เพนซ์&แฮร์ริส : ใครดีเบตดีกว่า?

เพนซ์&แฮร์ริส : ใครดีเบตดีกว่า?

ประเมินผลแบบหมัดต่อหมัด จากศึกการโต้วาทีการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ ระหว่าง รองประธานธิบดี ไมค์ เพนซ์ กับ วุฒิสมาชิก คามาล่า แฮร์ริส

*บทความโดย บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ
facebook.com/MacroView

ศึกการโต้วาทีระหว่าง รองประธานธิบดี ไมค์ เพนซ์ กับ วุฒิสมาชิก คามาล่า แฮร์ริส ถือว่ามีความสำคัญต่อผลลัพธ์ของศึกการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอยู่ไม่น้อย บทความนี้ จะขอประเมินผลการโต้วาที ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ ตามหัวข้อหลักๆ ดังนี้

ประเด็นโควิด-19

ต้องยอมรับว่า เพนซ์เตรียมตัวมาดีกว่าที่หลายคนคาดเอาไว้ โดยประเด็นนี้ ว่ากันตามเนื้อผ้า ฝั่งโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเป็นรองจากเหตุการณ์ที่ยังฝุ่นตลบอยู่ในตอนนี้ เริ่มจากด้านแฮร์ริส กล่าวโจมตีทรัมป์และทีมงานว่า จากหนังสือของ บ๊อบ วู๊ดเวิร์ด รู้อยู่ก่อนตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีนี้ว่า โควิด-19 รุนแรงเป็นโรคระบาดระดับโลก ทว่าไม่ยอมบอกความจริงกับชาวอเมริกัน

ด้านเพนซ์ อ้างคำของ ดร. แอนโธนี ฟาวชี่ ว่าหากทรัมป์ไม่ตัดสินใจห้ามสายการบินที่มาจากเมืองจีนเข้ามาสหรัฐ ในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จะต้องมีผู้เสียชีวิตในสหรัฐมากกว่านี้อีกเยอะ แถมยังกล่าวว่าสมัยโรคไข้หวัดใหญ่ช่วงปี 2552 สมัยโจ ไบเดน เป็นรองประธานาธิบดีก็มีชาวสหรัฐเสียชีวิตมากเช่นกัน

ทิ้งท้ายด้วยการแก้เกมถึงต่อสิ่งที่แฮร์ริสชมไบเดนว่า ทางเดโมแครตมีแผนการต่างๆ ที่จะบริหารจัดการโควิด-19 ได้ดี ว่าไบเดนเหมือนจะคัดลอกแผนการสู้โควิดโดยเหมือนเลียนแบบมาจากที่ต่างๆ มาผสมกันมากกว่า

ในประเด็นโควิด-19 ผมให้เพนซ์เหนือกว่าแฮร์ริสเล็กน้อย

ประเด็นเศรษฐกิจ

โดยธรรมชาติของประเด็นนี้ ทรัมป์และทีมงานน่าจะถือว่าได้เปรียบและก็ทำได้ค่อนข้างดีในการโต้วาทีครั้งนี้ ตามฟอร์มแล้ว สำหรับการเลือกตั้งแทบทุกครั้งที่ผ่านมา หากพรรคใดชูนโยบายการขึ้นภาษี จะถือว่าเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้ พรรคเดโมแครตมีนโยบายจะขึ้นภาษีเงินได้สำหรับผู้มีรายได้ค่อนข้างสูง รวมถึงขึ้นภาษีนิติบุคคลและตลาดทุน

ตรงนี้ ทางเพนซ์กล่าวโจมตีตามที่คาดไว้ ที่ดูเหมือนจะถูกจับมาเป็นประเด็นหลักคือ ข่าวที่ว่าไบเดนจะยกเลิกโครงการ Shale Gas หรือ Fracking ในอเมริกา ซึ่งจะกระทบต่อการจ้างงานในหลายรัฐของอเมริกา ซึ่งแฮร์ริสก็ย้ำว่าจะไม่เกิดขึ้น

แม้ทางแฮร์ริสจะย้ำถึงโครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภคและพลังงานทางเลือก ทว่าในแง่ของเหลี่ยมในการเลือกตั้ง ถือว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าการขึ้นภาษี

สงครามการค้ากับจีน

โดยธรรมชาติของประเด็นนี้ ทรัมป์และทีมงานน่าจะถือว่าได้เปรียบ เนื่องจากคนโดยส่วนใหญ่มองว่าการปกป้องทางการค้ากับจีนควรจะมีต่อไป เพียงแต่ว่ารูปแบบที่เหมาะสมจะเป็นเช่นไรมากกว่า

ตรงนี้ เหมือนว่าทางแฮร์ริสจะเตรียมตัวมาน้อย โดยเมื่อโจมตีว่าทรัมป์ทำให้ดุลการค้าย่ำแย่ลงแม้จะเปิดสงครามทางการค้ากับจีน จากนั้นก็หันไปแตะเรื่องนโยบายต่างประเทศอื่นๆ ผิดจากเพนซ์ที่ร่ายยาวโดยย้ำว่าทรัมป์ทำให้นโยบายด้านการค้าของสหรัฐมีทิศทางที่ถูกต้อง โดยหันมาปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐเองเป็นหลัก

