กำจัดจุดอ่อน หรือมองหาจุดแข็ง

ท่านผู้อ่านคะ ท่านเคยถามตนเองหรือไม่ว่า ท่านมีจุดแข็งอะไรบ้าง และคำตอบคือ อะไรคะ
บุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง ไทเกอร์ วูดส์ บิล เกลส์ หรือบ้านเรา คุณหมึกแดง พี่เบิรด ล้วนใช้จุดแข็งในการนำชีวิต เพื่อประสบความสำเร็จแทบทั้งนั้น
นับเป็นเรื่องแปลกว่า คนเราเรียนรู้ รับรู้ และค้นพบจุดอ่อนของตน มากกว่า จุดแข็ง หากเริ่มคำถามว่า เราคิดว่า เราไม่เก่งอะไร หรือเรามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง เราสามารถเจียไนมาเป็นฉากๆ แต่หากเปลี่ยนคำถามเป็น เราคิดว่าเราเก่งอะไร ต้องขอใช้เวลานึกอยู่สักพักกว่าจะคิดออกมาได้ และเมื่อเจาะลงไปในระดับรายละเอียด ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นจุดแข็งของเราหรือไม่ ด้วยเหตุนี้อาจจึงเป็นสาเหตุทำให้เราไม่สามารถพัฒนาตนเองได้มากเท่าที่ควร
แต่ท่านไม่ต้องแปลกใจ เพราะ แม้แต่คนอเมริกันส่วนใหญ่เองก็ยังไม่รู้ว่าจุดแข็งของตนเอง คืออะไร
มีคำพูดจากปีเตอร์ ดรักเกอร์ ปรมาจารย์ด้านการบริหารธุรกิจหรือสมญานามว่า ขงจื้อฝรั่ง กล่าวว่า คนอเมริกัน ส่วนใหญ่ไม่รู้จุดแข็งของตนเอง พอคุณถามเรื่องนี้ เขาทำหน้างง หรือไม่ก็ตอบในเชิงความรู้ ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิด
ในโลกตะวันตกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ได้มีการศึกษา และพัฒนาจิตวิทยาแนวใหม่ที่เรียกว่า จิตวิทยาเชิงบวก (Positive Psychology)โดย ศาสตราจารย์มารติน สลิกแมน(Martin Seligman)ซึ่งเปรียบเสมือนบิดาของศาสตร์นี้ จิตวิทยาเชิงบวก ยึดเอาจุดแข็งของมนุษย์เป็นศูนย์กลางของ การพัฒนาอาทิเช่นการพัฒนาในด้านคุณค่า (Value) สติรู้ตื่นลื่นไหลในกิจกรรม (Flow) การมองโลกทางบวกหรือในแง่ดี (Optimism) ความหวัง (Hope) และความสุข (Happiness) ของบุคคลเป็นต้น
ศาสตราจารย์มารติน สลิกแมนกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า หลักสำคัญในการนำไปสู่ความสำเร็จและความสุขอย่างใหญ่หลวง คือ การใช้จุดแข็งของตนเอง ไม่ใช่การแก้ไขจุดอ่อน
ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่า วิชาที่ได้รับการโจษจันว่ามีผู้ลงเรียนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วารด์ รวมทั้งหนูดี – วนิษา เรซ ซึ่งเธอเล่าไว้ในคำนำของหนังสือ เปิดห้องเรียนวิชาแห่งความสุขว่า ขนาดต้องเรียนในแซนเดอร์ เตอร์ อันเป็นหอคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ จุคนได้เป็นพัน
วิชานั้น คือ วิชาความสุข(Happier) ซึ่งสอนโดยดร.ทาล เบน-ชาฮาร์ วิชานี้ก็มีรากฐานมาจากจิตวิทยาเชิงบวก หากท่านผู้อ่าน ยังไม่มีหนังสือนี้ไว้ในครอบครอง อยากขอแนะนำให้อ่านอย่างยิ่ง ผู้เขียน มักแนะนำให้เพื่อนหรือผู้ได้รับการโค้ช อ่านเพื่อเรียนรู้วิธีเพิ่มพูนความสุขในชีวิต
จิตวิทยาเชิงบวกนับเป็นศาสตร์ทางเลือกใหม่ที่เน้นการขุดค้นความสามารถและพัฒนาบุคลิกภาพของเราโดยมีพื้นฐานของความสุขจากการพัฒนาตนเองการเป็นคนดีมีมุมมองต่อชีวิตและโลกในเชิงบวกแนวคิดจึงกำลังได้รับความสนใจและนำไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนามนุษย์อย่างกว้างขวางในประเทศตะวันตกในขณะนี้
ปัจจุบัน ได้เริ่มมีการนำแนวคิดนี้ มาใช้ในการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ซึ่งเดิมมุ่งเน้นการมองหาปัญหาของบรรดาบุคคลากรแต่ละคน และพยายามค้นหาวิธีในการแก้ไขหรือจำกัดจุดอ่อนเหล่านั้น
