"กรุงเทพฯได้ผู้ว่าใหม่ นโยบายสดใส ทำได้จริงหรือ"

ขอแสดงความยินดีกับชาวกรุงเทพฯ ที่ได้ผู้ว่าคนใหม่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จากการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม (Free and Fair Election)ในระบอบประชาธิปไตย คะแนนเสียงท่วมท้นถึง 51.85% หรือ 1,386,215 คะแนน
และขอแสดงความยินดีกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครทุกท่าน รวมทั้งผู้สมัครเข้าแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคน ที่ถึงแม้จะไม่ได้รับตำแหน่ง แต่เป็นการแสดงถึงความกระตือรือร้น มีส่วนร่วมเสนอตัวเข้าทำงานเพื่อสังคม
ขอบคุณอดีตผู้ว่าฯอัศวินและทีมงาน ซึ่งทำหน้าที่สุดความสามารถมาโดยตลอด เป็นที่รักใคร่เคารพของข้าราชการประจำและลูกจ้างกทม. นับจนวันสุดท้ายของตำแหน่ง
นโยบายของผู้ว่าชัชชาติ ชัดเจน อ่านง่ายกระชับ เหมือนคำขวัญ
"กรุงเทพส่องสว่าง Brightly-lit Bangkok
จัดทีมนักสืบฝุ่นศึกษาต้นตอ พีเอ็ม 2.5 Setting up a team of 'dust detective" probing the cause of PM2.5
กรุงเทพฯเดินได้ พัฒนาทางเท้าเดินเท้าฯคุณภาพ 1,000 กม. Walkable Bangkok: improving quality of 1000 KM of pavement
สภาเมืองคนรุ่นใหม่ New Generation Council
ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่น ทั่วกรุง
Planting 1 million trees, creating a green wall to filter dust across the city"
นี่เป็นตัวอย่างเพียง 5ข้อ จาก 214 อยากเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านเข้าไปที่ลิ้งค์ของนโยบาย https://www.chadchart.com/policy/ จะเห็นได้ว่าครอบคลุมประเด็นสำคัญเร่งด่วนตรงใจชาวกรุงเทพมาก
การใช้ภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วยนั้น แสดงถึงวิสัยทัศน์ของความเป็นนานาชาติของท่านผู้ว่าฯ เพราะภาษาอังกฤษคือภาษาอินเตอร์เน็ต กรุงเทพฯเป็นเมืองที่ต้อนรับชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และหลายคนมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพเป็นเวลานาน
นโยบายที่เขียนกระชับเหมือนคำขวัญนั้น ผิวเผินอาจดูง่าย แต่การทำสิ่งยากให้เข้าใจง่าย เป็นศิลปะที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของท่านผู้ว่าฯและทีมงาน ในการใช้เทคโนโลยีสื่อสารและจิตวิทยามวลชน
การออกนโยบายสำหรับมหานครที่มีประชากรมากอยู่หนาแน่น และกำลังเปลี่ยนแปลงเผชิญหน้ากับความกดดันทางเศรษฐกิจสังคม ภูมิศาสตร์การเมือง และสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความรู้ประสบการณ์และคุณสมบัติอย่างมาก
เสียงที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง จนถึงปัจจุบัน และการจ้องมองจับตาดูว่า นโยบายยาวเหยียด พูดสวยหรูแต่จะทำได้จริงหรือ เป็นการแสดงออกปกติของระบอบประชาธิปไตย นักการเมืองส่วนใหญ่จะต้องเตรียมพร้อมรับความนิยมซึ่งเสื่อมถอยลง หลังจากช่วงฮันนีมูนผ่านไปประมาณ 100 วัน (แม้ทีมนี้บอกว่าไม่มีฮันนีมูน เพราะเริ่มทำงานตั้งแต่วันแรก)
ผู้นำการเมืองที่มีประชามติคะแนนเสียงชัดเจนขนาดนี้ ถือว่าเป็นเป็นนิมิตหมายอันดีครับ ประชาชนทุกคนจะต้องร่วมใจกัน แสดงน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สุดความสามารถส่วนบุคคลที่ทำได้ ถึงแม้ผู้ชนะการเลือกตั้งจะไม่ใช่คนที่เราเลือก แต่บ้านเมืองจะสงบสุขน่าอยู่ปลอดภัย สะดวกสบายและสร้างสรรค์ต่อเนื่อง ก็ขึ้นอยู่กับเราทุกคน
ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่มีคุณค่าซึ่งอาจโดนมองข้ามไป หลายประเทศไม่มีโอกาสในการเลือกตั้ง บางประเทศแม้มีการเลือกตั้งแล้วก็ยังมีความวุ่นวาย มีการคดโกงซื้อเสียง เล่นพรรคเล่นพวก ยึดอำนาจบ่อนทำลายซึ่งกันและกัน
ชาวกรุงเทพฯได้แสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงความพร้อมในการเป็นเมืองหลักของภูมิภาค การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่จับตามองจากหลายมุมโลก เพราะสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศในปัจจุบัน อยู่ในจุดล่อแหลม และทุกอย่างทุกมุมโลกโยงใยต่อเนื่องกัน
การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยของกรุงเทพครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจน และเป็นการสร้างเครดิตให้นานาชาติเห็นถึงความพร้อม และโอกาสเป็นไปได้ของการเลือกตั้งระดับชาติของไทย
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแหล่งยุทธศาสตร์สำคัญ ที่มหาอำนาจกำลังแข่งขันสร้างอิทธิพลโน้มน้าวให้เลือกเข้าข้างฝ่ายตน นับวันความตึงเครียดเพิ่มขึ้นทับถมจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มตะวันตกนำโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อชะลอการเพิ่มอำนาจและอิทธิพลของจีน รวมทั้งนโยบายของรัสเซีย และอุณหภูมิการเมืองเข้าขั้นอันตราย จากโรคระบาดโควิด เศรษฐกิจซึ่งหยุดชะงัก ตามมาด้วยเงินเฟ้อ สินค้าแพง สงคราม การขาดแคลนพลังงานและอาหารเป็นต้น
ขอย้ำและเรียกร้องให้ทุกท่านช่วยกันรักษาความเป็นกลางของประเทศไทย เหตุผลของมหาอำนาจทั้งหลายนั้นเป็นผลประโยชน์ของเขา และเป็นวิสัยทัศน์ซึ่งมาจากข้อมูลซึ่งลำเอียงเข้าข้างฝ่ายตนเอง ไทยไม่จำเป็นจะต้องเลือกเอาฝ่ายเดียวในเรื่องการเมืองเศรษฐกิจ การทหาร เทคโนโลยีและเรื่องอื่นๆ บรรพบุรุษของเราได้แสดงผลงาน ในการถนอมน้ำใจ ยอมเสียสละประนีประนอม เพื่อสันติสุขมาโดยตลอด
กรุงเทพคือศูนย์กลางเศรษฐกิจและสังคมของไทย และไทยเองเป็นประเทศที่มีสมรภูมิสำคัญ ที่ตั้งของประเทศไทยเป็นความโชคดีอย่างมหาศาลเพราะภายในรัศมีการบิน 6 ชั่วโมง สามารถจะครอบคลุมประชากรโลกใต้เกือบสองในสาม (ทวีปเอเชียมีประชากร 47,000ล้านคน หรือกว่า 60% ของประชากรโลก เฉพาะแค่จีนและอินเดียรวมกันแล้วก็เกินกว่า 28,000ล้านคน ประชากรชาวเอเชียประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 52,600ล้านคนภายในปีค.ศ. 2050)
นิมิตหมายจากการเลือกตั้งครั้งนี้ดีเยี่ยมแล้วครับ ใช้โมเมนตัมนี้เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติ แสดงให้โลกเห็นถึงการพัฒนาของเราชาวไทยในหน้าที่พลเมือง ใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งโดยวิจารณญาณและมองถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลักครับ