คาถาป้องกันภัยต้มตุ๋น

คาถาป้องกันภัยต้มตุ๋น

ข่าวอาชญากรรมในบ้านเราในปัจจุบัน มีอยู่สองเรื่องคือ การฆ่ากันตายเพราะความหึงหวง กับการตุ้มตุ๋นเงินประชาชน

                    แต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมมนุษย์ที่ถูกกำกับโดย “รัก  โลภ  โกรธ หลง    มาตลอดประวัติศาสตร์มนุษยชาติแล้วก็พอเข้าใจ   อย่างไรก็ดีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดมันจึงปะทุขึ้นรุนแรงจนเป็นข่าวทุกวัน

                        ผู้เขียนได้เขียนถึงการคล้อยไปตามอารมณ์จนถูกต้มตุ๋นเป็นพิเศษของหญิงชายสูงอายุไปแล้วเมื่อสองอาทิตย์ก่อน   ครั้งนี้ขอกล่าวถึงการต้มตุ๋นคนทั่วไป  ขอเริ่มตรงที่ว่าสังคมเอเชียเราพยายาม “รักษาหน้า กัน  ดังนั้นคนที่ถูกต้มตุ๋นจึงมักจะปิดปากเงียบไม่บอกใคร   บางครั้งแม้แต่ภรรยาหรือสามีหรือลูกหลานก็ไม่รู้

                        เหตุใดจึงถูกต้มตุ๋น?   มนุษย์นั้นมิได้อยู่อย่างสุขด้วยความสุขสบายทางกายเท่านั้น   หากลึกเข้าไปในใจแล้วยังมีความต้องการการชดเชยทางจิตวิทยา เช่น   การมีตัวตนผ่านการยอมรับจากครอบครัวและผู้อื่น  การได้รับความรัก   การเห็นคุณค่าของตนเองจากพ่อแม่และคนรอบข้าง     ฯลฯ

                        อีกปัจจัยหลักที่เอื้อให้เกิดการต้มตุ๋นก็คือความโลภ หรือการอยากได้อยากมีที่เกินเหตุ และเมื่อมีมนุษย์บางพันธุ์ที่ไม่ต้องการทำงานหนัก และซื่อตรงแบบชาวบ้าน     หากต้องการรวยเร็วและขาดคุณธรรม   กอปกับตัวเองมีคุณสมบัติในเรื่องความลื่นและการพูดโน้มน้าวใจคน เมื่อมาพบกับความต้องการการชดเชยทางจิตวิทยาและความโลภของผู้คนบางกลุ่มมันจึงเกิดเป็นการต้มตุ๋นขึ้น

                        การถูกต้มตุ๋นที่เกิดจากการมีคุณธรรมของผู้ถูกต้มตุ๋นก็มีไม่น้อย  การมีจิตใจดีเห็นอกเห็นใจผู้อื่นที่ตกอยู่ในความลำบากก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความช้ำใจได้เช่นกัน    โดยสรุปปัจจัยที่ทำให้ถูกต้มตุ๋นคือ  (1) ความต้องการการชดเชยทางจิตวิทยา  (2) ความโลภ (3) ความมีจิตใจดีมีคุณธรรมจนเกิดจุดอ่อน

           วิธีต้มตุ๋นใดที่ทำให้เสียเงินได้ง่ายของคนจำนวนมาก?  ความโลภนั้นไม่เข้าใครออกใคร   ถ้าได้ยินการได้รับผลตอบแทนที่สูงและง่ายนั้นมนุษย์ปกติทุกคนต้องหูผึ่ง แต่จะเกินจุดนั้นจนถูกหลอกลวงได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสติและปัญญาของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน  วิธีการต้มตุ๋นที่ทำให้เสียเงินได้มากของคนจำนวนมาก และกระทำกันอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่มีคนเข็ดก็คือวิธีที่ทั้งโลกรู้จักกันในนามของ Ponzi Scheme (ไทยเรียกแชร์ลูกโซ่หรือแชร์แม่ชม้อยในทศวรรษ 1920 โดยเรียกตามชื่อของยอดนักต้มตุ๋นชาวอิตาลีชื่อ Charles Ponzi (พอนชี่ที่หลอกลวงให้คนอเมริกันลงทุน และให้ผลตอบแทนที่สูงมาก   เขาอ้างว่าไปลงทุนในต่างประเทศซึ่งเมื่อฟังแล้วน่าอัศจรรย์ใจในความฉลาดหลักแหลม   แต่แท้จริงแล้วมิได้ลงทุนแต่อย่างใดเพราะไม่มีการลงทุนใดที่จะได้รับผลตอบแทนสูงขนาดนั้น   สิ่งที่กระทำก็คือเอาเงินลงทุนของคนที่เข้ามาใหม่จ่ายให้แก่คนเก่า  วนเป็นงูกินหางอย่างนี้จนมีเงินก้อนใหญ่ในมือ

