รู้เขา รู้เรากับ Alexa

รู้เขา รู้เรากับ Alexa

หนึ่งในกลยุทธ์สู่ความสำเร็จทางธุรกิจ คือ การศึกษาข้อมูลของคู่แข่งขัน หรือที่เรียกกันว่า "ล้วงความลับของคู่แข่ง"

ในโลกการตลาดออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน นักการตลาดออนไลน์เอง ก็ต้องการจะทราบข้อมูลของคู่แข่งเช่นกัน ดังนั้น สถิติของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเปรียบเทียบกับคู่แข่ง จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะคุณจะสามารถวิเคราะห์ได้ถึงประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ของคุณเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
 

วันนี้ ผมจะแนะนำวิธีล้วงความลับของเว็บไซต์คู่แข่งด้วยเครื่องมือของ Alexa.com ที่คุณสามารถทราบสถิติการเข้าชมของเว็บไซต์คู่แข่งได้บ่อยครั้งที่นักการตลาดกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ของตนเอง โดยไม่ได้พิจารณาข้อมูลของเว็บไซต์คู่แข่งก็อาจทำให้การกำหนดเป้าหมายผิดพลาดได้ คุณอาจจะประเมินสูงหรือต่ำเกินไปเพราะคุณไม่มีข้อมูลเชิงเปรียบเทียบแต่ก่อนที่จะพูดถึงวิธีล้วงความลับ ผมขอแนะนำ Alexa ก่อน
 

Alexa อยู่ภายใต้การบริหารของเว็บ อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ Amazon.com โดย Alexa จะรวบรวมข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ติดตั้ง Toolbar ของ Alexa มันจะดึงข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต เพื่อที่จะทราบพฤติกรรมของผู้ติดตั้ง Toolbar ทั้งหมด แล้วนำมาสรุปเป็นภาพรวมของการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
 

การใช้งาน Alexa จะง่ายมาก เพียงคุณเข้าสู่เว็บไซต์ Alexa.com แล้วป้อน URL ของเว็บไซต์ที่คุณต้องการข้อมูล เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ข้อมูลสถิติการเข้าชมเว็บไซต์นั้นๆ แล้ว ยิ่งเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูงเท่าไร ข้อมูลสถิติก็จะมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นเท่านั้น คุณยังสามารถเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ต่างๆ พร้อมกันได้อีกด้วย
 

ข้อมูลสถิติที่คุณจะได้รับทราบมีอะไรบ้าง
 

อันดับของเว็บไซต์ของคุณเทียบกับอันดับโลกและประเทศนั้น
 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยจะได้ตัวเลขเป็นสัดส่วนของผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั่วโลก เช่น Facebook มีผู้เข้าชม ร้อยละ 41.37 ดังนั้น คุณจะต้องนำตัวเลขนี้ไปคูณกับจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก คุณก็จะได้จำนวนผู้เข้าชมในแต่ละวัน
 

จำนวน Pageviews คุณจะได้เป็นตัวเลขสัดส่วนของ Pageviews เทียบกับจำนวน Pageviews ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกเข้าชม โดยนำตัวเลขนี้ไปคูณกับจำนวน Pageviews ทั้งหมดของโลก ก็จะทราบจำนวน Pageviews ต่อวันเช่นกัน
 

จำนวน Pageviews ต่อผู้เข้าชม สถิตินี้จะเริ่มน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะมันจะบอกถึงคุณภาพของเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ ยิ่งตัวเลขของ Pageviews ต่อผู้เข้าชม มากเท่าไร เว็บไซต์ของคุณก็มีคุณภาพมากเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Pizza Hut (www.PizzaHut.co.th) มีจำนวน Pageviews ต่อผู้เข้าชมเท่ากับ 5.1 เทียบกับThe Pizza (www.Pizza.co.th) ที่มี Pageviews ต่อผู้เข้าชมเพียง 1.8  ดังนั้น เว็บไซต์ที่มี จำนวน Pageviews ต่อผู้เข้าชมสูงกว่า ย่อมสามารถสร้างโอกาสการขายได้สูงกว่าเช่นกัน และบ่งบอกถึงคุณภาพของเว็บไซต์นั้นๆ ด้วย
 

