สร้าง 7 อุปนิสัยดีๆ หลังโควิด

สร้าง 7 อุปนิสัยดีๆ หลังโควิด

เกือบ 2 ปีแล้วที่โควิด-19 อยู่กับเรา ไวรัสตัวนี้ได้สอนอะไรๆ ให้มนุษย์โลกมากมาย ชีวิตได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ นานัปการ

บทความโดย รศ.วิทยา  ด่านธำรงกูล คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

[email protected]

ในระหว่างนี้ อะไรไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิด ไม่คิดว่าจะเห็นก็เห็น อย่าปล่อยให้สองปีกลายเป็นความว่างเปล่าของชีวิต เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดแล้วมาสร้าง 7 อุปนิสัยดีๆ หลังโควิด-19 กัน

ปรับตัวเร็ว ยืดหยุ่นเต็มที่ นิสัยนี้ควรจะต้องมีกันทุกคน ไม่มีใครไม่ปรับตัวในยุคโควิด และอย่าให้การปรับตัวเป็นแค่ประสบการณ์ชั่วคราวที่หลังโควิดแล้วจะหวนกลับไปสู่นิสัยเดิมที่อยากทำแบบเดิมๆ ไม่อยากเปลี่ยนแปลง แต่คอยคาดหวังให้ชีวิตไปสู่ทางที่ดีขึ้น คนที่อยู่รอดคือคนที่ปรับตัวได้เร็วที่สุด ดาราขายน้ำพริก นักร้องขายขนม หัวหน้าทัวร์ผันมาเป็นเชฟ นักบินเป็นช่างล้างแอร์ ในที่สุดจะพบว่าเรามีความสามารถที่หลากหลายอย่างไม่เคยคาดคิด และจะกลายเป็นความภูมิใจในที่สุด บางคนตกงานเพราะโควิด มีคนเสนองานให้ กลับบอกว่า “แบบนี้ไม่ใช่แนวของหนู” หรือ “ผมไม่ค่อยถนัดแบบนี้” ไม่ปรับตัวแม้ในยามยากเช่นนี้ก็ขอให้โชคดี

ใช้เวลาในบ้านให้มากขึ้น โควิดบังคับให้ทุกคนอยู่บ้านมากขึ้น ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น การ WFH พิสูจน์แล้วว่าทุกคนทำได้ แม้จะเจอปัญหาและอุปสรรคจากความไม่คุ้นเคยและปัญหาเทคนิคอยู่บ้าง ต่อจากนี้กฎกติกาขององค์กรต่างๆ จะไม่ใช่ข้อจำกัดที่กีดกันการทำงานที่บ้าน ให้เวลากับคนที่บ้านที่เราละเลยกันมานานจะได้ลดปัญหาครอบครัว งดหรือลดนิสัยการเที่ยวเตร่ในที่อโคจรที่เห็นแล้วว่าไม่รักษาระยะห่างทางสังคม ไปห้างไปศูนย์การค้าน้อยลง ไปก็ตรงดิ่งไปซื้อของที่ต้องการ ไม่เตร็ดเตร่ใช้เวลากับเรื่องไม่จำเป็น นิสัยนี้จะทำให้ความสุขในครอบครัวมีมากขึ้นพร้อมกับเงินในกระเป๋าที่เพิ่มขึ้นด้วย

บริหารเวลาให้ดี หลายคนวุ่นวายกับชีวิตตลอดเวลาเมื่อทำงาน ตื่นสาย เข้างานไม่ทัน ส่งงานไม่ได้ ลูกค้าตามของ ลูกเจ็บไข้ ฯลฯ หัวหมุนไปหมดกับชีวิต พาลให้กลายเป็นโรคเครียดหรือซึมเศร้า เมื่อได้ชีวิตในบ้านกลับมาจะพบว่าชีวิตมีเวลาเหลือ หากจัดเวลาหรือบริหารเวลาให้เป็น เช้าได้ออกกำลัง สายได้สอนลูกที่ต้องเรียนออนไลน์อยู่กับบ้าน บ่ายทำงานของตัวเองได้เต็มที่ เย็นเป็นเวลาครอบครัว ดึกอาจจะทำงานของวันพรุ่งนี้เตรียมไว้เผื่อฉุกเฉิน แม้อยู่กับบ้านมากขึ้นแต่หากไม่มีนิสัยบริหารเวลา ชีวิตก็เละเทะได้เหมือนกัน เวลาที่ได้กลับคืนมาโดยเฉพาะการเดินทางที่ลดลง การเตร็ดเตร่ที่ลดลง ควรเอามาจัดสรรเพื่องานและคุณภาพชีวิตหลายเรื่องที่ละเลยมานาน

