สันติภาพ2ประเทศ ทางออกเขาพระวิหาร

สันติภาพ2ประเทศ ทางออกเขาพระวิหาร

เสียงเชียร์ ไม่ต้องการเสียดินแดนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื่นๆเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ทีมตัวแทนไทย

ชี้แจงศาลโลกคดีพระวิหาร ที่กรุงเฮก เมื่อวันที่ 15 - 19 เม.ย. ที่ศาลโลก

คำกล่าวทำนองทวงคืนปราสาทพระวิหารดูจะดังมากในกรุงเทพมหานครและโลกโซเซียลมีเดียจนกลายกระแสคลั่งชาติ หลายเสียงกระหายสงครามหากศาลโลกตัดสินให้ฝ่ายกัมพูชาสามารถยึดครองดินแดนรอบปราสาททีพิพาทอยู่ได้

ขณะที่เสียงเล็กๆของชาวบ้านชายแดนที่วิ่งหนีระเบิดเสียงจริงตัวจริงกลับเรียกร้องหาสันติภาพ หญิงชรารายหนึ่งจากหมู่บ้านภูมิซรอลบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ว่าศาลโลกจะตัดสินยังไง ปราสาทพระวิหารก็ตั้งอยู่ที่เดิม ชาวบ้านแถวนี้ก็ไปมาหาสู่กันเป็นญาติมิตรกัน ไม่อยากให้เกิดสู้รบกัน

เช่นเดียวกับ ชาวบ้านตามแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เฝ้าติดตามชมถ่ายทอดฝ่ายไทยแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกคดีพิพาทปราสาทพระวิหารบอกว่า ไม่อยากให้ศาลโลกตัดสินชี้ขาดแพ้ชนะหวั่นเกิดสงครามและนำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อหลังเคยทิ้งบ้านอพยพหนีกระสุนปืนจากเหตุสู้รบ เมื่อปี 54 มาแล้ว

ชาวบ้านบ้านสายโท 5 ใต้ ม.3 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอีกหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่อยากให้ศาลโลกตัดสินชี้ขาดให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแพ้หรือชนะ เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดภาวะสงครามระหว่างประเทศ จนนำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อทั้งของเจ้าหน้าที่และของประชาชนได้

ที่ผ่านมาชาวบ้านในหมู่บ้านกว่า 170 หลังคาเรือน ก็เคยทิ้งบ้านอพยพหนีลูกกระสุนไปอยู่ศูนย์พักพิงที่ทางอำเภอจัดเตรียมไว้ให้ เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชา เมื่อเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดผวาว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันซ้ำรอยขึ้นอีก

นอกจากนี้ยังมองว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเสมือนเป็นบ้านพี่เมืองน้อง จึงอยากให้ตกลงเจรจาหาทางออกร่วมกันโดยสันติ ไม่ควรให้ศาลโลกเข้ามาตัดสินชี้ขาด เพราะคงไม่มีฝ่ายใดยอมอย่างแน่นอน

ความเห็นของผู้ใหญ่บ้านอย่างประสงค์ อยู่ระมัด ผู้ใหญ่บ้านบ้านสายโท 5 ใต้ บอกเช่นเดียวกับลูกบ้านว่า ไม่เห็นด้วยที่ศาลโลกจะเข้ามาตัดสินคดีพิพาทปราสาทพระหารระหว่างไทยและกัมพูชา เพราะถือเป็นปัญหาเขตแดนระหว่างสองประเทศ น่าจะตกลงเจรจากันได้

ขณะที่คนเมืองจำนวนมากกกระหายสงคราม แต่สันติภาพคือสิ่งชาวบ้านตามแนวชายแดนถวิลหาเพราะเส้นแบ่งเขตแดนตามแนวแผนที่ไม่สามารถขวางกันความเป็นพี่น้องกันที่มีมายาวนานได้ แม้การชี้แจงกับศาลโลกเป็นเรื่องที่รัฐไทยพึ่งต้องต่อสู้ แต่ที่สุดแล้วคำตอบคงไม่จบที่การตัดสินของศาลเพราะแนวทางการเจรจาของสองประเทศเพื่อแสวงหาสันติร่วมกันต่างหากคือคำตอบที่ยังยืนมากกว่า ความเป็นเจ้าของดินแดน