พลิก‘นโยบายการคลัง’ ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ

พลิก‘นโยบายการคลัง’ ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ

วาระครบรอบ 150 ปีของกระทรวงการคลัง หน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศ ความท้าทายไม่ได้มีเพียงแค่การฉลองความสำเร็จในอดีต

 แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการประเมินบทบาท และเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะยุคที่เศรษฐกิจไทยกำลังเปราะบาง เข้าขั้นถดถอย และแรงกดดันจากภายนอกก็ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรงรอบด้าน

ทั้งจากสงครามการค้า สงครามภาษี การเมืองระหว่างประเทศ (geopolitics) รวมถึงภาวะหนี้สินของประเทศที่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง

ภายใต้เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ประเทศไทยกำลังเผชิญกับ “สัญญาณอันตราย” ที่โอบล้อมเข้ามาอย่างหนักหน่วง ทั้งการถูกปรับลดเครดิตจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ การที่ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์จีดีพีลงต่อเนื่อง สัญญาณภาคเอกชนชะลอการลงทุน กระทรวงการคลังในฐานะ “มันสมอง” การเงินการคลังของชาติ ต้องเร่งหาทางออกเชิงรุก ไม่ใช่เพียงแค่บริหารรายรับรายจ่ายให้สมดุล แต่ต้อง “คิดใหม่” คิดแบบกลับหัวในเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ ท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจโลกที่ไม่เหมือนเดิม
   

หนึ่งในโจทย์ใหญ่ คือ การปรับโครงสร้างภาษี ที่ต้องไม่เป็นเพียงแค่การเก็บภาษีให้มากขึ้น แต่ต้องเป็นการเก็บที่ “ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และกระตุ้นการเติบโต” ยุทธศาสตร์ภาษีในศตวรรษที่ 21 ต้องสามารถรับมือกับเศรษฐกิจดิจิทัล ความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบแรงงาน การไหลของทุนข้ามพรมแดน และการหลีกเลี่ยงภาษีของกลุ่มทุนข้ามชาติ กระทรวงการคลังจำเป็นต้องปรับระบบภาษีใหม่ที่ยืดหยุ่น โปร่งใส และตอบโจทย์โลกใหม่ให้ได้ ขณะที่ ต้องวางยุทธศาสตร์ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว ปูทางสู่ความยั่งยืนทางการคลังในอนาคต มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมองอย่างชาญฉลาด ลุ่มลึก อย่ามุ่งใช้แต่นโยบาย “แจกเงิน” หากต้องวางรากฐานให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้จริงในระยะยาว
   

กระทรวงการคลังบนบริบทโลกใหม่ ต้องมีหน่วยคิดเชิงกลยุทธ์ ที่วิเคราะห์ความเสี่ยงในระยะยาว คาดการณ์แนวโน้มโลก กำหนดนโยบายเชิงรุก การครบรอบ 150 ปีจึงไม่ใช่แค่การหันกลับไปมองความสำเร็จในอดีต แต่หากต้องมองไปข้างหน้า และกำหนดยุทธศาสตร์การเงิน การคลังให้แม่นยำ กระทรวงการคลังต้อง “ยกระดับบทบาท” ให้ทันกับความซับซ้อนของเศรษฐกิจยุคใหม่ บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แนวทางการทำงานที่ยืดหยุ่น มีข้อมูลสนับสนุนเชิงลึก และกล้าปรับนโยบายอย่างชาญฉลาด กล้าที่จะทลายกรอบการทำงานวิธีคิดแบบเดิม เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจไทยให้ยืนอยู่ได้ แม้โลกจะเปลี่ยนเร็วเพียงใดก็ตาม