ตั้งรับ ‘ทรัมป์ 2.0’ ยุคโลกป่วน ไทยกระอัก!

ตั้งรับ ‘ทรัมป์ 2.0’ ยุคโลกป่วน ไทยกระอัก!

เมื่อคืนวันจันทร์ (20 ม.ค.) ที่ผ่านมา คงได้เห็นภาพพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ไปแล้วว่ายิ่งใหญ่เพียงใด และ “ทรัมป์” เตรียมจะดำเนินการอะไรบ้างหลังรับตำแหน่งที่นับได้ว่าทรงอิทธิพลมากสุดบนโลกใบนี้ …

บอกได้คำเดียวว่าจากนี้ไปโลกใบนี้จะวุ่นวายอย่างแสนสาหัส และไทยเองก็คงกระอักอย่างหนักจากการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 อย่างแน่นอน

บางคนอาจมีคำถามว่า ที่เขียนมานี้เกินจริงไปหรือไม่ ซึ่งอยากชวนกลับไปดูว่าสมัยแรกที่ “ทรัมป์” นั่งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐทำอะไรไว้บ้าง ทรัมป์เปิดฉากตั้งกำแพงภาษีใส่จีนโดยไม่สนใจเรื่องการค้าเสรี แม้แต่องค์กรการค้าโลก(WTO) ยังไม่สามารถทำอะไรทรัมป์ได้

…มารอบนี้ “ทรัมป์” ประกาศชัดในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน 60% และประเทศอื่นๆ อีก 10-20% ล่าสุดหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ เขาเพิ่งประกาศว่า จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก “แม็กซิโก” และ “แคนาดา” ในอัตรา 25% เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศปล่อยให้มีผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐจำนวนมาก โดยอัตราภาษีดังกล่าวจะเริ่มวันที่ 1 ก.พ.นี้ 

ส่วนของ “จีน” แม้ทรัมป์จะยังไม่ได้ตัดสินใจขึ้นภาษีในวันแรกหลังการรับตำแหน่ง แต่อนาคตหนีไม่พ้นที่เขาจะตั้งกำแพงภาษีใส่สินค้าจีนแน่นอน เพราะจีนถือเป็น “เป้าหมายใหญ่” ที่ทรัมป์จ้องเล่นงาน  ซึ่งถ้า  “ทรัมป์” ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนสูงถึง 60% ตามที่หาเสียงเอาไว้ การค้าโลกจะยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น เราอาจจะเห็นผู้ประกอบการแตกรัง ย้ายฐานผลิตออกจากจีนไปยังภูมิภาคต่างๆ หนึ่งในนั้นเราตั้งความหวังว่าจะมี “ไทย“ รวมอยู่ด้วย

มองผิวเผินเหมือนว่า ”ไทย“ อาจได้อานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่าง ”สหรัฐ“ และ ”จีน“ …แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนบอกว่า เป็นการมองเพียงด้านเดียวแบบคิดเข้าข้างตัวเองด้วย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ”ทรัมป์“ ก็อ่านเกมนี้อยู่ และกำลังจับตาดูอยู่ว่า ผู้ประกอบการที่หนีออกจากจีนนี้ย้ายไปไหนบ้าง ที่สำคัญ ”ทรัมป์“ คงปาดนิ้วไล่ดูในบัญชีดุลการค้าว่าที่ผ่านมาสหรัฐ “ขาดดุล” กับใครบ้าง ซึ่งชัดเจนว่า ”ไทย“ เราติดอยู่ใน 15 อันดับแรกที่ ”ทรัมป์“ ไล่นิ้วจิ้มดูอย่างแน่นอน อยู่ที่ว่าพญาอินทรีย์จะโฉบลงมาขย้ำเหยื่อตัวนี้เมื่อไหร่ 

น่าเสียดายว่า ”เศรษฐกิจไทย“ ที่เพิ่งจะกลับเข้าสู่โหมดการฟื้นตัวใกล้เคียงศักยภาพ เป็นการฟื้นตัวที่ดีสุดนับจากวิกฤติโควิด แต่ยังดีไม่พอที่จะทำให้คนในประเทศรู้สึกถึงคำว่า “ดี” ก็อาจต้องมาเผชิญกับความซบเซาตกต่ำอีกครั้ง เพราะในวันที่ “ทรัมป์” ชี้นิ้วมายังประเทศไทย ”การค้า-การส่งออก“ ของไทยคงโดนผลกระทบชัดเจน เผลอๆ ผู้ประกอบการที่คิดจะย้ายฐานการผลิตเข้ามาไทยอาจต้องเบรกไว้ก่อน ดังนั้นเราต้องจับตาทุกการก้าวเดินของ ”ทรัมป์“ คุมสติรับมือให้ดีกับสิ่งที่ไม่คาดฝันซึ่งพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในวันที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์!