ทำบัญชีรับ-จ่ายและเป็นนักงบประมาณ  เงินก็เหมือนเวลาที่ต้องจัดสรรอย่างฉลาด เมื่อต้องเจอความไม่แน่นอน จดบันทึกค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้นเพื่อตรวจสอบว่าอะไรใช้มากใช้เกินไปบ้าง ที่สำคัญกว่านั้นไม่ใช่แค่สร้างนิสัยจด แต่ควรเป็นนักงบประมาณจัดสรรค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ค่าไฟค่าน้ำไม่ควรเกินเท่าไรต่อเดือน ค่าอาหารไม่ควรเกินเท่าไร ค่าใช้จ่ายส่วนตัวควรเป็นเท่าไร ฝึกทำให้เป็นนิสัยเสมือนว่าความไม่แน่นอนจะเป็นเพื่อนสนิทของเราเสมอนับจากนี้เป็นต้นไป เชื่อเถิดว่าการจับจ่ายก่อนหน้าโควิดนั้นมีรายการจำนวนมากที่ไร้เหตุผล มากมายเกินจำเป็นจนไม่น่าเชื่อ หากอยู่บ้านมีเวลาลองรื้อข้าวของที่ซุกที่สุมอยู่ตามมุมนั้นมุมนี้ออกมาจะรู้ว่าเราจ่ายเกินพอดีหรือไร้เหตุผลมากขนาดไหน ช่วงโควิดจะพบว่าการอยู่อย่างพอดีๆ จ่ายอย่างพอดีๆ ก็ทำได้และควรทำมาตั้งนานแล้ว ของบางอย่างในบ้านหากทำเองได้จะประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนทำน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน สบู่ล้างมือใช้เอง เดี๋ยวนี้สูตรและส่วนผสมมีมากมายทั้งออนไลน์ออฟไลน์ ราคาแค่ 1 ใน 3 จากที่เคยจ่าย ทำง่ายๆ สนุกด้วย ภูมิใจด้วย

ลดเวลาหน้าจอที่ไม่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะเรื่องชาวบ้านและเรื่องรอบตัวที่มีแต่จะทำให้เปลืองเวลา เปลืองสมอง วิตกจริตและเครียด อย่าไปเสียเวลากดไลค์ กดแชร์ หรือคอมเม้นท์ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องของเรามากพอแล้ว บางข่าวไม่ทันคิดก็แชร์กันไปต่างๆ นานาทำสังคมปั่นป่วนใช่ที่ อย่างเรื่องการฉีดวัคซีน กระหน่ำแชร์ กระหน่ำโพสต์ จะแพ้บ้างล่ะ จะตายบ้างล่ะ ข่าวร้ายไปเร็วเสมอ หมอพูดไม่ค่อยฟัง ฟังแต่ใครไม่รู้ ข่าวพวกนี้มีแต่ทำให้เครียด ห่างๆ เข้าไว้ อ่านแล้วก็วาง อย่าไปสนใจให้มาก นิสัยไม่ยุ่งกับเรื่องชาวบ้านเป็นนิสัยที่ควรจะมีเป็นอย่างยิ่งในการใช้โซเชียลมีเดีย ทั้งนี้รวมไปถึงภาคบันเทิงและการติดตามคนดังทั้งหลาย คอนเทนต์บางอย่างเสพแต่พองาม หางานทำเพื่อลดเวลาหมกมุ่นอยู่กับหน้าจอ ไม่อย่างนั้นนิสัยที่ 3 เรื่องการบริหารเวลาจะพังได้

มีแผนสองเสมอ นับจากนี้ต้องเผื่อใจและเผื่ออนาคตไว้เสมอ เป็นคนมีแผนสอง มีอาชีพที่สอง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ให้คิดเสมอว่าว่าไม่เคยมีอะไรแน่นอน การบริหารความเสี่ยงในชีวิตที่ดีที่สุดคือให้เริ่มคิดว่าความเสี่ยงจะเกิดในชีวิตพรุ่งนี้เสมอ ต้องหัดนิสัยหมั่นสร้างฉากทัศน์ (scenario) ในชีวิตไว้เสมอ เช่น ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีงานจะทำอย่างไร ถ้าพรุ่งนี้เงินที่สะสมไว้จะหมดไปด้วยเหตุผลใดก็ตามจะทำอย่างไร ถ้าตัวเองหรือคนรอบข้างเจ็บป่วยรุนแรงจะทำอย่างไร ฯลฯ ชีวิตอยู่บนความไม่แน่นอน คนรอดคือคนที่คิดแผนสองแผนสาม เตรียมการกับชีวิตเสมอ

ปลงให้เป็น ทำทุกอย่างด้วยอุปนิสัยข้างต้นแล้วก็ยังไม่พ้นจากปัญหาก็ต้องปลง นิสัยนี้จำเป็นแม้ว่าจะยากที่สุด หลายคนติดอยู่กับความรุ่งเรืองฟู่ฟ่าในอดีต ติดการใช้ชีวิตหรูหราในเวลาที่อาชีพการงานมั่นคง ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะเข้าสู่ความคับขัน จึงปลงยาก ทำใจยาก หมกมุ่นอยู่กับอดีตจนไม่อาจเริ่มต้นใหม่ ต้องสร้างอุปนิสัยตัดใจให้เร็ว ปลงให้เร็วที่สุดเพื่อไปสู่อุปนิสัยที่ 1 ให้ได้

7 อุปนิสัยข้างต้นจะสร้างได้ก็ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของ “สติ” สติมา ปัญญาเกิด หากไม่มีสติก็ยากจะสร้างอุปนิสัยใดๆ ได้ ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะดึงตัวเองกลับมาอยู่บนความมีสติ ใคร่ครวญให้มากในสิ่งที่เคยทำมาและจะทำต่อไป ทุกเรื่องต้องสร้างเอง ทำเอง ไม่มีปาฏิหาริย์ สติจะนำพาให้สามารถสร้าง 7 อุปนิสัยดีๆ เหล่านี้ที่จะพาให้ชีวิตรอดพ้นได้ไม่ว่าจะเผชิญสถานการณ์ใดๆ

 มาใช้ห้วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ สร้าง 7 อุปนิสัยดีๆ เพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองกันดีกว่า.