หากินกับกระแส รวยเร็ว ไปเร็ว และ...ซวยเร็ว !?

ผู้ประกอบการที่คิดจะสร้างกระแสต้องคำนึงถึงคุณภาพและความคุ้มค่าเป็นหลัก ขณะที่ผู้บริโภคควรใช้ "สติ" ในการตัดสินใจเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกระแส
KEY
POINTS
- การทำธุรกิจกับกระแสสามารถสร้างรายได้ได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่ม "ชาวกระแส" ตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์และต้องการตามเทรนด์ในโซเชียลมีเดีย
- ธุรกิจที่โด่งดังจากกระแสอาจล่มสลายอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน หากคุณภาพสินค้าและบริการไม่ดีพอ หรือไม่สามารถจัดการกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ทัน
- สื่อออนไลน์บางส่วนใช้กระแสเชิงลบเพื่อสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้ประกอบการ แล้วหาผลประโยชน์จากการจัดสัมมนาหรือขายทางแก้ปัญหา
- ผู้ประกอบการที่คิดจะสร้างกระแสต้องคำนึงถึงคุณภาพและความคุ้มค่าเป็นหลัก ขณะที่ผู้บริโภคควรใช้ "สติ" ในการตัดสินใจเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกระแส
Part.1.ว่าด้วยเรื่องกระแสกับคนไทย
ผมเชื่อว่าเรื่องการตามกระแสของคนไทย ไม่แพ้ใครในโลก ประเภทของมันต้องมี (มือถือรุ่นใหม่ ของใช้เกี่ยวกับเทคโนโลยี่ต่างๆ รุ่นใหม่หรือแม้แต่ของใช้ทั่วไปที่ออกมาใหม่ๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า
Part.2.ตกกระแสไม่ได้ เพราะรู้สึกชีวิตตกต่ำแบบกระทันหัน เฉียบพลัน!
ไหนจะเรื่องของมันต้องกิน (ชานม ชาบู ของกินย่านบรรทัดทองที่ทยอยล่มสลาย เมื่อขาดนักท่องเที่ยวจีน และInflu หลายคนไปโปรโมท รวมทั้งรสชาด คุณภาพไม่สมราคา)
ของมันต้องดู (เช่นหมีเนย)
ต่างๆ ซึ่งหลายๆตัวทยอยหายจากกระแส พร้อมยอดขายที่ลดลงไปแล้ว
กลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มกระแส เป็นกลุ่มลูกค้าที่สินค้า บริการ หากินกับกลุ่มนี้ได้ง่ายสุด เร็วสุด เพราะกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ล้วนๆ
บางส่วนตัดสินใจซื้อ ตัดสินใจกินแบบ "ไร้สติ" เพื่อให้อยู่ในกระแส "ทันโพสลงสื่อโซเชี่ยล" ให้โลกต้องรับรู้!
เรียกว่า ถ้าตั้งแต่ตื่นมาจนถึงเวลานอน ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในกระแส น่าจะมีอาการมึนงง กินอะไรไม่ลง ชีวิตกระสับกระส่ายทั้งวัน!
Part.3ไหนจะถูกถูกซ้ำเติมด้วย สื่อ Onlineรุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง
เราจะเห็นสื่อ Online รุ่นใหม่ๆ บางส่วน ที่อ้างว่า จำเป็นต้องหากินกับกระแสเชิงลบ ( สื่อประเภทนี้ เป็นสื่อ Online รุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ต่อยอด หรือทำเพิ่มจากสื่อรุ่นเก่า)
เพราะสื่อ Online รุ่นใหม่ๆ ก็ต้องทำมาหากิน มีกระแสเชิงลบปุ๊ปรีบสรุป รีบสัมภาษณ์ให้ผู้ประกอบการบางส่วนที่ขวัญอ่อน ได้ตกอกตกใจไปวันๆ
และจากข่าวกระแสเชิงลบที่ออกมาหลังจากนั้น ข้อเท็จจริงแทบไม่ได้เป็นไปตามนั้น!
