ได้เวลาเตรียมตัวทำงานออน์ไลน์กันแล้ว

ได้เวลาเตรียมตัวทำงานออน์ไลน์กันแล้ว

การงานต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามบริบทของบ้านเมือง เมื่อวันหนึ่งกลายเป็นวันที่คนอยู่รวมกันมากๆ ในสำนักงานแล้วจะมีโรคภัยไข้เจ็บตามมา

สำนักงานคงต้องกระจายกันออกไปการกระจุกตัวทำงานใกล้ๆ กัน 7 - 8 ชั่วโมงกลายเป็นความเสี่ยงที่ควรหาทางหลีกเลี่ยงเมื่อวันนั้นมาถึง ใครที่ไม่เคยทำงานกันแบบออน์ไลน์อาจมีชีวิตที่เสี่ยงมากกว่าคนอื่นเพราะทำงานที่อื่นไม่เป็น นอกจากทำที่โต๊ะเดิมห้องทำงานเดิม เลยต้องเสี่ยงโรคภัยทั้งในระหว่างทำงานและเดินทางไปทำงาน

ไม่มีใครเกิดมาแล้วรู้จักการทำงานแบบออนไลน์ทันที ต้องฝึกหัดต้องปรับนิสัยการทำงานกันสักพักจึงจะคุ้นเคย ทำงานได้คล่อง เหมือนที่เคยทำงานในสำนักงาน เห็นได้จากที่ญี่ปุ่นเตรียมงานจัดกีฬาใหญ่ของโลกแล้วต้องการลดปัญหาการเดินทาง เลยจัดส่งเสริมให้ทำงานออน์ไลน์ล่วงหน้ากันร่วมปี มีการซักซ้อมกันหลายครั้งพอมีโรคระบาดใหญ่คนของเขาจำนวนหนึ่งจึงพร้อมทำงานแบบออน์ไลน์ในทันที การเตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อมการการทำงานออน์ไลน์ จึงเป็นการตั้งตนให้อยู่ในความไม่ประมาท

ลองสำรวจดูว่าที่บ้านวันนี้อินเทอร์เน็ตแพ็คเกจที่ใช้อยู่เร็วพอหรือไม่ ทั้งดาวน์โหลดทั้งอัพโหลด ถ้าใครไม่ได้อัพเกรดมานานแล้วรีบคุยกับผู้ให้บริการเลยว่ามีอะไรใหม่ๆ เสนอให้บ้าง เลือกแพ็คเกจที่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงกว่า ที่คิดว่าจะใช้สักระดับหนึ่ง ยอมจ่ายแพงอีกหน่อย ถ้ากลัวเปลืองเงินไว้โรคระบาดผ่านพ้นไปแล้วค่อยปรับลงมาก็ได้ ตรวจสอบดูว่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตยังดี เรียบร้อยอยู่หรือไม่ ถ้าเก่าไปก็รีบเปลี่ยนให้ทันสมัยโดยเร็ว อย่าประมาทว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่หายไปจากท้องตลาดเหมือนหน้ากากและแอลกอฮอลล์เมื่อถึงวันหนึ่งที่คนต้องทำงานกันที่บ้าน

เมื่อเตรียมด้านเทคนิคต่างๆ ให้พร้อมแล้วก็เริ่มเตรียมตัวเองด้วยลองดูว่าแอปตัวไหนบ้างที่ต้องใช้ในการทำงานที่บ้านแทนที่สำนักงาน ส่วนใหญ่คงเป็นแอปเดิมๆ ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วแต่ที่ต้องเติมเต็มกันสักหน่อย คือ แอปสำหรับการประสานงานกันซึ่งจริงๆ แล้วแทบทุกแอปที่เราใช้สมาคมกันเป็นกลุ่มไม่ว่าจะเป็นไลน์ยูทูป อินสตราแกรม เฟซบุ๊ค ล้วนแต่ดัดแปลงมาใช้ประสานการทำงานกันได้ทั้งนั้น ลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ช่วยกันกำหนดขั้นตอนการประสานงานกัน โดยใช้แอปเหล่านี้เลียนแบบตามลักษณะที่เราเคยใช้กันอยู่เดิมในการสมาคมกันนินทาเจ้านายบ้าง ด่าใครบางคนบ้าง แต่ให้หันมาเป็นเรื่องการงานมากขึ้น

ถ้ายังต้องการเห็นหน้าเห็นตาแบบพร้อมหน้ากัน ก็หัดใช้ Group Video Call กันบ้างโดยอาจเริ่มจากแอปเดิมๆ ที่คุ้นเคยหรือจะหันไปใช้แอปที่เขาสร้างมาเพื่อการนี้โดยตรงจากหลายค่ายซอฟท์แวร์ก็ได้ แต่ต้องร่วมกันซ้อมการใช้งานให้คุ้นเคย ก่อนที่จะถึงวันที่เราจำเป็นต้องแยกย้ายกันไปทำงานที่บ้าน เช่น แอปชื่อZOOM ที่บ้านเรากล่าวถึงกันมากในช่วงนี้เพราะใช้ฟรีคุยกันได้ร่วมร้อยคน ครั้งละ 40 นาที ขอให้ระวังไว้หน่อยว่านิสัยการใช้งานแอปประเภทนี้ต่างไปจากที่เคยใช้ตอนใช้เครือข่ายสังคมรวมหัวกันนินทาใครต่อใคร จะเผลอด่าใคร เพราะคิดว่านั่งหน้าแป้นพิมพ์อยู่คนเดียวไม่มีใครเห็นหน้าตาไม่ได้

ในยุโรปที่โรคระบาดรุนแรงมหาวิทยาลัยเป็นผู้นำในการเป็นตัวอย่างในการทำงานแบบออน์ไลน์ เขาปิดชั้นเรียนแล้วต่างคนต่างเรียนจากพื้นที่ของตนจะอยู่บ้าน หรืออยู่ที่ไหนก็เรียนได้ตามสะดวก โดยไม่ต้องมารวมตัวอยู่ใกล้ๆกันในระหว่างเล่าเรียน ซึ่งบ้านเราก็เห็นมีประกาศกันอยู่บ้างว่าให้พิจารณาเล่าเรียนกันแบบออน์ไลน์ แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยจะไว้วางใจกันเลย ทำให้ออน์ไลน์เกิดขึ้นจริงได้ลำบาก อาจารย์ไปกลัวว่านักศึกษาจะไม่ตั้งใจเล่าเรียนกลัวว่าสอบออน์ไลน์จะมีการทุจริต ผู้บริหารก็กลัวในทำนองเดียวกันคือ กลัวการงานไม่เสร็จทั้งๆ ที่เปลี่ยนไปจริงๆ ก็แค่สถานที่ที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานอยู่บ้านอยู่สำนักงานก็แอปตัวเดิมนั่นแหละ

อย่ากลัวหลุดเก้าอี้อย่ากลัวงานเสียมากกว่ากลัวผู้คนจะเสี่ยงติดโรคระบาดแล้วจะทำงานออนไลน์ได้แน่นอน