เอกสารลับจากสโนวเดน : ไทยถูกมะกันดักฟังแน่ ๆ

เอกสารลับจากสโนวเดน : ไทยถูกมะกันดักฟังแน่ ๆ

เรื่องของนายเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน อดีตพนักงานสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) ที่เอาความลับ

การแอบฟังคนทั้งโลกมาเปิดโปงมาเกี่ยวกับประเทศไทยเราจนได้

นี่คือแผนที่ตีพิมพ์โดยนิตยสาร Der Spiegel อันโด่งดังของเยอรมัน อ้างว่า ได้จากนายสโนวเดน ที่ระบุว่าสหรัฐฯได้ใช้สถานทูตของตัวเองในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกดักฟังความเคลื่อนไหวของใครต่อใครโดยไม่บอกกล่าวกัน

เพื่อนดักฟังเพื่อนหน้าตาเฉย, ว่างั้นเถอะ

และหนึ่งในประเทศที่ถูกระบุในเอกสารนี้คือประเทศไทย

จุดต่าง ๆ ที่ปรากฎบนแผนที่คือที่ที่สหรัฐฯ ใช้สถานทูตของตนเป็นฐานปฏิบัติการ ติดตั้งอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ทันสมัยทั้งหลายเพื่อทำจารกรรมด้วยการดักฟังความเคลื่อนไหว ใครติดต่อใคร ใครซุบซิบใครได้หมด

“จุดดักฟัง” ที่ว่านี้มีทั้งหมดกว่า 90 แห่งทั่วโลกรวมถึงที่จาการ์ตา, กัวลาลัมเปอร์, กรุงเทพฯ, พนมเปญ, และย่างกุ้ง

สถานกงสุลสหรัฐฯที่เชียงใหม่ก็ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในจุดที่ตั้งของการดักฟังคนอื่น

ทีมงานหาข่าวทั่วโลกที่ว่านี้เป็นหน่วยงานผสมผสานระหว่าง CIA (Central Intelligence Agency) กับ NSA (National Security Agency) เรียกตัวเองว่า “Special Collection Service” หรือ “หน่วยรวบรวม (ข้อมูล) พิเศษ”

เป็นชื่อกลาง ๆ ลอย ๆ ที่จงใจจะไม่ให้ใครได้ยินแล้วเกิดความสงสัยว่าไปแอบดักฟังใครที่ไหนหรือเปล่า

แต่แท้ที่จริงแล้ว หน่วยงานนี้แหละที่ดำเนินงานปฏิบัติการ “ระวังระไว” (surveillance) อันหมายถึงการตรวจหาข่าวสารที่จะนำไปใช้ในการรุกและสกัดกั้นความพยายามของฝ่ายตรงกันข้ามและพันธมิตรที่อาจจะไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม

แผนที่ลับสุดยอดฉบับนี้แสดงจุดดักฟังของหน่วยปฏิบัติการลับของสหรัฐฯทั้งหมด 90 แห่ง แบ่งเป็น 74 จุดที่มีบุคลากรดูแล และ 14 แห่งที่ควบคุมจากศูนย์ปฏิบัติการ กับอีก 2 จุดที่เป็น “ศูนย์สนับสนุน”

ข่าวชิ้นนี้บอกว่าสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเทพฯมี “ทีมสนับสนุนทางเทคนิค” ด้วย และควบคุมการทำงานของสถานกงสุลที่เชียงใหม่อีกจุดหนึ่ง

เขาบอกด้วยว่าเป้าหมายของการสืบหาข่าวของสถานทูตสหรัฐฯ ในเอเชียคือประเทศจีนโดยผ่านสถานทูตที่ปักกิ่ง และสถานกงสุลที่เซี่ยงไฮ้ และเฉิงตู รวมไปถึงที่ซื่อชวนทางตะวันตกเฉียงใต้

และแน่นอนว่าที่ไต้หวัน สหรัฐฯ ก็มีหน่วยงานดักฟังใครต่อใครเกี่ยว กับความสัมพันธ์ของจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันอีกด้วย

ในเอกสารลับที่นายสโนวเดน นำมาเปิดเผยล่าสุด มีระบบ “X-Keyscore” ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ NSA ใช้ร่วมกับพันธมิตรใกล้ชิดเช่นออสเตรเลียและอีกสามประเทศภายใต้

ข้อตกลง “5-eyes” (FVEY) หรือ “ห้าดวงตา” เพื่อเสาะหาข่าวกรองไปทั่วโลก

เจ้า X-Keyscore นี่แหละที่มีความเก่งกาจสามารถในการเข้าไปค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับทุกคนทุกประเทศไม่ว่าจะผ่านอีเมล, เว็บไซต์, อินเทอร์เน็ต และเครือข่ายสังคมทั้งหลายทั้งปวง

พูดง่าย ๆ คือคุณทิ้งร่องรอยอะไรไว้ในอินเทอร์เน็ต, ระบบจารกรรมนี้สามารถจับได้หมด และวิเคราะห์ลงไปถึงรายละเอียดว่าคุณติดต่อกับใคร คุณคุยกันเรื่องอะไร เมื่อไหร่ และมีความชอบหรือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ

แปลว่าข้อมูลที่สหรัฐฯ และพันธมิตรด้านจารกรรมเจาะหานั้น ไม่ใช่เฉพาะเรื่องความมั่นคงหรือก่อการร้ายเท่านั้น หากแต่เป็นทุกเรื่องที่คุณคาดไม่ถึง

สรุปว่าไม่มีอะไรที่ไหนหรือใครรอดพ้นจากเครือข่ายการดักฟังของสหรัฐฯได้เลยแม้แต่คนเดียว

กระทรวงต่างประเทศไทยจะต้องยกประเด็นนี้ในระดับอาเซียนและบอกให้รัฐบาลสหรัฐฯเปิดเผยกลไกลี้ลับมหัศจรรย์ที่ล่วงล้ำสิทธิส่วนตัวและความมั่นคงของประเทศต่าง ๆ ให้ประชาชนได้ทราบ

หาไม่แล้วจะเรียกเป็นเพื่อนสนิทปากได้อย่างไร?