กลยุทธ์แบบ Ecosystem กับความพยายามของ Apple

กลยุทธ์แบบ Ecosystem กับความพยายามของ Apple

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวดังในวงการไอทีข่าวหนึ่งคือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ Apple จากงาน WWDC 2013

ซึ่งในงานดังกล่าวบรรดาผู้บริหารของ Apple ต่างทยอยกันออกมาแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตนเอง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจว่า Apple ออกผลิตภัณฑ์อะไรบ้างก็ลองติดตามจากบรรดาเว็บเพจต่างๆ นะครับ แต่ผมอยากจะขอลองมองและวิเคราะห์ในมุมของกลยุทธ์ดูครับว่า Apple กำลังพยายามทำอะไรอยู่

ท่านผู้อ่านคงทราบแล้วว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา Apple ได้เริ่มสูญเสียมนตร์ขลังของความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สู่มือผู้ใช้ นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ Steve Jobs ผู้ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์รวมความเชื่อของบรรดาสาวก Apple ประกอบกับคู่แข่งขันของ Apple ที่เริ่มมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ไม่ว่าการเติบโตของ Samsung ในตลาดมือถือแบบ Smart Phone หรือ การเติบโตของระบบปฏิบัติการ Android ที่ว่ากันว่ากินส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่กว่า iOS หรือ ความพยายามของ Nokia, Blackberry ในการพลิกฟื้นสถานการณ์มือถือของตนเอง หรือ ยักษ์อย่าง Microsoft ที่ตื่นจากการหลับใหลและเริ่มรุกอย่างจริงจังในทุกๆ ด้าน

ในงาน WWDC ที่ผ่านมา Apple จึงมีความพยายามอีกครั้งในรูปแบบเดิมเพื่อทั้งรักษาลูกค้าเดิมไว้ และพยายามดึงลูกค้าทั่วไปให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple มากขึ้น โดยการเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของตนเอง

Ecosystem คือความพยายามในการเชื่อมโยงและบูรณาการผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อลูกค้าใช้สินค้าหรือบริการของบริษัท ก็จะเข้ามาอยู่ใน Ecosystem ของบริษัท และถ้าบริษัทมีผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ ลูกค้าดังกล่าวก็จะเกิดความสะดวกสบายจากการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทเนื่องจากความเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทดังกล่าว

ตัวอย่างที่ชัดเจนสุดของการใช้กลยุทธ์แบบ Ecosystem คือ Apple ที่บริษัทได้เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน จนทำให้ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple นั้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งก็จะมีแนวโน้มที่จะใช้ผลิตภัณฑ์อื่นของ Apple ด้วยเนื่องจากความเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท

จากงาน WWDC 2013 ที่ผ่านมาจะเห็นถึงความพยายามของ Apple อีกครั้งในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem ของตนเอง ทั้งในตัวผลิตภัณฑ์ ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ บริการต่างๆ รวมถึงร้านค้าของบริษัท ความชัดเจนประการหนึ่งจากกลยุทธ์ของ Apple คือการดึงลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่ประการของ Apple ให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์อื่นมากขึ้น เช่น ลูกค้า ที่ใช้ iPhone หรือ iPad แต่อาจจะใช้คอมพิวเตอร์ PC ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows

โจทย์สำคัญของ Apple คือทำอย่างไรถึงจะสามารถดึงลูกค้าที่ใช้เพียงแค่ iPhone หรือ iPad ให้หันมาใช้คอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการของ Mac มากขึ้น ดังนั้นในงาน WWDC ในครั้งนี้จึงเห็นความเชื่อมโยงที่ชัดเจนมากขึ้นระหว่างระบบปฏิบัติการทั้ง iOS ที่ใช้อยู่บน iPhone กับ iPad กับ OS X Mavericks ที่ใช้บนคอมพิวเตอร์ต่างๆ ของ Apple

จากผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่เปิดตัวใน WWDC ในครั้งนี้ ทำให้ผู้ใช้ทั้ง iPhone, iPad, คอมพิวเตอร์ Mac จะได้รับความสะดวกสบายจากการเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นปฏิทิน ตารางนัดหมาย แผนที่ รหัสผ่านต่างๆ เว็บที่เปิดค้างไว้ ระบบเตือนความจำ หนังสือ (iBooks) ฯลฯ ซึ่งสิ่งต่างๆ ข้างต้นจะถูก Sync และเชื่อมโยงผ่านทาง iCloud ทำให้ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ในทุกรูปแบบสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกันได้หมด

วันนี้ไม่ได้มาโฆษณาผลิตภัณฑ์ของ Apple นะครับ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าการสร้าง Ecosystem ที่เมื่อลูกค้าเข้ามาแล้ว ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และออกลำบาก เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่น่าสนใจ และเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ Apple พยายามจะใช้เพื่อรักษาลูกค้าเดิม ดึงลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายต่อลูกค้า ที่สำคัญคือเมื่อใช้กลยุทธ์นี้แล้ว จะทำให้เกิดความแตกต่างจากบริษัทอื่น ที่ไม่ได้มี Ecosystem ที่ครบวงจรเช่นนี้ และเป็นความได้เปรียบที่ยากจะลอกเลียนแบบได้ หรือ ต่อให้ลอกเลียนแบบได้ก็จะช้ากว่าและกลายเป็นผู้ตาม อย่างไรก็ดีต้องอย่าลืมว่าการตัดสินใจนั้นสุดท้ายอยู่ที่ตัวลูกค้าเองครับ

ถ้าท่านผู้อ่านอยากจะเรียนรู้ถึงกลยุทธ์และแนวทางการบริหารรูปแบบใหม่ๆ นี้ ทางคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กำลังเปิดหลักสูตร MMP (Modern Managers Program) รุ่นที่ 61 ครับ สำหรับผู้บริหารที่ต้องการทั้งความรู้พื้นฐานที่สำคัญ และความรู้ ทักษะที่สำคัญและจำเป็นสำหรับอนาคต สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-218-5701-2 ครับ