ระหว่างสร้างกระแสเชิงลบของสื่อ Online รุ่นใหม่บางส่วนนี้ สร้างกระแสเชิงลบไป ก็จัดสัมมนาเก็บเงินหากินกับผู้ประกอบการขวัญอ่อน ขายกระแสเชิงลบ พร้อมเชิญวิทยการบอกทางแก้ แบบฟุ้งๆ แบบคิดไปเอง มั่วไปเอง แต่ได้ค่าตัวจากที่ไปพูด จนสื่อ Online รุ่นใหม่และวิทยากรที่หากินกับกระแสนี้พุงปลิ้นไปเรียบร้อยตามๆกัน
เท่านั้นยังไม่พอ สื่อประเภทนี้ยังควานหาข่าวเชิงลบที่อยู่ไกลคนละโลกคนละทวีปกับไทย ที่มีโอกาสส่งผลกระทบเชิงลบน้อยมาก
และการประชุมระดับโลก ที่จัดกันโดยเลือกข้อมูลเชิงลบ และยังสรุปหนังสือที่แปลจากต่างประเทศ มาเตรียมทำมาหากินขายกระแสเชิงลบต่อไป
อย่าบอกนะครับว่าท่านก็เป็นเหยื่อให้สื่อ Online ประเภทนี้มาแล้ว อยู่และเป็นเหยื่อกระแสลบ
Part.4 :หยุดเป็นเหยื่อกระแสด้วย....
“สติ” แล้วปัญญาจะค่อยๆตามมา
หรือไปในอีกทิศทางนึงเลย ธุรกิจเรา สินค้าบริการของเรา จะหากินกับกระแสอย่างมีความภาคภูมิใจ ไม่หลอก ผู้บริโภคได้อย่างไรบ้าง?
เช่น พ่วงสินค้าบริการที่อยู่ในกระแสโดยเรายอมรับส่วนแบ่งรายได้เพียงน้อยนิด เพื่อให้สินค้า บริการเราอยู่ในกระแสแล้วต่อยอดสินค้าบริการของเราให้ได้เป็นต้น
Part.5.กระแสพาให้รุ่งได้และร่วงได้เร็วกว่าที่คิด
ลองสังเกตุกระแส...
หลายกระแส ถูกจุดขึ้นมาโดยบังเอิญ ทำให้สินค้า บริการตัวนั้น โด่งดังในชั่วข้ามคืน
เมื่อกระแสของสินค้า บริการมา บรรดา ผู้ที่ชีวิตขาดกระแสไม่ได้ ก็กระโจนเข้าไปใช้บริการ
แต่เนื่องจาก สินค้า บริการหลายๆตัวนั้น ไม่ได้คาดคิดว่าจะติดกระแส เลยตั้งตัวไม่ทัน สินค้าหมด บริการมีปัญหา รอช้า สารพัดปัญหาถาโถมเข้ามา
ทั้งหน้าบ้าน และ หลังบ้านตั้งตัวไม่ทัน จากที่โด่งดังดึงดูดบรรดา “ชาวกระแส” ไปใช้บริการ ก็กลายเป็น ดึงดูดชาวกระแส ไปถล่มสินค้า บริการตัวนั้นจนดับไปในชั่วข้ามคืนเช่นกัน!
หรือบางสินค้า- บริการ ตัวคุณภาพของสินค้า ไม่สมราคา แต่ตั้งใจสร้างกระแส เพื่อให้ขายดี กลายเป็นสร้างกระแสแล้วดับสินค้าบริการของตัวเอง!
ถ้าจะสร้างกระแส อย่างมีคุณภาพ ของสินค้า บริการและ แบรนด์สื่อโซเชี่ยลมีหลายตัวที่สร้างกระแสได้ ที่โดดเด่นก็เป็น tiktok
หรือจะใช้ผสมผสานต่อยอดกันกับตัวอื่นๆก็ได้
Part.6.สรุปแล้ว...
อย่าเป็น “ชาวกระแส” ที่ตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ มากกว่าเหตุผล
และถ้าจะเป็นผู้สร้างกระแส ก็ให้คิดถึงคุณภาพ ความคุ้มค่า ที่ลูกค้าต้องจ่าย
กระแสก็จะกลายเป็นเรื่องปกติที่ ไม่ทำให้คนเปลี่ยนและเพี้ยนไปอย่างที่เห็นในทุกวันนี้.