ในประเด็นสงครามการค้ากับจีน เพนซ์ถือว่าเหนือกว่าเล็กน้อยตามคาด

นโยบายต่างประเทศ

จุดนี้ ถือว่าแฮร์ริสทำได้ดีจากการชูประเด็นที่ถือว่า จี้จุดที่ค่อนข้างอ่อนไหวของชาวอเมริกันหลายคน คือการที่ทรัมป์กล่าวโจมตีจอห์น แม็คเคน อดีตตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าไม่ใช่ฮีโร่ในสมรภูมิเวียดนาม ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ภรรยาของแม็คเคนก็หันมาสนับสนุนไบเดน นอกจากนี้ ยังกล่าวว่าทรัมป์เป็นผู้นำที่ชอบสร้างศัตรู ไม่ว่าจะเป็นประเทศต่างๆ ในยุโรปหรือบางประเทศในเอเชียที่เคยเป็นพันธมิตรกับสหรัฐก็กลายมาเป็นศัตรูทางการค้าและการเมืองหมด โดยหันมาจับมือกับรัสเซียซึ่งมีแต่จะสร้างความยุ่งยากให้กับสหรัฐ

นอกจากนี้ แฮร์ริสยังกล่าวโจมตีทรัมป์ว่า หลังการสังหารนายพลฮาเซ็ม โซไลมานี อดีตหนึ่งในผู้นำด้านการทหารของอิหร่าน จนถูกบอมบ์ฐานทัพอเมริกันในอิหร่านกลับในเวลาต่อมาจนมีทหารอเมริกันเสียชีวิต ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อผู้สูญเสียอย่างเพียงพอ

ในประเด็นนโยบายต่างประเทศ แฮร์ริสค่อนข้างทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน

นโยบายประกันสุขภาพ

ประเด็นนี้ ถือเป็นจุดอ่อนของพรรครีพับลิกัน ตรงที่ นโยบายประกันสุขภาพของทรัมป์มีข้อด้อยตรงที่หากชาวอเมริกันมีโรคร้าย อาทิ มะเร็งหรือโรคหัวใจมาก่อนหน้าเข้าโครงการ ภายใต้นโยบายประกันสุขภาพของทรัมป์ คนเหล่านี้ก็จะไม่ได้อยู่ในโครงการประกันสุขภาพ ซึ่งจุดนี้ เลยเป็นจุดที่แฮร์ริสกล่าวโจมตีเพนซ์ แม้ว่าเพนซ์จะกล่าวว่าทรัมป์เตรียมจะใช้คำสั่งประธานาธิบดีในการแก้ไขจุดนี้ ทว่าก็เหมือนจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

ในประเด็นนโยบายประกันสุขภาพ แฮร์ริสค่อนข้างทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน

ศาลสูงสุด

ประเด็นที่มีความสำคัญที่สุด คือการที่ทรัมป์แต่งตั้งแอมมี โคนี บาร์เรต เป็นสมาชิกของศาลสูงสุดแทน รูธ บาเดอร์ กินสเบิร์ก ที่เสียชีวิตไปเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อน ถือว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ควรจะรอให้ได้ผู้นำสหรัฐท่านใหม่ก่อนถึงจะทำการแต่งตั้งหรือไม่

โดยแฮร์ริสกล่าวโจมตีเพนซ์ว่า การที่รีบตั้งบาร์เรตก็เพื่อให้มีเสียงเพิ่มในศาลสูงสุดเพื่อเอื้อต่อการยกเลิก Obamacare หรือแผนประกันสุขภาพของโอบามา รวมถึงอาจจะส่งผลให้การถ่ายโอนอำนาจจากทรัมป์มาสู่ไบเดน หากไบเดนชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ สามารถทำได้ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากเสียงของศาลสูงสุดจะเอียงมาทางทรัมป์มากขึ้น หากเขาร้องเรียนประเด็นความโปร่งใสของการเลือกตั้งต่อศาลสูงสุด

ทางด้านเพนซ์ สวนกลับว่าทางเดโมแครตในตอนนี้ มีแผนการร่วมมือกับฝั่งทางด้านกระบวนการยุติธรรม ในการสกัดความพยายามของทรัมป์ที่จะเรียกร้องความยุติธรรมในการเลือกตั้งต่อศาลหลังการเลือกตั้ง

ในภาพรวม ถือว่าเพนซ์ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของทรัมป์ในแง่ของความนิ่งในการโต้วาที รวมถึงคุณภาพการดีเบตที่ไม่เป็นรองแฮร์ริส ภายใต้ศึกเลือกตั้งสหรัฐ ซึ่งในครั้งนี้ ถือว่าน่าสนใจ และมีความสำคัญต่อชาวโลกมากแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน