บทบาท ‘เอไอ’ ต่อความก้าวล้ำ อุตสาหกรรม ‘ยานยนต์’

บทบาท ‘เอไอ’ ต่อความก้าวล้ำ  อุตสาหกรรม ‘ยานยนต์’

ทุกวันนี้มีการนำเอไอมาใช้พัฒนาพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

หากพูดถึงนวัตกรรมรถยนต์แบบไร้คนขับในยุค 5-10 ปีที่แล้ว เราอาจจะจินตนาการไม่ออกคิดว่ามีแค่ในภาพยนตร์ไซไฟ แต่ในวันนี้จะพบว่ามันไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป

เมื่อมีการนำเอไอมาใช้พัฒนาพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้น ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ได้มีการพัฒนานำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งด้านการออกแบบ การผลิต การวางแผน รวมถึงการขายและบริการ 

โดยจุดเริ่มต้นเกินขึ้นมานานก่อนที่เราจะได้เห็นรถไร้คนขับของจริงในวันนี้เสียอีก ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากขั้นตอนการผลิตประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ก็มีการนำหุ่นยนต์มาใช้เพื่อให้ได้คุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไปเฉลี่ยแล้วใช้ชิ้นส่วนในการผลิตกว่า 30,000 ชิ้น จึงต้องอาศัยความแม่นยำในทุกขั้นตอน รวมทั้งความรวดเร็วในการผลิตให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 

นอกจากนี้ การตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด มีการใช้ Computer Vision ในขั้นตอนการพ่นสี ทดสอบความทนทานของเครื่องยนต์ ทดสอบมาตรฐานการเก็บเสียงในห้องโดยสาร เพื่อคงมาตรฐานการผลิตและลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล

ด้านขั้นตอนการขาย แบรนด์รถหรูมักใช้เอไอให้บริการแก่ลูกค้าสร้างรถยนต์ในฝัน ปรับแต่ง เลือกสเป็คเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และเลือกวัสดุตัวเครื่องทั้งภายในและภายนอก โดยอาศัยข้อมูลกว่า 10 ล้านรายการให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพิ่มยอดขายจากความภักดีต่อแบรนด์ และเพิ่มการบอกต่อได้อย่างดีเยี่ยม 

ส่วนประเด็นด้านความปลอดภัยในการขับขี่ เอไอและซอฟท์แวร์ต่างๆ มีบทบาทสำคัญอย่างมาก เห็นได้จากการพัฒนาระบบแจ้งเตือนจุดบอด ระบบเบรคอัตโนมัติ บังคับล้อและพวงมาลัยให้อยู่ในเลนกรณีคนขับหลับใน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนรถแซงระยะใกล้ รวมทั้งปรับระบบขับเคลื่อนในกรณีถนนลื่นเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ 

โดยเฉพาะสถานการณ์คับขัน การตัดสินใจของคนขับอาจจะไม่มีประสิทธิภาพ 100% จึงดีกว่าถ้าให้เอไอเป็นตัวช่วย ซึ่งช่วยลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและปกป้องชีวิตของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้ปลอดภัย เช่น เทสล่าติดตั้งกล้องนอกตัวรถ ระบบเซ็นเซอร์ เรดาร์ เพื่อมอนิเตอร์ความเหนื่อยล้าของคนขับ 

ประเมินจากดวงตา ท่าทาง และหากประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงที่คนขับจะหลับใน รถจะปรับไปเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วรถให้สอดคล้องกับการจราจรโดยรอบและคุมรถให้อยู่ในเลน ส่วนเรื่องความสะดวกสบายระหว่างขับขี่ รถยนต์ BMW 3 Series พัฒนาระบบผู้ช่วยส่วนตัวสั่งงานด้วยเสียงที่แม่นยำและอัจฉริยะ 

เช่น คำสั่งปรับแสงและอุณหภูมิรถในห้องโดยสาร เลือกเพลงที่ตรงกับความชอบ ในอนาคต ระบบเหล่านี้จะไม่จำกัดอยู่แค่กลุ่มรถบางค่าย แต่จะแพร่หลายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากยิ่งขึ้น

ทั้งยังได้เห็นการใช้เอไอกับบริการหลังการขาย โดยแจ้งเตือนให้นำรถเข้าเช็คสภาพ เปลี่ยนอะไหล่ และคาดการณ์ปัญหาสภาพรถที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนปัญหานั้นเกิดขึ้นจริงเสียอีก โดยประเมินจากการใช้งานเป็นรายบุคคล ซึ่งเป็นการยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ 

ด้านการซื้อประกัน บางบริษัทใช้เอไอประเมินความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัย โดยศึกษาจากพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละบุคคล ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ขับขี่ในการแชร์ข้อมูลก่อน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ขับขี่และบริษัทประกัน

กลุ่มผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์คาดการณ์ว่า จะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาระบบคนขับอัตโนมัติและผู้ช่วยคนขับอย่างเข้าถึงได้ง่ายและแพร่หลาย มีหลายค่ายพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งแบตเตอรี่เพื่อลดปัญหามลพิษ รวมทั้งใช้ซอฟท์แวร์และการวิเคราะห์ข้อมูลในการวางแผนกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดมากขึ้น 

ผมเชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ เราจะเห็นความล้ำสมัยเกิดขึ้นแล้วกับรถบางค่าย แต่ต่อไปจะเริ่มมีความแพร่หลายเกิดขึ้นกับรถยนต์แทบทุกรุ่น ซึ่งก็นับว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเราให้ดียิ่งขึ้นนั่นเองครับ