เมื่อเงิน‘ดอลลาร์’ถูกลดระดับความสำคัญ

ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ “เงินดอลลาร์” ถูกท้าทายมากเท่ากับช่วงเวลานี้แล้ว เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าหลายประเทศกำลังทยอยลดการถือครองเงินดอลลาร์ลงอย่างจริงจังโดยเฉพาะ “จีน” ...ข้อมูลของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า “จีน” ผู้ที่เคยมียอดถือครองพันธบัตรรัฐบาล(บอนด์)สหรัฐมากสุดในช่วงระหว่างปี 2556-2561 ก่อนจะถูกญี่ปุ่นขึ้นแซงเป็นอันดับหนึ่งในปี 2562 ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมี.ค.2568 อันดับการถือครองบอนด์สหรัฐของจีนได้ร่วงลงมาอยู่อันดับ 3 เป็นที่เรียบร้อย โดยถูกสหราชอาณาจักรเบียดแซงขึ้นเป็นอันดับ 2
จากข้อมูลจะเห็นว่า “จีน” ลดระดับการถือบอนด์สหรัฐลงอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่เคยถือสูงถึง 1.27 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ล่าสุด ณ สิ้นมี.ค.2568 ลดลงเหลือเพียง 7.65 แสนล้านดอลลาร์ หรือลดลงเกือบ 40% ภายในเวลาไม่กี่ปี ที่สำคัญยังมีแนวโน้มว่าจีนจะยังลดระดับการถือบอนด์สหรัฐลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากข้อมูลที่บลูมเบิร์กนำมาเปิดเผย พบว่า สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา และ เบลเยียม เป็นหนึ่งในประเทศที่เพิ่มการถือครองบอนด์สหรัฐในเดือนมี.ค.2568 แต่นั่น คือ ข้อมูลที่เกิดขึ้นก่อน 1 เดือนที่บอนด์สหรัฐจะถูกเทขายล๊อตใหญ่จากการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของ “โดนัลด์ ทรัมป์”
อย่างที่เกริ่นไว้การถือบอนด์เพิ่มขึ้นของทั้ง สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา และ เบลเยียม เกิดขึ้นก่อนวันปลดแอก 2 เม.ย. ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากหลายประเทศทั่วโลก จนทำให้เกิดการเทขายสินทรัพย์สหรัฐครั้งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตร หุ้น หรือแม้แต่เงินดอลลาร์จนดัชนีเงินดอลลาร์ร่วงลงหนักในเดือนเม.ย.2568 แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า “ใครเป็นผู้ขายบ้าง?” แต่แรงขายที่ออกมายืนยันได้ว่า มีผู้ที่ขายดอลลาร์มากกว่าผู้ที่เข้าซื้ออย่างแน่นอน
นอกจากนี้ถ้าดูข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) พบว่า สัดส่วนเงินดอลลาร์ในตะกร้าทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ณ สิ้นปี 2567 ร่วงลงทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน เหลือเพียง 57.8% ย้อนไปสมัยที่ดอลลาร์เป็นดาวรุ่ง เคยมีสัดส่วนในตะกร้าทุนสำรองฯ ถึงราว 70% ช่วงปี 2543
ประเด็นนี้คงเป็นโจทย์ที่ย้อนกลับมายัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เช่นกัน เพราะเรามีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ตีมูลค่าเป็นเงินดอลลาร์สุทธิถึง 2.79 แสนล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ในรูปของ “เงินดอลลาร์” สัดส่วนเท่าใด แต่อนุมานได้ว่าอาจสูงกว่า 60% ของเงินทุนสำรองฯ ทั้งหมดอย่างแน่นอน โจทย์ใหญ่จึงอยู่ที่ว่า ธปท. จะบริหารเงินเหล่านี้อย่างไรท่ามกลางที่ทั่วโลกทยอยลดความสำคัญของเงินดอลลาร์ลง!







