หลุดรอดจากปัญหา ไม่ใช่อยู่กับปัญหาด้วยวิธีใหม่

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปัญหาเดิมๆ หมุนเวียนมาเป็นปัญหาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนกับหนังเก่าเล่าใหม่
หลายเรื่องที่เราเคยได้ทราบกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กประถมก็ยังวนมาเป็นปัญหาให้ได้ยินได้ฟังกันอีกตอนที่เรียนจบปริญญาไปแล้ว ทั้งๆ ที่ทุกยุคทุกสมัยก็มีการหาหนทางแก้ไขปัญหาซ้ำซากนั้นด้วยสารพัดวิธีที่สร้างสรรค์ขึ้นมาได้ เมื่อใดก็ตามที่เราพบว่า วิธีการใหม่ใช้แก้ปัญหาซ้ำซากนั้นไม่ได้ แก้แล้ว เราไม่หลุดจากปัญหา แสดงว่าวิธีที่เราเลือกใช้กับปัญหานั้น ไม่ใช่วิธีการที่ทำให้เราหลุดจากปัญหานั้นไปได้ วิธีการแก้ปัญหาที่เราเลือกใช้ทำได้เพียงแค่ทำให้เราอยู่กับปัญหานั้นต่อไป เพียงแต่อยู่กับปัญหาเดิมด้วยวิธีใหม่เท่านั้น เหมือนกับยังอยู่ที่เดิม แต่เปลี่ยนจากบ้านเดี่ยวมาเป็นคอนโด ปัญหาโจรชุกชุมก็ยังเป็นปัญหาอยู่ต่อไป ปัญหาไม่หมดไปแม้ว่าเรามีวิธีใหม่แล้วก็ตาม
ถ้าจะคิดอะไรใหม่ขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง เรามักเริ่มต้นด้วยการคิดว่าวันนี้เป็นอย่างไร พรุ่งนี้น่าจะเป็นอย่างไร ถ้าคิดคนเดียวคิดไม่ออก เรามักพึ่งพากลุ่มคนที่เราเห็นว่ารู้จักคุ้นเคยกับเรื่องนั้นมาเป็นอย่างดี ที่เราเรียกกันตามฝรั่งว่าโฟกัสกรุ๊ปมาช่วยคิดกันอยู่เป็นประจำ โฟกัสกรุ๊ปกลายเป็นหนทางพิเศษที่พึ่งพากันอยู่เสมอในวันนี้ นึกอะไรไม่ออกก็ตั้งโฟกัสกรุ๊ปขึ้นมาช่วยคิดก่อน ซึ่งลงท้ายไม่ว่าจะคิดอยู่คนเดียว หรือพึ่งพาโฟกัสกรุ๊ป เรามักได้ของใหม่ที่ใช้ได้กับวงการเก่า ปัญหาที่เคยมีอาจจะทุเลาลงไปบ้าง แต่ยังคงอยู่เป็นปัญหาต่อไป ไม่ได้หายไปไหน เราไม่ได้คิดของใหม่ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่คิดของใหม่ให้มาใช้กับวงการเก่า ใช้กับสภาพปัญหาดั้งเดิมที่เคยมีอยู่ นานๆ สักครั้งที่จะมีความคิดที่คิดได้แล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนเราหลุดพ้นจากปัญหานั้นไปได้อย่างแท้จริง
เราสามารถคิดวิธีแก้ปัญหาที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากปัญหานั้นไปได้จริงๆ โดยมองปัญหานั้นให้เหมือนกับโครงการอีกโครงการหนึ่ง อย่ามองว่าเป็นแค่เรื่องหนึ่งในโครงการเดิม ถ้ามองปัญหาให้เหมือนเป็นโครงการใหม่อีกโครงการหนึ่ง ให้มองให้เห็นรายละเอียดของปัญหานั้นตั้งแต่ต้นทาง เหมือนกับที่เราเห็นอินพุท หรือปัจจัยนำเข้าของโครงการต่างๆ เราจะเห็นผลผลิตที่เกิดขึ้นมาจากปัญหานั้น คล้ายๆ กับที่เราเห็นเอาท์พุทของโครงการนั่นเอง โดยมีการกำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการตามโครงการนั้นให้บรรลุผล คล้ายกับที่เรากำหนดระยะเวลาของโครงการ เราจัดการกับปัญหาในฐานะที่เป็นอีกโครงการหนึ่งได้อย่างมีระบบ มีแบบแผนมากกว่าการจัดการปัญหาในมุมมองว่าปัญหาคืออีกกิจกรรมหนึ่งในโครงการใหญ่โครงการหนึ่ง ถ้ามองปัญหาเป็นโครงการใหม่แยกออกมา เรารู้ตัวได้ว่าโครงการนั้นประสบสำเร็จหรือล้มเหลว หมายความว่าเรารู้ตัวว่าเราได้แก้ปัญหาแล้ว หรือเราทำแค่เปลี่ยนวิธีที่จะอยู่กับปัญหานั้น
