ทีมเจรจาสหรัฐฯเดิมพันอนาคตศก.

การเจรจาระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ ทีมเจรจาของประเทศไทย มีภารกิจสำคัญปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของชาติ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญความท้าทายและอยู่ในช่วงสุญญากาศทางนโยบาย เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความไม่แน่นอนหลายเรื่อง ทั้งฟื้นตัวช้าหนี้สาธารณะพุ่งขึ้น ปัญหาเงินเฟ้อ การแข่งขันทางการค้าที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าสหรัฐภายใต้การนำของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ที่เน้นปกป้องผลประโยชน์สหรัฐเป็นหลัก ยิ่งทำให้การเจรจาครั้งนี้สำคัญ ทีมเจรจาไทยจึงต้องมีแผนรุกและรับที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้ประเทศเสียเปรียบ
มาตรการเชิงรุก เช่น การขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไทย ทีมเจรจาควรผลักดันให้สหรัฐลดมาตรการกีดกันทางการค้าสำหรับสินค้าเกษตรของไทยซึ่งไทยมีศักยภาพแข่งขันสูง การเปิดตลาดเพิ่มเติมช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรประเทศ ขณะที่ การเจรจาข้อตกลงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไทยเองควรผลักดันความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนานวัตกรรมร่วมสหรัฐฯ เพื่อยกระดับขีดความสามารถแข่งขันภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะกลุ่ม S-Curve ที่เป็นเป้าหมายประเทศ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล การแพทย์ครบวงจร
อีกเรื่องสำคัญ คือ การดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย นำเสนอแพ็กเกจสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับนักลงทุนสหรัฐที่ต้องการย้ายฐานการผลิตที่ไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จะช่วยสร้างงานคุณภาพและถ่ายทอดความรู้ให้แรงงานไทย มาตรการเชิงรับก็ต้องเตรียมพร้อม ทีมเจรจาต้องกำหนดเส้นแดงที่ชัดเจนปกป้องอุตสาหกรรมที่อ่อนไหวของไทย โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมพื้นฐาน ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ยังไม่พร้อมแข่งกับสินค้าจากสหรัฐฯ หากจำเป็นต้องเปิดตลาด ควรกำหนดระยะเวลาปรับตัวมาตรการช่วยเหลือที่เพียงพอ
การเจรจากับสหรัฐฯ ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงโอกาสแก้ปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้า แต่เป็นโอกาสวางรากฐานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืนระหว่างสองประเทศ “ทีมเจรจาของไทย” ต้องเตรียมความพร้อมรอบด้าน มีข้อมูลสนับสนุนที่แม่นยำ กำหนดจุดยืนชัดเจน ท่ามกลางสุญญากาศทางนโยบายและความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก ความสำเร็จการเจรจาครั้งนี้จะเป็นสัญญาณสำคัญต่อนักลงทุนและประเทศคู่ค้าอื่นๆ ถึงความมุ่งมั่นของไทยในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในเวทีโลก เราจึงหวังว่าทีมเจรจา จะรักษาสมดุลระหว่างผลประโยชน์ระยะสั้นและเป้าหมายการพัฒนาระยะยาวของประเทศได้