ผมขึ้นเหนือไปเชียงราย

ผมขึ้นเหนือไปเชียงราย

มีโอกาสได้พบกับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย สลักจฤฎดิ์ (สลักจิต) ติยะไพรัช

ซึ่งเพิ่งจะบริหารเมืองเชียงรายไปได้ 1 ปี และจากนี้ไปในวาระที่เหลือท่านนายกฯเชียงราย ได้วาด "โมเดล" เมืองเชียงรายในห้วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 3 ปี ทั้งด้านเกษตรกรรม ด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ AEC โดยเฉพาะเชียงราย เป็นมืองหน้าด่านที่ค้าขายกับลาว และพม่า ผ่านขึ้นไปถึงจีนแผ่นดินไหญ่

>>> นายกฯ สลักจฤฎดิ์ บอกว่า "เขตเศรษฐกิจพิเศษ" คือความจำเป็นเพราะเมื่อเชียงราย เป็นเมืองหน้าด่าน เราต้องสานสัมพันธ์ กับพม่า ลาว เพื่อเชื่อมประเทศจีนตอนใต้ จึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยอบจ.เชียงราย เตรียมความพร้อม กระตุ้นให้นักลงทุน ได้มาเห็นความสำคัญในการเข้ามาลงทุนในเชียงราย โดยเฉพาะการค้าชายแดนจาก อ.แม่สาย อ.เชียงแสน มาที่อ.เชียงของ ขณะนี้ได้บูรณาการกับจังหวัด เพื่อส่งเสริมสินค้าภาคเกษตรกรรม ด้านการท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวมาดูว่า เรามีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และมีสิ่งที่น่าลงทุนมากกมาย

>>> นายกฯ สลักจฤฎดิ์ ย้ำว่า ที่สำคัญคือเส้นทางขนส่ง ขนถ่ายสินค้า ได้ให้ความสำคัญมาก พยายามที่จะให้เส้นทางจากอ.แม่สาย ไปอ.เชียงแสน และมาสิ้นสุดที่อ.เชียงของ ที่จุดนี้จะเชื่อมกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ (อ.เชียงของ) ข้ามไปประเทศลาว และจากสะพานข้ามแม่น้ำโขง จะย้อนกลับมาสู่ในเมืองเชียงราย เพื่อเชื่อมโยงไปจังหวัดอื่น

>>> เชียงราย ในมิติการบริหารของ นายกฯ สลักจฤฎดิ์ มองว่า สามารถขนถ่ายสินค้าได้ง่าย โดย อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ ต่างมีจุดเด่นแตกต่างกัน เชียงแสน มีท่าเรือขนส่งสินค้าทางน้ำแห่งใหม่เป็นท่าเรือแห่งที่สอง สามารถขนถ่ายลงเรือล่องแม่น้ำโขงได้สะดวก ส่วนอ.เชียงของ จะมีสะพานมิตรภาพ เชื่อมต่อไปสาวที่บ้านห้วยทราย จากนั้นเชื่อมต่อถนน R3A ซึ่งอยู่ติดชายแดนจีนตอนใต้ ได้สะดวก

>>> สำหรับความพร้อมสำหรับสะพานแห่งใหม่ นั้น จะแล้วเสร็จเดือนมิ.ย.นี้ และประมาณก.ค.จะเปิดอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งถ้าสะพานเสร็จ ที่เราจะได้เปรียบดุลการค้าจีนอยู่แล้ว เราจะได้เปรียบดุลการค้าอีกเท่าตัว

>>> ส่วน "บ้านพี่เมืองน้อง" นายกฯ สลักจฤฎดิ์ บอกว่า เริ่มจากแนวคิดดึงจีนมาลงทุน แต่หากว่าเราจะเชิญเขามาโดยที่เราไม่ทราบทิศทางเขา เราไม่แน่ใจว่าเขาจะมาเที่ยว หรือมาลงทุนมากน้อยเท่าไหร่ ดังนั้น หากประสานสัมพันธ์เป็นบ้านพี่ เมืองน้อง ก็เชื่อมั่นว่าสิ่งที่เกื้อกูลกันทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว จะเป็นเหมือนครอบครัวพี่น้องกัน ยังไงก็ต้องช่วยกันแบบพี่น้อง

>>> ความคืบหน้าล่าสุดนั้น นายกฯ สลักจฤฎดิ์ บอกว่า ได้คุยกับผู้แทนมูลนิธิเพื่อการสันติภาพและพัฒนาประเทศจีน ว่าจะทำอย่างไรให้จีนมีความสัมพันธ์ ช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว เพราะอยากให้เกิดเป็นรูปธรรมจริงๆ เมื่อมาพูดกันเขารับข้อเสนอเราไป และเมือต้นเดือนก.พ.จีนเข้ามาคุย อีก 2 สัปดาห์ต่อมา จีนตอบมาว่าเขาประสานบ้านพี่เมืองน้องแล้ว ได้เมืองเหว่ยฟา มณฑลซานตง จะขอคำตอบจากไทยว่าเราจะประสานจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อไปเยี่ยมไปสร้างความสัมพันธ์ เมื่อไหร่

>>> ด้านมิติความมั่นคง พ.ต.อ.มานพ เสนามูล ผู้กำกับการตำรวจอ.เชียงแสน บอกว่า ความสัมพันธ์ไทยจีนหลังจากคดีปล้นฆ่าลูกเรือจีน ที่ไทยจับ "นายหน่อคำ" ได้ ส่งให้จีนและมีการตัดสินคดีแล้ว ขณะนี้มีคณะกรรมการประสานงานกันด้วยดีไม่มีปัญหาแล้ว