ทำไม'คนเก่ง'ก้าวไปได้ไม่สุดในองค์กร

ทำไม'คนเก่ง'ก้าวไปได้ไม่สุดในองค์กร

ความฉลาด ความเก่ง ความรอบรู้ การเป็นดาวเด่นในที่ทำงาน การได้มีโอกาสเป็น Keyman ของโปรเจกต์สำคัญหลาย ๆ เรื่อง หากมองในแง่ความก้าวหน้าก็ถือว่าเป็นคนทำงานที่ฉายแววโดดเด่น มีโอกาสไปได้ไกลในสายงานมากกว่าคนอื่นๆ

แต่ความสำเร็จที่ได้รับในขั้นแรกๆ ของการทำงานนี่แหละ ที่บางครั้งก็อาจเป็นดาบสองคม ทำให้คนเก่งหลายๆ คน ติดกับดักความเก่งของตัวเอง จนในที่สุดไม่สามารถไปได้ไกลในสายงานได้ตามที่มุ่งหวัง

เหตุผลที่คนเก่งๆ ไปไม่สุด ก็เพราะผู้นำองค์กร

คนเก่งบางคนอาจโชคไม่ดี ไปเจอเจ้านายที่ เห็นแก่ตัว หยิ่งผยอง ไม่ฟังความคิดเห็นของคนอื่น เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล รวมถึงประเภทที่เดาใจไม่ถูก รับมือได้ยาก สามวันดีสี่วันเพี้ยน ทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด ตลอดจนหัวหน้าที่ดีแต่เล่นเกมการเมืองในบริษัท และเลือกที่รักมักที่ชัง พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เข้าข่าย 'Toxic' เต็มไปด้วยพิษทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน คนเก่งที่หัวหน้า มักจะจ่ายงานด่วนหรืองานสำคัญเข้ามาอยู่เสมอ ไม่ไว้ใจใคร นอกจากคนเก่งคนนี้ คนเก่งคนนี้เลยกลายเป็น 'เดอะแบก' ขึ้นมา

เพราะเวลาที่มีใครทำงานได้เร็ว งานดี มีคุณภาพ คนๆ นั้นก็จะถูกโยนงานให้เรื่อยๆ! ซึ่งต่อให้จะเก่งแค่ไหน แต่งานที่โหลดมากเกินไป ก็ทำให้ผิดพลาด เหนื่อยล้า และ 'หมดไฟ' ได้ง่ายๆ

เมื่อวันก่อนผู้เขียนได้อ่านงานวิจัยฉบับหนึ่งของต่างประเทศ เขารวบรวมเหตุผลที่คนเก่งๆ ตัดสินใจลาออกจากองค์กร ผ่านการสัมภาษณ์เมื่อพนักงานลาออก (Exit Interview)

พบว่ามีสถิติบางอย่างน่าสนใจ

- 40% ของพนักงานเก่งๆ ที่ลาออก ตอบว่าเขาไปเพราะไม่เชื่อถือและศรัทธาในตัวผู้นำองค์กร

- 50% บอกว่าเขาตัดสินใจจากไปเพราะมีความคิดเห็นหรือแนวทางในการทำงานที่แตกต่างจากผู้นำองค์กร

- 60% ตัดสินใจเปลี่ยนงานเพราะคิดว่าสิ่งที่องค์กรหยิบยื่นให้ เช่น งานใหม่ หรือ ตำแหน่งใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่ตนเองต้องการและไม่ตรงกับความสามารถที่มี

- 70% ลาออกเพราะรู้สึกว่าตั้งแต่ทำงานมาไม่ค่อยได้รับคำชมเชยจากตัวผู้นำองค์กร แต่ถ้าทำพลาดมักถูกตำหนิอย่างรุนแรง

ผลการสำรวจนี้ดูจะสอดคล้องกับคำพูดของกูรูด้านการบริหารจัดการหลายท่านที่ยืนยันตรงกันว่า “พนักงานเข้าทำงานเพราะองค์กร แต่ลาออกเพราะพฤติกรรมของตัวผู้นำองค์กร” (People join organization but leave their leader)

เหตุผลที่คนเก่งๆ ไปไม่สุด ก็เพราะตัวเองไม่ใช่ใครอื่น

เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมคนเก่ง ดาวเด่น ก้าวไปได้ไม่สุดในองค์กร จากประสบการณ์และจากการศึกษา ผู้เขียนพอสรุปได้ เหตุผล  ที่ว่าทำไมบางคนถึงไม่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะฉลาดและขยันมาก ดังนี้

