สวัสดิการ : สิทธิ์ที่ประชาชนควรได้ ไม่ใช่ร้องขอ

สวัสดิการ : สิทธิ์ที่ประชาชนควรได้ ไม่ใช่ร้องขอ

สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รายได้ชีวิตความเป็นอยู่คนจำนวนมาก แม้ว่าภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนออกมา

พอแล้วได้ไหม กับการเข้าไม่ถึงเงินช่วยเหลือ ถึงกับทำให้คนรู้สึกหมดสิ้นหนทางจนฆ่าตัวตาย

สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รายได้ชีวิตความเป็นอยู่คนจำนวนมาก แม้ว่าภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนออกมา ในขณะเดียวกันก็ถือโอกาสช่วงเวลานี้เปลี่ยนแปลงระบบการลงทะเบียน การจ่ายเงินช่วยเหลือด้วยการโอนเงินเข้าบัญชี

ในโลกยุคใหม่ โทรศัพท์มือถือ หรือ Smart Phone แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของใครหลายคน  ยิ่งได้เห็นโลก เห็นตัวอย่างต่างประเทศให้เงินช่วยเหลือผ่านระบบโอนเงินตรงเข้าบัญชีทุกคน ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่คนจำนวนไม่น้อยของไทยอยากให้เกิดมาตรการช่วยเหลือแบบฉับไวส่งตรงความช่วยเหลือเข้ามือถือทุกคนได้เลยให้สมกับยุคไทยแลนด์ 4.0

การเปลี่ยนแปลงมาตรการการช่วยเหลือไปสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้นเป็นสิ่งที่ดีแน่ ทั้งในเชิงโอนเงินตรงให้กับประชาชนเจ้าของตัวจริงผู้มีสิทธิ์ได้โดยตรง ได้อย่างรวดเร็ว ตรวจสอบได้ ช่วยลดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นระหว่างทาง  อย่างไรก็ตามเราคงต้องยอมรับความจริงกันว่า ยังมีคนไทยอีกมากที่ไม่ได้มีมือถือ ไม่มีบัญชีธนาคาร  เพราะแม้แต่แค่จะคิดมีเงินฝากเงินเก็บยังเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนราวกับความฝัน ลำพังเงินที่หาเช้ากินค่ำสำหรับบางคนยังไม่พอประทังชีวิตให้ผ่านไปวันๆ 

แม้จะมีความตั้งใจที่ดี แต่การขับเคลื่อนมาตรการการช่วยเหลือจึงไม่ง่ายอย่างที่คิด ภาครัฐต้องพยายามเร่งดำเนินมาตรการภายใต้เวลา งบประมาณและบุคลากรที่จำกัด ต้องทำไปต้องหาทางแก้ไป  เมื่อพวกเราเห็นข่าวประชาชนบางคนต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อมาหาซื้อโทรศัพท์มือถือ หวังนำมาลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือ แต่เมื่อไม่สามารถลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือก็ท้อใจหมดสิ้นหนทางจนคิดฆ่าตัวตาย  หรือกรณีข่าวผู้พิการที่ต้องพยายามเดินทางมาธนาคารด้วยความยากลำบากไปธนาคารหลายครั้ง แต่กลับรู้สึกว่าตนเองถูกมองแบบด้อยค่า ถูกไล่ให้กลับไป ข่าวเหล่านี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกสะท้อนใจ พร้อมๆกับเกิดการตั้งคำถามว่า สวัสดิการ  เป็นสิทธิที่ประชาชนควรได้ ไม่ใช่ร้องขอ

การจัดสรรงบประมาณสวัสดิการให้กับทุกคนจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาล จึงมีแนวคิดที่จะจัดสรรสวัสดิการหรือเงินช่วยเหลือให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ที่มีความจำเป็นก่อนเป็นลำดับแรก แต่กลับกลายเป็นว่า เพราะความจน ความด้อยโอกาส ยิ่งทำให้คนเหล่านี้สุ่มเสี่ยงที่จะเข้าไม่ถึงโอกาสเหล่านี้ กลายเป็นกลุ่มคนที่ตกหล่นมากที่สุด