Bounce % เป็นสถิติแสดงให้เห็นถึงสัดส่วนผู้เข้าชมที่ดูหน้าแรกของเว็บไซต์แล้วออกจากเว็บไซต์นั้นทันที หรือง่ายๆ คือ ดูเพียงหน้าเดียวแล้วไม่ได้ดูหน้าต่อไป ยิ่งสัดส่วนของ Bounce น้อยเท่าไร คุณภาพของเว็บไซต์ก็ดีมากขึ้นเท่านั้น การออกแบบเว็บไซต์มีผลอย่างมากต่อสัดส่วน Bounce และการใช้ Landing Page ที่ถูกต้องสำหรับสื่อโฆษณาออนไลน์ก็มีผลอย่างมากเช่นกัน
 

ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ FuturePark.co.th มี Bounce เท่ากับร้อยละ 26.3 เปรียบเทียบกับเว็บไซต์ CentralPlaza.co.th ที่มี Bounce สูงถึงร้อยละ 50 ก็หมายความว่า เว็บไซต์ Future Park มีผู้เข้าชมในหน้าถัดไปสูงกว่า หรือมีการนำเสนอในหน้าแรกได้ดีกว่า หากพิจารณาในแง่ของสื่อโฆษณาแล้ว เว็บไซต์ Future Park ย่อมมีความคุ้มค่ากว่าในการลงสื่อโฆษณา เพราะว่าผู้เข้าชมมีโอกาสชมในหน้าถัดไปสูงกว่า จึงสร้างโอกาสการขายได้สูงกว่า
 

Time on site หรือเวลาเฉลี่ยต่อผู้เข้าชมในเว็บไซต์นั้น แน่นอนว่ายิ่งใช้เวลานานแค่ไหน ก็ย่อมเป็นผลดีต่อเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งก็หมายถึงโอกาสที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นนั้นเอง
 

Search % หมายถึง สัดส่วนของผู้เข้าชมที่มาจากการค้นหาใน Search Engine ยิ่งมีสัดส่วนมากเท่าไร ก็หมายถึงประสิทธิภาพของสื่อโฆษณา Search Engine ที่ดีนั่นเอง หรือมีผู้เข้าชมมาจาก Search Engine ที่มากกว่า
 

นอกเหนือจากคุณจะรู้ข้อมูลของเว็บไซต์คู่แข่งมากขึ้นแล้ว คุณยังสามารถทราบถึงสถิติของเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วโลกในแต่ละหมวดหมู่เช่นกัน เพื่อเป็นการเปรียบเทียบคุณภาพของเว็บไซต์กับเว็บไซต์ในธุรกิจเดียวกันทั่วโลก คุณสามารถเลือกเมนู Top Site แล้วไปยังหมวดหมู่เดียวกันกับธุรกิจของคุณ คุณก็จะเห็นเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก แล้วคุณสามารถใช้ข้อมูลสถิติของเว็บไซต์เหล่านั้นเป็นเป้าหมายในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นด้วย
 

ข้อดีของ Alexa คือ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ กับข้อมูลสถิติเหล่านี้ แต่ข้อเสีย คือ ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงแค่การสุ่มวัดเท่านั้น โดยวัดพฤติกรรมการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ติดตั้ง Toolbar เท่านั้น ดังนั้น ความแม่นยำของข้อมูลอาจจะน้อย คุณอาจจะใช้วิธีการคำนวณเชิงเปรียบเทียบกับข้อมูลสถิติ จาก Google Analytics หรืออื่นๆ ประกอบ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลคู่แข่งที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
 

หวังว่าข้อมูลสถิติของเว็บไซต์คู่แข่งจะช่วยให้คุณปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นไปนะครับ