จากบัญญัติ 8 ประการ เป็นกฎเหล็ก 11 ข้อ

จากบัญญัติ 8 ประการ เป็นกฎเหล็ก 11 ข้อ

ผมเคยเขียนถึง “บัญญัติ 8 ประการ” ของ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เพื่อปราบปรามพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ

ซึ่งผมเห็นว่าน่าจะนำมาใช้ในประเทศไทย เพื่อลดทอนความไม่ชอบมาพากลของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนหนึ่ง

วันก่อน เพื่อนฝูงส่งเนื้อหาเรื่องเดียวกันมา แต่เพิ่มเป็น “กฎเหล็ก 11 ข้อ” ของท่านผู้นำจีน ซึ่งลงลึกในรายละเอียดมากกว่าเดิม และขอให้ผมส่งผ่านไปยังคนไทยให้ทั่วถึง เพื่อจะได้เป็นเครื่องเตือนใจเราว่าสิ่งที่เมืองจีนเขากำลังห้ามนั้น เป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่เป็นประจำในสังคมไทย สมควรที่จะต้องมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน อันเกิดจากความฟุ่มเฟือยและความไร้สำนึกของคนใหญ่คนโตของบ้านเมืองนี้หรือไม่

สอดคล้องกับที่อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ปราศรัยวันก่อนว่า มาตรฐานแห่ง “ธรรมาภิบาล” ในแวดวงราชการของเอกชนไทยดีขึ้น แต่ของหน่วยราชการย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

จึงควรที่ชาวบ้านเจ้าของประเทศอย่างพวกเรา จะต้องเรียกร้องกดดันให้เกิดความสำนึกในเรื่อง “ความประพฤติ” ของคนมีตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ ซึ่งทำให้สามารถทำอะไรที่ไม่ควรทำได้มากมาย โดยไม่เกรงใจผู้เสียภาษีเลยแม้แต่น้อย

นายสี จิ้นผิง เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 และในไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ก็ได้ประกาศนโยบายต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง และปัญหาการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยในหมู่คนตำแหน่งสูงๆ ทั้งหลาย

กฎเหล็ก 11 ข้อ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) เพื่อใช้สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ นายทหารทุกระดับชั้น และภาคธุรกิจเอกชน

1. ห้ามขึ้นป้าย ปูพรมแดง หรือมอบช่อดอกไม้แก่คนในรัฐบาล ข้าราชการ และ นายทหารระดับสูง ไม่ว่าจะในโอกาสใด

2. ห้ามใช้จ่ายเงินหลวงอย่างฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะในระหว่างไปตรวจราชการ ต้องไม่พักโรงแรมหรู

3. ห้ามจัดเลี้ยงด้วยอาหารราคาแพง หรือสั่งอาหารจนล้นโต๊ะ แม้จะปฏิบัติจนเป็นธรรมเนียมก็ตาม

4. ห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกงานเลี้ยง

5. ห้ามคนในรัฐบาล เจ้าหน้าที่ของกรมการเมือง ข้าราชการ และ นายทหารระดับสูงใช้สัญญาณไซเรน เพื่อขอทางสะดวกแก่ตน

6. ให้เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ และ นายทหารระดับสูงทุกคน อบรมสั่งสอนภรรยาและลูก ให้กระทำตนเป็นเยี่ยงอย่างในการรับใช้ราชการ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ห้ามรับสินบนทั้งหน้าบ้าน ในบ้าน และ หลังบ้าน ด้วยเหตุแห่งหน้าที่ของตนเป็นอันขาด

7. ทุกคนที่กินเงินเดือนหลวง ต้องใช้ชุดที่ราชการตัดให้

8. ห้ามเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ และ นายทหารระดับสูง เดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับ 3 ข้อสุดท้ายต่อไปนี้ ใช้กับชนชั้นสูงในศูนย์กลางอำนาจ ได้แก่

9. ให้เวลาหาหลักฐานพิสูจน์ว่ารถหรูราคาแพงกับนาฬิกาแบรนด์ดังที่ใช้อยู่ ท่านได้มาจากไหน? เพราะเหตุใด?

10. บัญชีเงินฝากในต่างประเทศให้เอากลับมาฝากในประเทศ

11. บุตรหลานที่เรียนอยู่ต่างประเทศ ต้องกลับมาเรียนในประเทศให้หมด

สามข้อหลังนี้มุ่งไปที่คนมีตำแหน่งสูงจริงๆ ที่ปกติกลไกรัฐจะล้วงไปไม่ถึง จึงต้องมีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม และตัวผู้นำเองจะต้องลงมาทำให้เกิดขึ้นทางปฏิบัติ เพราะจะเกิดคำถามว่า “หนูตัวไหนจะเอากระดิ่งไปแขวนคอแมว?”

นายสี จิ้นผิง จึงต้องทำให้เห็นเป็นตัวอย่างเสียก่อน และให้แน่ใจว่ากรรมการของกรมการเมืองทั้ง 7 คน ที่มีอำนาจสูงสุดของพรรค จะต้องทำให้เห็นว่าการปฏิบัติตามกฎเหล็กทั้ง 11 ข้อ โดยเฉพาะสามข้อหลังนั้น ต้องไม่มีข้อยกเว้น

คุณว่า...เมืองไทยจะกล้าเริ่มต้นทำสักหนึ่งข้อ ภายใน 10 ปีข้างหน้าไหม?