หลายยุคหลายสมัยเวลาเกิดเหตุการณ์วิกฤต และภาครัฐมีมาตรการให้เงินช่วยเหลือออกมา ก็จะต้องมีการถกเถียงกันว่า ทำไมบางคนได้เงิน ทำไมบางคนไม่ได้เงิน  และเมื่อมีมาตรการอะไรออกมาสักอย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่ายังมีช่องว่างแห่งความรู้เกิดขึ้น  บางคนรู้ บางคนไม่รู้  เหตุการณ์ที่ซ้ำเติมวิกฤตก็คือ คนจน คนยากลำบากที่สุด กลับกลายเป็นคนที่ไม่รู้และไม่ได้เงิน  

การออกแบบระบบสวัสดิการ และออกแบบระบบฐานข้อมูลครั้งใหญ่ของประเทศเป็นสิ่งที่พวกเราต้องคุยกันจริงๆจังๆ  ต้องช่วยกันหาทางออกกันเสียที  งบประมาณอาจมีไม่เพียงพอจัดสรรสวัสดิการได้ทุกอย่างเพียงพอสำหรับทุกคน แต่อย่างน้อยสวัสดิการพื้นฐานที่จำเป็นขั้นต่ำก็เป็นสิ่งที่ทุกคนพึงมี

  • สังคมเราต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่า สวัสดิการพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็น อะไรคือสวัสดิการพื้นฐานจำเป็นบ้าง เช่น สิทธิการเรียน การรักษาพยาบาลพื้นฐาน นั่นก็เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องพยายามจัดให้เป็นขั้นพื้นฐาน และสวัสดิการใดบ้างที่จะให้เฉพาะกลุ่ม ประเทศไทยไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจัดสรรงบประมาณฟรีสำหรับทุกสิ่งอย่างแบบต่างประเทศเพราะเราไม่ได้เก็บภาษีด้วยฐานที่สูง  แต่นั่นก็ยิ่งหมายความว่าเราควรคุยกัน ว่าเราจะออกแบบระบบสวัสดิการในอนาคตอย่างไร ทำอย่างไรเราถึงจะมีงบประมาณมาจัดสรรสวัสดิการให้มากขึ้น  เป็นไปได้ไหมที่จะต้องมีการร่วมจ่ายจากคนที่มีศักยภาพสำหรับสวัสดิการบางประเภทเพื่อความยั่งยืนของระบบสวัสดิการ  
  • การแจ้งข่าวทำให้ทุกคนได้รู้ข่าวที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนที่ทันสมัยขึ้นผ่าน Application ด้วย SMS ด้วย Email แต่สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่มการแจ้งผ่านจดหมายไปรษณีย์ ตัวแทนผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร วิธีเหล่านี้อาจจำเป็น เพราะเป้าหมายคือการออกแบบระบบรับรู้สิทธิ์สวัสดิการที่ตนเองควรได้ และทำให้คนได้รับสิทธิ์สวัสดิการนั้น อย่าให้เกิดเหตุที ก็ค่อยมาลงทะเบียนกันที ลงทะเบียนไม่มีวันจบสิ้น ลงทะเบียนกี่ทีฐานข้อมูลภาครัฐก็ไม่เชื่อมกันสักที 

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุยกันได้ คิดร่วมกันได้และสร้างให้เกิดร่วมกันได้ อนาคตประเทศไทยต้องคิด ต้องเดินหน้าเรื่องคุณภาพชีวิต  เพื่อสร้างโอกาสที่ดีให้เป็นของทุกคน  เราต้องจัดสรรสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือ ประคองคนที่อ่อนแอในยามเจ็บป่วยหรือยามจำเป็น และเดินต่อไปได้ด้วยตนเองเมื่อเข้มแข็ง แต่เราก็จะไม่ใช่ประเทศที่จะจัดสวัสดิการให้แบบสงเคราะห์  คนไม่ควรต้องมารู้สึกว่าต้องมาร้องขอ รอรับการช่วยเหลือด้วยความปราณี 

เพราะถ้าเลือกได้ คงไม่มีใครอยากเกิดมาจน เกิดมาไร้โอกาส และต้องมารอรับการสงเคราะห์แบบไร้ศักดิ์ศรีตลอดชีวิต  

อย่าให้คนที่ต้องการความช่วยเหลือที่สุด ถูกผลักไปจนสุดทาง

อย่าให้ต้องมีคนไทยอีกหนึ่งชีวิตที่หมดสิ้นหนทาง จนต้องคิดสั้นอีกเลย.