วิสัยทัศน์จับตลาด ‘LGBTQ

วิสัยทัศน์จับตลาด  ‘LGBTQ

มิ.ย. ถือเป็นเดือนที่ให้ความสำคัญกับสิทธิของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ

ในปัจจุบัน มิ.ย. ถือเป็นเดือนที่จะมี Pride parade การเดินขบวนอันมีสีสันและความสนุกสนานซึ่งนำโดยกลุ่ม LGBTG ในเมืองใหญ่หลายแห่งในโลก อาทิ นครนิวยอร์ก กรุงลอนดอน กรุงปารีส และกรุงไทเป เป็นต้น

การเดินขบวน Pride parade ที่มักเต็มไปด้วยเสียงดนตรี ธงสีรุ้ง และกลุ่มคน LGBTQ และผู้ที่สนับสนุนในเครื่องแต่งกายที่มีสีสันฉูดฉาดดึงดูดความสนใจ หรือการนุ่งน้อยห่มน้อยภายใต้อากาศที่แสนจะร้อนของเดือน มิ.ย. นั้นถือเป็นสีสันเป็นภาพจำของคนส่วนใหญ่ และก็เป็นการยืนยันถึงความเท่าเทียม สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกในความเป็นตัวตนของ LGBTG ซึ่งถือเป็นคนส่วนน้อยในสังคม

เพราะการต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อความเท่าเทียมกันกับคนทั่วไปในสังคมของกลุ่ม LGBTQ จึงทำให้ในปัจจุบันสังคมในประเทศอารยะส่วนใหญ่ได้เปิดกว้างและยอมรับสิทธิเสรีภาพของคนกลุ่มน้อยนี้ สังเกตได้จากกฎหมายการรับรองสถานภาพการแต่งงานในเพศเดียวกันซึ่งในปัจจุบันเกิดขึ้นแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

ไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้เข้าร่วมขบวนประเทศชั้นนำที่ให้สิทธิ LGBTQ ในการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างถูกกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติคู่ชีวิตเมื่อปี 2563 ซึ่งถือเป็นก้าวแรกเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาสิทธิเสรีภาพของคนกลุ่มนี้ให้ทัดเทียมกันมากขึ้น

ในทางสังคม สังคมไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดกว้างต่อกลุ่ม LGBTQ และถือว่าเปิดกว้างมากกว่าประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีความเคร่งครัดทางศาสนา ดังนั้นจะเห็นได้ว่าประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯและพัทยานั้นถือเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวในกลุ่ม LGBTQ

หากมองด้วยใจที่เป็นธรรมและเปิดกว้างแล้ว มหกรรมความรื่นเริงและการรวมตัวกันของกลุ่ม LGBTG และผู้ที่สนับสนุนแนวคิดนี้นั้น แท้จริงแล้ว ถือเป็นเรือธงที่จะนำพานักท่องเที่ยวและเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของเมืองนั้น ๆ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งจะได้รับผลประโยชน์ทางตรง

สถิติตัวเลขของการท่องเที่ยวในภาวะปกติ จะพบว่าไทยนั้นมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปีจนแตะระดับ 40 ล้านคนต่อปี ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯนั้นได้รับการโหวตให้เป็นประเทศ/เมืองที่นักท่องเที่ยวจะมาเยือนในระดับต้น ๆ ของโลก ด้วยเหตุผลเพราะ ค่าครองชีพที่ถูก ความครบรสของการท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม ความสนุกสนาน บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน และผู้คนที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคนต่อปีนี้ใช้จ่ายเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 40,000-50,000 บาทต่อคน ดังนั้นผลรวมของเม็ดเงินเข้าประเทศจึงสูงถึง 3 ล้านล้านบาทต่อปี ถือเป็นเส้นเลือดหลักในการพยุงระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นเงินที่มาหล่อเลี้ยงกลุ่มผู้ทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวนี้ลดลงทุกปีอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นภาครัฐและททท.จึงควรให้ความสนใจกับการเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวให้เพิ่มมากขึ้น ความสนใจมุ่งเป้าเฉพาะการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบเดียวที่ถูกต้อง

การทำแคมเปญท่องเที่ยวไทยที่จะมาจับกลุ่ม LGBTQ จึงอาจเป็นหนึ่งในทางเลือกคำตอบ เพราะกลุ่ม LGBTQ นั้นมีกำลังซื้อที่สูงและมีรสนิยมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ความสนุกสนาน เพราะภาระความรับผิดชอบที่น้อยกว่าในทางสังคมและครอบครัว ประกอบกับภาพลักษณ์ของประเทศไทยอันเป็นที่นิยมแต่เดิมของกลุ่ม LGBTQ อยู่แล้ว เรียกได้ว่า ทำได้ง่าย ทำได้เร็วและได้เงินมากด้วย

การคิดนอกกรอบ การทดลองแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่พินาศเพราะโควิด-19 นั้นมีความจำเป็นอย่างมาก หากรัฐไม่ริเริ่มหรือมองไม่เห็นโอกาสนี้ ภาคเอกชนจำต้องร่วมมือและเริ่มกันเองก่อนครับ