ต่อไป ทุกอย่างจะเป็น Smart Device

ต่อไป ทุกอย่างจะเป็น Smart Device

ปัจจุบัน Smart Device ไม่ใช่มีเพียง Smartphone หรือ Tablet เพราะว่าเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ ได้เริ่มเข้าสู่การหลอมรวมของเทคโนโลยี

ซึ่งแม้แต่ โทรทัศน์ ก็ยังมี Smart TV ที่เป็นการหลอมรวมเทคโนโลยีโทรทัศน์จากสมัยเก่า เข้าสู่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียแห่งยุคปัจจุบัน
 

แม้มีความพยายามอยู่หลายครั้งในช่วงสหัสวรรษที่ผ่านมา แต่ระบบปฏิบัติการของ Smart Device ที่ประสบความสำเร็จที่สุด กลับเป็น Android ซึ่งแรกเริ่มถูกพัฒนาสำหรับ Smartphone แต่ได้ถูกวิวัฒนาการเพื่อรองรับ​ Tablets โทรทัศน์ ฯลฯ
 

ล่าสุด Nikon ผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปรายใหญ่ของโลก ได้เปิดตัว Coolpix S800c กล้องถ่ายรูปที่ใช้ระบบของ Android เพื่อทำการตลาดภายใต้สโลแกนที่ว่า Social Imaging Device หรือเป็นการหลอมรวมเทคโนโลยีของกล้องถ่ายรูปเข้ากับอินเทอร์เน็ตและโซเชียล มีเดีย ซึ่ง Coolpix S800c จะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ Smartphone อีกต่อไป
 

อย่างไรก็ตาม Nikon ก็มิใช่รายเดียว ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเชื่อมต่อของสิ่งที่เรียกว่า Socially Connected Device ในสัปดาห์เดียวกัน Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy Camera ซึ่งใช้ระบบ Android โดยที่  Samsung อาจมีข้อได้เปรียบจากประสบการณ์ในฐานะผู้ผลิต Smartphone และ Tablet ภายใต้แบรนด์ Samsung Galaxy และ Smart TV ภายใต้แบรนด์ Smartsung Smart TV
 

แต่ถึงกระนั้น การแพร่กระจายของ Android ซึ่งประจวบกับนิยามของ Smart Device ที่อาจขยายความต่อไป และมิได้หยุดอยู่ที่ โทรทัศน์ และกล้องถ่ายรูป อาจมิใช่เรื่องใหม่ หรือเรื่องที่ต้องแปลกใจ ตามทฤษฎีของ Ubiquitous Computing ที่ถูกบัญญัติไว้ในปี 1988 โดย Xerox PARC Lab ซึ่งคำว่า Ubiquitous หมายความว่า มีอยู่ทุกหนแห่ง ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ยุคหลัง PC ซึ่งหนึ่งบุคคลจะมีมากกว่าหนึ่งเครื่อง และแต่ละเครื่องก็คือ Smart Device ในปัจจุบัน ที่จะมาแทนที่ PC โดยมีขนาดเล็กลงและมีความสามารถในการเชื่อมต่อมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นอกจากวิทยาการที่ก้าวหน้าในด้าน ระบบปฏิบัติการ สมรรถภาพของเครื่อง ยังมีการขยายโครงข่ายของ WiFi และกระทั่ง 3G ที่ทำให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียจากทุกๆ ที่ ซึ่งส่งผลสู่ความสำเร็จในยุคหลัง PC
 

สำหรับผู้ที่ติดตามชีวประวัติของ Steve Jobs จะทราบได้ว่า Xerox PARC Lab เป็นต้นคิดของเทคโนโลยีที่เคยเปลี่ยนโลกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแม้แต่ Apple ยังเคยศึกษา Mouse และ User Interface มาจาก Xerox PARC Lab และต้นแบบของ Smartphone และ Tablet ล้วนถือกำเนิดมาจาก Lab นี้ทั้งสิ้น
 

การแข่งขันในยุคต่อไป คือ การหลอมรวมเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย
 

แม้แต่ในการฟ้องศาลระหว่าง Apple และ Samsung ยังมีการพูดถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่อาจสามารถเป็น Smart Device ได้ เช่น รถยนต์ ซึ่ง Apple เคยมีแนวคิดจะพัฒนาระบบรถยนต์ของตัวเอง อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องยากหากจะคาดคะเน ว่าอุปกรณ์ใดจะถูกวิวัฒนาการเป็น Smart Device ที่ประสบความสำเร็จ ในระยะสั้น แต่ที่แน่ๆ ในอนาคต ระยะกลางถึงไกล คงมีอีกมากมายหลายอุปกรณ์ ที่จะกลายเป็น Smart Device ตามทฤษฎีของ Ubiquitous Computing
 

หากเปรียบการต่อสู้ในสมรภูมิของ Smart Device เช่น ระหว่าง Apple และ Samsung ในปัจจุบัน ในอนาคตจะต้องขยายเป็นการแข่งขันในตลาดของเครื่องใช้และอุปกรณ์ ที่มีการขยายตัวตามนิยามของ Smart Device ตลอดไป จนกระทั่งเกิดการ Consolidate หรือควบรวมข้ามอุตสาหกรรม เมื่อ Smart Device กับเครื่องใช้และอุปกรณ์ทั่วไป กลายเป็นตลาดเดียวกันที่แยกจากกันไม่ได้อีกต่อไป
 

ความสำเร็จของ Android ใน Smartphone และ Tablet อาจเป็นการวางแผนที่ชาญฉลาด เมื่อ Google เห็นช่องว่างระหว่างความสำเร็จของ iPhone กับ Smartphone ในระบบเก่าอื่นๆ แต่การก้าวเข้าสู่ Smart Device ในตลาดที่กว้างขึ้น เช่น โทรทัศน์ กล้องถ่ายรูป หรือกระทั่ง รถยนต์ อาจเป็นเหตุบังเอิญ ที่มิได้คาดหวังไว้แต่แรก เพียงแต่ในภาพใหญ่แล้ว อาจเป็นการวิวัฒนาการอย่างเป็นธรรมชาติของเทคโนโลยี ตามทฤษฎีของ Ubiquitous Computing ซึ่งถูกบัญญัติไว้ตั้งแต่ 1988
 

Nikon Coolpix S800c หรือกระทั่ง Samsung Galaxy Camera อาจเป็นความตื่นตาตื่นใจในยุคปัจจุบัน แต่ในไม่ช้าจะมีเครื่องใช้และอุปกรณ์ประเภทใหม่ๆ ที่ใช้ Android และวิวัฒนาการเป็น Smart Device อย่างแน่นอน