นักการเมือง ‘ไร้คุณภาพ’ ทุบเศรษฐกิจไทย ‘พัง’ 

นักการเมือง ‘ไร้คุณภาพ’ ทุบเศรษฐกิจไทย ‘พัง’ 

เศรษฐกิจไทยกำลังถูกท้าทายอย่างหนักจากความไม่แน่นอนทางการเมือง กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญฉุดรั้งความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

    วันนี้ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมปรึกษาหารือคดีสำคัญ อาจหยิบยกเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน” อดีตนายกฯ กัมพูชา เข้าสู่การพิจารณา หากศาลมีมติใดๆ ไม่ว่าในทิศทางใดในเรื่องนี้ ย่อมกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลและสร้างแรงกระเพื่อมต่อกระบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้
    ภาวะที่เศรษฐกิจไทยกำลังต้องการเสถียรภาพ เพื่อกระตุ้นการลงทุน กระตุ้นการบริโภค และฟื้นความเชื่อมั่นของตลาดโลก ปัญหาการเมืองที่ยังไร้ข้อยุติไม่เพียงบั่นทอนสมรรถนะของรัฐบาล หากยังสั่นคลอนต่อเนื่องไปถึงหน่วยงานภาครัฐ ระบบราชการ และภาคเอกชนที่จำเป็นต้องอาศัยนโยบายชัดเจนในการตัดสินใจทิศทางธุรกิจ ระยะเวลาฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงหลังเลือกตั้งปี 2566 ยังไม่ทันเห็นผลชัดเจน ก็ต้องเผชิญความเสี่ยงใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลกลางคัน ย่อมกระทบต่อความต่อเนื่องนโยบายโดยตรง

    แต่หากวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้นำคำร้องมาพิจารณา หรือหากหยิบยกขึ้นมาแล้วลงมติให้ตกไปก็ตาม แต่เพียงแค่ “ความไม่แน่นอน” ที่เกิดขึ้นในภาคการเมืองของไทยแทบจะทุกมิติ ก็เพียงพอสั่นคลอนความมั่นใจในภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเมื่อมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก เช่น การส่งออกที่ยังชะลอตัว การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าช่วงสั้นเพราะเงินไหลเข้าตราสารหนี้มากกว่าภาคการผลิต การเมืองจึงกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งจัดการ หากไม่ต้องการให้ “ความเสี่ยง” ลามไปสู่ “วิกฤติศรัทธา”

    ทางออกในภาวะเช่นนี้ คือ สร้างกลไกสื่อสารที่โปร่งใส สม่ำเสมอ และจริงใจจากรัฐบาล โดยเฉพาะการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อข้อร้องเรียนต่างๆ อย่างมีหลักฐานและเหตุผล พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจตามโรดแมปเดิม ไม่ปล่อยให้ข่าวลือหรือแรงกดดันการเมืองมาสั่นคลอนภาวะการบริหาร พร้อมทั้งเร่งสร้างความร่วมมือภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และภาคการเมืองฝ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดการเดินไปในทิศทางเดียวกันในการฟื้นเศรษฐกิจท่ามกลางความแตกต่างทางความคิด
    ประเทศไทยต้องเผชิญความจริงที่ว่า เศรษฐกิจไม่อาจฟื้นคืนได้ หากการเมืองไม่มั่นคงแต่ยังเป็น ‘เงาดำมืด’ บดบังทำให้เศรษฐกิจไทยไร้ทิศทาง ทุบความเชื่อมั่นร่วงลงเรื่อยๆ หากผู้นำประเทศไม่สามารถรักษาเสถียรภาพ หรือเรียกคืนความมั่นใจจากประชาชนและนักลงทุนได้แล้ว จะยิ่งฉุดระบบเศรษฐกิจทรุดหนักลงแบบเลวร้าย นำพาเศรษฐกิจไทยกลับเข้าสู่วังวนของความล้มเหลวทางนโยบายที่มีสาเหตุใหญ่จาก ‘วิกฤติการเมืองน้ำเน่า’ จากฝีมือนักการเมืองไทยที่ไร้คุณภาพ...