เราแก้ปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ด้วยวิธีใหม่ที่หลากหลาย แต่ทุกวันนี้การจราจรในเมืองใหญ่ก็ยังติดขัดอยู่ดี เพียงแต่เคยติดบนถนน ก็กลายเป็นไปติดบนสะพานลอย ติดบนทางยกระดับแทน เราแก้ปัญหาราคาข้าวด้วยวิธีที่หลากหลาย แต่ปัญหาราคาข้าวก็หมุนเวียนกลับมาเยี่ยมเยือนซ้ำแล้วซ้ำอีก ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมก็คล้ายคลึงกันที่แต่ละครั้งก็หาวิธีใหม่ๆ ที่ดูเหมือนจะแพงขึ้นเรื่อยๆ มาใช้จัดการกับปัญหาซ้ำซากเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง แต่ทุกวันนี้เราก็ยังอยู่กับปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งกันอยู่เหมือนแต่ก่อน ดังนั้นถ้าอยากหลุดพ้นจากปัญหาใด ให้มองปัญหานั้นเป็นโครงการ มองให้เป็นระบบ อะไรคืออินพุท อะไรคือกระบวนการที่ทำให้เกิดปัญหา อะไรคือเอาท์พุท อะไรคือผลลัพธ์จากการที่มีปัญหานั้น อย่ามองว่าปัญหาเป็นแค่อีกหนึ่งอุปสรรคในการทำงานเท่านั้น
ปัญหาเก่ากลายเป็นปัญหาซ้ำซากได้จากการที่เราทำงานตามวัฒนธรรมขออนุมัติ จะทำอะไรก็ต้องขออนุมัติกันก่อน คนอนุมัติไม่รอบรู้มากไปกว่าคนขออนุมัติ คำอนุมัติที่ให้ได้จึงเป็นแค่วิธีใหม่สำหรับวงการเก่า วงการนั้นมีปัญหาประจำของวงการเป็นอย่างไร ปัญหานั้นก็จะคงอยู่ต่อไป วิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงต้องเป็นวิธีใหม่ที่นำไปสู่วงการใหม่เท่านั้น ซึ่งจะหาวิธีใหม่ที่นำไปสู่วงการใหม่ได้นั้น ไม่มีใครรับประกันได้ว่าหาวิธีใหม่ได้แล้ว จะหลุดจากปัญหาได้จริงๆ เสมอใหม่ มีผิดมีพลาดได้เสมอ ดังนั้นต้องเปลี่ยนจากทำงานตามวัฒนธรรมขออนุมัติ ไปเป็นวัฒนธรรมให้อภัยในความพยายามที่ผิดพลาดแทน พยายามหาวิธีใหม่ที่จะนำไปสู่วงการใหม่ แต่ได้วิธีที่ใช้แล้วยังติดอยู่กับวงการเดิม ผู้บริหารต้องให้อภัยในความพยายามที่ล้มเหลวนั้น มีวัฒนธรรมให้อภัยในความพยายามที่ผิดพลาดได้เมื่อใด โอกาสที่จะได้วิธีใหม่ที่ได้ผลก็มีมากขึ้นเมื่อนั้น
หนทางหนึ่งเพื่อให้ได้วิธีใหม่ที่ทำให้หลุดจากปัญหานั้นไปได้จริง คือให้สังเกตสิ่งที่คนไม่ทำ สิ่งที่คนไม่พูดไว้มากๆ อย่าหาวิธีใหม่ด้วยการออกแบบสอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนทำ สิ่งที่ผู้คนพูด เพราะจะได้คำตอบที่เป็นวิธีใหม่สำหรับวงการเก่าเท่านั้น ถ้าเฮนรี่ ฟอร์ดทำตามสิ่งที่ลูกค้าในสมัยนั้นทำหรือพูด เราคงได้บริษัทเลี้ยงม้าฝีเท้าดี แทนที่จะเป็นบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่โตเหมือนที่มีอยู่ทุกวันนี้ ขอให้ค้นหาสิ่งที่เป็นความจำเป็น แต่ผู้คนยังไม่ได้ทำหรือยังไม่ได้พูดถึงตอนนี้ แล้วหาทางเสนอวิธีการใหม่ที่ให้คำตอบเรื่องความจำเป็นนี้ได้ ความจำเป็นที่คนยังไม่รู้ตัวกันตอนนี้จะเปลี่ยนไปเป็นความต้องการและการยอมรับวิธีใหม่ที่นำไปสู่วงการใหม่ได้ อินเทล แอปเปิล กูเกิล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากวงการเก่ามาเป็นวงการใหม่อย่างประสบผลสำเร็จเกินคาด บริษัทเหล่านี้รู้ความจำเป็นบางเรื่อง ที่ในวันนั้นผู้คนยังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้พูดถึง แต่ผลิตภัณฑ์ที่คิดขึ้นมาสามารถกระตุ้นให้คนระลึกถึงความจำเป็นนี้ได้ บริษัทเหล่านี้ทำให้วงการเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ได้เพราะสามารถเห็นความจำเป็นที่คนไม่ได้บอกกล่าวออกมาได้