แนวความคิดที่ว่า ควรเลือกใช้คนตามความสามารถและจุดแข็งกำลังถูกนำกลับมาพิจารณากันอีกครั้ง เพราะแทนที่องค์กรต้องทุ่มเทงบจำนวนมหาศาลและเวลาอันมากมายในการพัฒนาจุดอ่อนของทีมงานหรือผู้บริหารหากนำงบเดียวกันมาใช้ในการคัดสรรคนและพัฒนาคนจากจุดแข็งอาจเป็นแนวคิดที่ทรงประสิทธิภาพและทรงพลังมากกว่า
จิตวิทยาเชิงบวก ได้รับการนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้นำในโลกธุรกิจ โดยใช้เครื่องมือในการแสวงหาจุดแข็งของคนและนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดาหนังสืออย่างเจาะจุดแข็งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จากผลวิจัยกับองค์กรขนาดใหญ่ของเดอะ แกลลัพ ออแกไนเซชั่น พบว่า พนักงานเพียงแค่ร้อยละ 20 ได้ใช้จุดแข็งในการทำงานทุกวัน หากท่านเป็นผู้บริหาร และล่วงรู้จุดแข็งของทีมงานคงเป็นเรื่องดี เพราะสามารถเพิ่มผลผลิตและคุณค่าขององค์กร ได้ โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุน และทำให้บุคลากรของเรามีความสุขเพิ่มขึ้น เนื่องจากเขาได้ใช้จุดแข็งของตนในการทำงาน
ในทุกวันนี้ โปรแกรมการพัฒนาผู้นำต่างๆ จึงเริ่มนำเอาเครื่องมือในการประเมินจุดแข็งเข้ามาใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และโปรแกรมการโค้ชผู้บริหาร ก็ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือหนึ่งที่นำมาใช้
สำหรับการโค้ชนั้น มีโค้ชมืออาชีพจะได้รับการอบรมให้การโค้ชมุ่งไปสู่การค้นหาศักยภาพและจุดแข็งของผู้ได้รับการโค้ช ด้วยการฟังและการใช้คำถาม และเครื่องมือด้านจิตวิทยาอื่นๆ โดยคำถามที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นคำถามเชิงจิตวิทยาและเชิงบวก เพื่อสืบค้นศักยภาพต่างๆ และอุปสรรคอันเป็นกำแพงขวางกั้นทำให้ผู้ได้รับการโค้ชไม่สามารถนำศักยภาพนั้นๆ ออกมาใช้ได้ สิ่งนี้เป็นข้อแตกต่างของอาชีพโค้ชกับการให้คำปรึกษา เพราะ โค้ช มีความเชื่อว่า ผู้ได้รับการโค้ชมีความสามารถและศักยภาพในตนเอง ขณะที่บรรดาที่ปรึกษาล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ และมาแบ่งปันประสบการณ์ของตนให้กับองค์กร
ปัจจุบันมีโค้ชมืออาชีพที่มีความสนใจจิตวิทยาเชิงบวกและนำแนวคิดจิตวิทยาเชิงบวกพัฒนาเป็นชุดคำถามใช้ในกระบวนการโค้ช วันนี้ ผู้เขียนจึงขอแบ่งปัน ตัวอย่างชุดคำถามที่มุ่งเน้นค้นหาจุดแข็งและการนำจุดแข็งมาพัฒนา
สัก 3-4 คำถามขอให้ท่านผู้อ่านหยิบกระดาษ ขึ้นมาแล้วตอบคำถามข้างล่างนี้ไปด้วยกันนะคะ
- กรุณาช่วยเล่าเรื่องที่คุณประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวิตมาสัก 3 เรื่อง เป็นเรื่องในชีวิตการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวก็ได้ค่ะ
- คุณคิดว่า คุณสมบัติอะไรในตัวคุณที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในเรื่องดังกล่าว
- คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากเรื่องราวความสำเร็จของคุณ และสิ่งเหล่านั้นทำให้คุณเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในชีวิต รวมทั้งอนาคตของท่านที่จะก้าวเดินต่อไป
- คุณได้นำประสบการณ์ความสำเร็จดังกล่าวเข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตของคุณอย่างไรบ้างคะ
ขอให้ท่านผู้อ่านลองทบทวนคำตอบของท่าน แล้วลองประมวลผลคำตอบ เพื่อค้นหาจุดแข็งของท่าน วันนี้ท่านค้นพบจุดแข็งของท่านหรือยังคะ หากยัง ควรค้นหาต่อไปค่ะ หรือไม่ก็ไปซื้อหนังสือเจาะจุดแข็งมาอ่านเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ ในหนังสือมีแบบสำรวจเพื่อค้นหาจุดแข็งของท่านอย่างเป็นระบบให้ทดลองทำด้วยค่ะ ต่อไปขอให้ท่านเปลี่ยนเป้าหมาย จากการกำจัดจุดอ่อน และหันไปให้ความสนใจและพัฒนาจุดแข็งของท่านนะคะ