คนเก่งที่เก่งคนเดียว ทำทุกอย่างคนเดียว

ไมเคิล จอร์แดน ได้กล่าวไว้ว่า “มีคนเก่ง อาจทำให้ชนะแค่หนึ่งเก่ง แต่ถ้ามีทีมเก่ง จะทำให้ได้แชมป์”

การที่คนเก่งชอบทำอะไรเองทุกอย่าง

เป็นพวก Perfectionist หลงตัวเอง ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลการที่คนเก่งชอบทำอะไรเองทุกอย่าง ชอบให้ทุกอย่างเป๊ะๆ พอคนอื่นทำไม่ได้ดั่งใจ ก็เลยเกิดความไม่ไว้ใจ ต้องลงมือทำทุกอย่างเพียงลำพัง ประกอบกับอยากได้หน้าโชว์ความเก่งของตัวเองแบบเต็ม ๆ ก็ยิ่งไม่ปล่อยให้เพื่อนร่วมงานได้ทำหน้าที่ตามที่ควรจะเป็น คนเก่งประเภทนี้หากต้องเจองานที่ใหญ่ที่ต้องใช้ทีมงานหมู่มากในการทำงาน รับรองว่าไปต่อไม่ได้ เพราะไม่ถนัดทีมเวิร์คนั่นเอง

คนเก่งที่ดีจะต้องสามารถทำงานคนเดียวและทำงานเป็นทีมได้ กล่าวคือ คนเก่งที่มีความสามารถจะต้องลุยงานเดี่ยวๆ ได้ด้วยตนเอง โดยปราศจากผู้ช่วยหรือการชี้นำจากผู้อื่น ในขณะเดียวกัน คนเก่งก็ต้องมีความสามารถในการร่วมงานกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน เพราะการทำงานส่วนใหญ่เกิดจากการร่วมมือของหลายๆ ภาคส่วน มีการแชร์ไอเดีย และ Brainstorm เพื่อให้องค์กรแข็งแกร่ง และมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

คนเก่งที่ไม่สนใจระบบอาวุโส

คนเก่งก็มักจะมีอคติกับบรรดารุ่นพี่ในที่งานว่า ฉันเด็กกว่า ฉันเก่งกว่า คนเก่าคนแก่ไม่ทันยุคสมัย อะไร ๆ ก็ชักช้า ไม่ทันโลกสักอย่าง หรือที่แย่กว่าก็คือเลือกปฏิบัติ ทำดีเฉพาะกับผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งใหญ่ มีสิทธิตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ นอกนั้นมองไม่เห็นหัว ไม่จำเป็นต้องอ่อนน้อมถ่อมตนกับใคร ก็เป็นแบบนี้ใครจะถูกชะตา คะแนนติดลบในสายตาเพื่อนร่วมงานแบบสุด ๆ

คนเก่งที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว

คนเก่งทั้งหลายพอคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ก็พอแล้ว ไม่ต้องรับรู้อะไรอีก หยุดพัฒนาตัวเองไปโดยปริยาย ลืมไปว่าโลกทุกวันนี้มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนเก่งที่ติดกับดักความสำเร็จในอดีตของตัวเองก็จะไม่ยอมขวนขวายต่อยอดความรู้ใหม่ ๆ สุดท้ายก็โดนเด็กรุ่นใหม่หรือคนที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอแซงหน้าไปไกล ทิ้งกันแบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว

เป็นคนเก่งที่ไม่ดี

การเป็นคนเก่ง แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติของการเป็นคนดี มีคุณธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องร้าย ๆ หรือปัญหายุ่งยากในการทำงานเสมอ จะด้วยความประมาท หรือเคยทำให้คนอื่นผูกใจเจ็บไว้มาก สุดท้ายปัญหาต่าง ๆ ก็จะประดังประเดเข้ามา เพื่อนร่วมงานก็หนีหน้าไม่ให้ความช่วยเหลือ สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร แพ้ภัยตัวเองในที่สุด

ตบท้าย ข้อคิดสำหรับคนเก่งยุคนี้ 

“ในโลกนี้ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ เพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ‘ตนเองเก่ง’ จงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว” คุณธนินท์ เจียรวนนท์กล่าวไว้