                       บ่อยครั้งที่จะกระจายการต้มตุ๋นหรือการลงทุนให้กว้างขวางขึ้นด้วยการจัดกองทัพลงไปเป็นชั้น ๆแบบพีระมิดเพื่อหาเงินเข้ามาให้ได้มากที่สุดอย่างเร็วที่สุดแล้วก็เบี้ยวไม่จ่าย  หลอกล่อต่อไปหรือไม่ก็หายตัวไปเลย   วิธีนี้ได้เกิดขึ้นก่อนแล้วกว่า 50 ปีในในเยอรมนี   และในนวนิยายหลายเรื่องก่อนที่ Ponzi จะเลียนแบบ และมีผู้ใช้วิธีเดียวกันอีกนับร้อยนับพันครั้งในประเทศต่าง  ในเวลากว่า 150 ปี ที่ผ่านมา  ครั้งใหญ่ล่าสุดคือกรณีของนาย Bernard Madoff ในระหว่างทศวรรษ 1990 ถึงกลางทศวรรษ 2010   ผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่ไว้วางใจของผู้คนในตลาดหุ้นสหรัฐ   วิธีการ Ponzi ของเขามีวงเงินสูงถึง 64,800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณกว่า 2 ล้านล้านบาท)

                        การต้มตุ๋นวิธีการนี้จะได้ผลเมื่อมีความไว้วางใจกลุ่มเจ้าของโครงการลงทุน  พวกเขาจะมีรูปถ่ายกับคนสำคัญและเรื่องราวในโซเซียลมีเดีย  ทั้งเก่ง   ฉลาด   จิตใจดี  รู้จักคนมากมาย มีอิทธิพล “เข้านอกออกใน” ได้   และประการสำคัญให้ผลตอบแทนที่สูงมาก  ในบ้านเราการต้มตุ๋น Ponzi มีมาตลอดให้ได้ยินแต่ที่ยังไม่ได้ยินและกำลังดำเนินการอยู่ก็มีอีกหลายวง  ที่ถูกหลอกไปแล้วก็มีอีกหลายวง  วิธีการหลอกอาจปรับเปลี่ยนไปบ้างแต่หลักการใหญ่ก็คือ ให้ผลตอบแทนสูงมาก   หัวโจกน่าเชื่อถือ    ลงทุนอะไรชัด  ไม่รู้    ดูซับซ้อนด้วยเทคนิคแต่ดูล้ำลึกมีสายสนกลในที่ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงลิ่วได้

                        คาถาป้องกันภัยต้มตุ๋น  (1) คิดในใจเสมอว่ามีคนจะจ้อง “เล่นเงิน” เราอยู่ตลอดเวลา จึงต้องระแวดระวังรักษาเงินทองและทรัพย์สมบัติที่มีให้ดี   (2) จัดการความโลภในเรื่องเงินทองให้อยู่ในขอบเขตอย่าปล่อยให้ล่องลอย  เพ้อฝันอย่างไร้สติเป็นอันขาด (3) ถ้าใครเสนอการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินกว่าระดับที่น่าเป็นจริงได้   ก็จงรู้ทันทีว่าเป็นการต้มตุ๋น   (4) การงอกเงยของเงินทองต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวัง  อย่ากระทำการใดที่โลดโผน  อย่าเสี่ยงกับการสูญเสียที่เกินกว่าจะรับได้    การพนันคือเส้นทางความเสี่ยงที่อันตรายที่สุด  (5) รู้จักตนเองให้ดีว่าลึก  แล้วมีความต้องการการชดเชยทางจิตวิทยาในเรื่องใด   มีความเป็นคน “โลกสวย” เกินพอดีหรือไม่  มีความใจอ่อนมากน้อยเพียงใด   ฯลฯ  และ        (6) จงท่องข้อ (1) ถึง (5) ให้แม่น ๆ

                        สำหรับผู้ที่มีเงินเย็นออมในมือในยามอัตราดอกเบี้ยต่ำมากเช่นปัจจุบัน  อีกทั้งการเดินทางพบปะเพื่อนฝูงและการได้รับข้อมูลข่าวสารถูกจำกัดด้วยโควิด  แถมมีเวลาว่างอยู่กับบ้านที่จะฝันเฟื่องได้มากกว่าปกติ    หากมีใครมาชักชวนเข้าหุ้นหรือลงทุนในเรื่องใดโดยมีผลตอบแทนที่น่าตื่นเต้นก็ต้องระแวดระวังเป็นพิเศษ  เพราะฝั่งนักต้มตุ๋น 18 มงกุฎนั้น  เขาก็มีเวลาว่างให้ใคร่ครวญคิดหาวิธีใหม่  มาหลอกเราเช่นกัน.