากกา อาจดังไกล ทั่วทุกหน
เกียรติยศ อาจสูงส่ง กว่าทุกคน
รวยหรือจน อยู่ที่ตน กำหนดเอง
รู้จักหา รู้จักใช้ ไม่มีอด
อย่าได้คด โกงเอา เขาจะหมิ่น
ให้ได้มา ด้วยปัญญา หาทำกิน
ตายแล้วสิ้น ชื่ออยู่ คนชื่นชม
ด้วยรักและเคารพผู้อ่านทุกท่านครับ
สวัสดีครับ




