"คุณชาย" ในสองระบอบ

"คุณชาย" ในสองระบอบ

สองทุ่มเศษคืนวันศุกร์ เชื่อว่าคนค่อนประเทศ ต้องจับจ้องไปที่ช่อง 3 เพราะละครชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ

ตอน "คุณชายพุฒิภัทร" จะถึงคราอวสาน และต่อด้วย "คุณชายรัชชานนท์"

เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว "คุณชายพุฒิภัทร" กระชากเรทติ้งคว่ำวีดิโอลิงค์ "คนแดนไกล" มาแล้ว และศุกร์นี้ก็คงเรทติ้งสูงอีกเช่นเคย

สีสันของละครคุณชายพุฒิภัทร อยู่ที่เวทีประกวดนางงามศรีสยาม ที่มีนางงามอยุธยาชื่อ กรองแก้ว บุญมี เข้าประกวด และเกิดต้องตาต้องใจ "นายพลพินิจ" จึงอยากได้มาเป็น "อนุภรรยา"

บังเอิญว่าพฤติกรรมสะสม "ดารานางงาม" ของ "นายพลพินิจ" นั้นละม้ายคล้าย "จอมพลคนดัง" เจ้าของวลีเด็ด "ข้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"

จำได้ว่าสมัยโน้น ท่านจอมพลเปิด "วิมานสีชมพู" อยู่หลังกองพลทหารราบที่ 1 โดยทุกวันจะมี "แม่เล้า" นำนางงาม ดารา นักร้องไปเสนอให้ท่านจอมพลเป่ากระหม่อมไม่เว้นแต่ละวัน

หลังจากท่านจอมพลเสียชีวิต นสพ.เกียรติศักดิ์รายวัน เผยว่า มีสาวๆ ที่ได้รับการดูแลจ่ายเงินรายเดือน จำนวน 81 คน แต่ในหนังสือ "หนูๆ ของจอมพล" เปิดบัญชีเงินเดือนหนูๆ ที่จอมพลจ่ายให้ จำนวน 64 คน

เรื่องของ "นายพลพินิจ" จึงถูกขยายความในโซเชียลมีเดียของฝ่ายปกป้องประชาธิปไตย โดยชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของ "ระบอบเผด็จการทหาร" ที่ตรวจสอบไม่ได้

ส่วน "คุณชายรัชชานนท์" ที่จะแพร่ภาพต่อจาก "คุณชายพุฒิภัทร" นี่ก็คาดหมายว่าจะมีการถกเถียงในโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นเรื่องราวการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในประเทศสมมติที่ชื่อ "เวียงพูคำ" ซึ่งอยู่ใกล้กับจังหวัดหนองคาย

"The kingdom of เวียงพูคำ" หมายถึงแผ่นดินที่ปกครองโดยพระราชาที่มีเมตตาธรรม แต่ "นายพลเซกอง" ได้ฉวยโอกาสทำรัฐประหารโค่นล้ม "เจ้าหลวงสุริยวงศ์" สถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้นำประเทศคนใหม่

เชื้อพระวงศ์แห่งเวียงพูคำ จึงหลบหนีมาอยู่ที่ "หมู่บ้านวลาหก" อาศัยมนตราจากแม่เฒ่า สร้างหมอกคุ้มภัย และพระเอกของเราก็มาพบเจ้าหญิงสร้อยฟ้าที่หมู่บ้านแห่งนี้

ระหว่างที่เจ้าหลวงสุริยวงศ์ลี้ภัยอยู่ในหมู่บ้าน ชาวเวียงพูคำ เริ่มทนต่อการกดขี่ปราบปรามของ นายพลเซกอง จอมเผด็จการไม่ไหว ก่อการลุกฮือประท้วงเป็นระยะ ดั่งคำพูดตอนหนึ่งของนางเอก

"ถ้าแผ่นดินของเฮาบ่มีเจ้าหลวงสุริยวงศ์ ชาวเวียงพูคำกะบ่มีวันได้มีชีวิตที่สงบสุขดอก มีแต่ข่าวก่อจลาจลทุกวัน ผู้คนอดอยากล้มตายไปเท่าใด๋ คนดีๆ บ่มีที่ยืน แต่คนเลวทรามกลับได้ดี เป็นจังซี้บ้านเฮือนเฮาถึงได้ล่มจม"

ต่อมา มีการประท้วงครั้งใหญ่ของราชอาณาจักรเวียงพูคำ ชาวบ้านเรียกร้องให้นำ "ระบอบเจ้าหลวง" คืนกลับมา และคุณชายทั้งสี่ของสายจุฑาเทพ ก็เข้าไปช่วยนางเอกกอบกู้บ้านเมือง จนโค่นนายพลเซกองลงจากอำนาจได้

ละครเรื่องคุณชายรัชชานนท์ ให้ความสำคัญกับ "ระบอบราชาธิปไตย" ซึ่งคนบางกลุ่มอาจมองว่า เป็นเรื่องล้าหลัง และไม่สอดคล้องกับยุคสมัย

ทั้งสองเรื่องที่ยกมานี้คือละคร คือมายา แต่ว่าผู้คนในโซเชียลมีเดีย ที่แบ่งออกเป็นสองขั้วความคิด ก็ไม่วายที่จะนำมาเปรียบกับ "เรื่องจริง"

โดยเฉพาะละครคุณชายรัชชานนท์ ที่จะเริ่มออนแอร์ แต่ก่อนหน้านั้น ก็มีผู้คนนำคำพูดของตัวละครมาโพสต์ไว้หน้าเพจ แถมแสดงความกังวลว่า ละครตอนนี้จะถูก "เซ็นเซอร์" เหมือนละคร "เหนือเมฆ 2"

"นายพลเซกอง" เป็นภาพตัวแทนของนักการเมืองชั่วช้าโกงกิน ที่อยู่ตรงกันข้าม "ระบอบเจ้าหลวง" และ "ลัทธิคนดี" แบบคุณชายสายจุฑาเทพ

"พวกเผด็จการก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น แก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ ก็ปล่อยข่าวหลอกประชาชนไปวันๆ" คำพูดของตัวละครคนหนึ่ง โดนใจคนดูปีกไม่เอานักเลือกตั้งเต็มๆ เพราะคำว่า เผด็จการในความคิดของพวกเขาคือ เผด็จการทุนสามานย์ ต่างจากเผด็จการในความหมายของคนอีกขั้วหนึ่ง

สรุปว่าดูหนังดูละคร แล้วย้อนมาดูเรื่องการเมืองไทย ก็จะยังไม่ก้าวไปสู่หนไหนอีกนาน