ล้มเหลวรับมือน้ำท่วม อย่าล้มเหลวซ้ำ 'เยียวยา'

อุทกภัยครั้งใหญ่ที่ถาโถมภาคใต้ ไม่ได้เป็นเพียงผลลัพธ์ของสภาพอากาศสุดขั้ว หากเป็นภาพสะท้อน “ช่องโหว่” ของระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ ที่ไม่พร้อมของประเทศอย่างชัดเจน ประชาชนจำนวนมากสูญเสีย บ้านเรือน ทรัพย์สิน ชีวิต และแหล่งรายได้ชั่วข้ามคืน
ขณะที่ ภาครัฐยังคงอยู่ในโหมด “ตามแก้” มากกว่า “เตรียมพร้อม” สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ย้ำว่า ความช่วยเหลือหลังน้ำลดต้องไม่ใช่เพียง “เยียวยา” แบบทำตามหน้าที่ แต่ต้องเป็นการกอบกู้ศรัทธาและฟื้นความเชื่อมั่นประชาชนที่รู้สึกชัดเจนว่า “รัฐล้มเหลวทั้งกระบวนการ การบริหารจัดการในวิกฤติครั้งนี้”
ชั่วโมงนี้ประชาชนต้องการความช่วยเหลือที่รวดเร็ว ตรงจุด และเข้าถึงได้ทันที ไม่ใช่ รอคอยเอกสารเวียน ขั้นตอนซับซ้อน หรือการโยนเรื่องข้ามหน่วยงาน การช่วยเหลือทางการเงิน จึงต้องออกแบบให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นทันที ขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนของธนาคารพาณิชย์ภายใต้การประสานงานของ ธปท. ต้องรวดเร็วและมีมาตรฐานชัดเจน แม้แต่ละธนาคารจะมีโครงสร้างลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่เงื่อนไขช่วยเหลือพื้นฐานควรเป็น “มาตรฐานกลาง” เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างสถาบันการเงินหรือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
การเยียวยาไม่ควรจำกัดอยู่แค่ช่วงสัปดาห์ หรือเดือนแรก แต่ต้องวางรากฐานสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคใต้ในระยะกลาง และระยะยาวอย่างเป็นระบบ เพราะผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ สะเทือนทั้งภาคการค้า การท่องเที่ยว เกษตรกรรม และห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่นอีกหลายเดือนต่อจากนี้ สิ่งที่จำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความเร็ว คือ “ความโปร่งใส” ทุกสตางค์ของเงินเยียวยาและงบกลางฉุกเฉินต้องถูกตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์
ไม่ว่าจะเป็นเงินชดเชยครัวเรือน การฟื้นฟูเอสเอ็มอี หรือมาตรการธนาคารพาณิชย์ รัฐต้องสร้างระบบให้ประชาชนติดตามได้ว่าคำร้องของตนอยู่ในขั้นตอนไหน และเงินช่วยเหลือถูกจ่ายไปแล้วแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเรื่องความโปร่งใส แต่คือการสร้างความเชื่อมั่นที่หายไปในช่วงวิกฤติที่รัฐ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ท้ายที่สุด บทเรียนใหญ่ น้ำท่วมภาคใต้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะมีส่วนให้เกิดความ “ล้มเหลว” ในเชิงบริหารจัดการ แต่ “รัฐบาล” ต้องโดนมากที่สุด เพราะ คือผู้บริหารประเทศ หากไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในยามวิกฤติ เสียงในหัวทุกคนคงมีคำตอบไม่ต่างกัน และรัฐบาลต้องรับความจริงที่ว่า “การช่วยเหลือหลังน้ำลด” ไม่เคยเพียงพอ หากไม่มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลอาจไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ความผิดพลาดช่วงรับมือน้ำท่วมได้ แต่ยังมีโอกาสกอบกู้ศรัทธาผ่านการเยียวยาที่รวดเร็ว โปร่งใส และทำได้จริงในวันนี้ การลงมือทันที คือ ความรับผิดชอบขั้นต่ำที่ประชาชนสมควรได้รับ เป็นก้าวแรกของการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคใต้ให้กลับมายืนได้แข็งแรงอีกครั้ง







